ตำนานกลับมา! Pebble Time 2 ปรับดีไซน์ใหม่ ชูจุดเด่นจอ E-Ink แบตอึด 30 วัน
สำหรับแฟนๆ แกดเจ็ตยุคบุกเบิก ชื่อของ Pebble คงเป็นที่จดจำกันดีในฐานะสมาร์ทวอทช์สุดคลาสสิกที่โดดเด่นด้วยจอ E-Ink และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานข้ามสัปดาห์ หลังจากแบรนด์ล้มละลายและถูกขายให้ Fitbit ในปี 2016 ล่าสุด Eric Migicovsky ผู้สร้างดั้งเดิม ได้กลับมาสานต่อตำนานอีกครั้ง พร้อมเผยโฉมดีไซน์สุดท้ายของ Pebble Time 2 ที่เตรียมวางจำหน่ายในปีนี้
ดีไซน์สุดท้ายของ Pebble Time 2 ยังคงเอกลักษณ์ที่แฟนๆ คุ้นเคย ด้วยหน้าปัดสี่เหลี่ยมขนาด 1.5 นิ้ว พร้อมชุดปุ่มกด 3 ปุ่มทางด้านขวา และ 1 ปุ่มทางด้านซ้าย ตัวเรือนอัปเกรดมาใช้วัสดุสแตนเลสสตีล 316 ทำให้ดูพรีเมียมและแข็งแรงทนทานยิ่งขึ้น โดยจะมีตัวเลือกสีดำและสีเงิน รวมทั้งหมด 4 สไตล์ จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ Pebble แตกต่างจากสมาร์ทวอทช์ในตลาดอย่าง Apple Watch คือการเลือกใช้หน้าจอสัมผัสแบบ
หน้าจอแบบ E-Ink 64 สี แทนที่จะเป็นจอ OLED แม้สีสันอาจไม่สดใสเท่า แต่ข้อดีมหาศาลที่ได้กลับมาคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 30 วัน ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้หลายคนยังคงคิดถึง Pebble มาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ ตัวเรือนยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่จำเป็นครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟแบ็คไลท์ LED หลายสี, เซ็นเซอร์เข็มทิศ, ไมโครโฟนคู่, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การนับก้าว, การติดตามการนอน, ลำโพง และคุณสมบัติกันน้ำ
การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นเสียทีเดียว โดยก่อนหน้านี้ Eric Migicovsky ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อข้อจำกัดของ Apple ที่ทำให้สมาร์ทวอทช์จากแบรนด์อื่นทำงานได้ไม่เต็มที่บน iPhone เขากล่าวว่ามัน "แทบจะเป็นไปไม่ได้" ที่นักพัฒนาจะสร้างประสบการณ์การใช้งานให้ทัดเทียมกับ Apple Watch ได้ เขาจึงได้แนะนำผู้ใช้ iPhone ที่สนใจ Pebble ว่า หากอยากได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด อาจต้องเลือกระหว่าง "ส่งเสียงบ่นดังๆ ไปยัง Apple" หรือ "ย้ายไปใช้ Android" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าผู้ใช้งาน Android จะสามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ของ Pebble ได้มากกว่าผู้ใช้ iPhone
Pebble Time 2 ตั้งราคาไว้ที่ $225 (ประมาณ 8,300 บาท) และคาดว่าจะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้ ถือเป็นการกลับมาที่น่าจับตามองของแบรนด์ในตำนานที่อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ที่ยาวนานเหนือสิ่งอื่นใด