โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘รสนา’ แนะ ‘หมอสุภัทร’ ฟ้องผู้บริหาร สธ. ผิด 157 ชี้ มติลงโทษหนักให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม

THE STATES TIMES

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Hard News Team

เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.68) นางสาวรสนา โตสิตระกูล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิควรร้องผู้บริหารผิด 157 ที่สั่งลงโทษไม่เป็นธรรมหรือไม่

กรณีที่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข สั่งสอบวินัย นพ.สุภัทร ฮาสุรรณกิจ ผิดวินัยร้ายแรงถึงขั้นลงโทษจะให้ออกจากราชการนั้น ดิฉันเห็นว่าผู้บริหารยุคนี้ของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ในยุคมืด ที่คิดจะลงโทษผู้อยู่ในการบังคับบัญชา โดยขาดไร้คุณธรรมของผู้บริหาร ดังนั้นจึงควรที่จะฟ้องเอาผิดผู้บริหารและกรรมการสอบที่มีมติให้หมอสุภัทรออกจากราชการด้วยมาตรา 157 หรือไม่

กรณีของหมอสุภัทร ทำให้ดิฉันคิดถึง คดีของศาสตราจารย์นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ท่านเคยเล่าประวัติของท่านในหนังสือ “เกียรติประวัติแพทย์ไทยฝากไว้ให้คนรุ่นหลัง” สมัยที่ท่านยังเป็นหมอหนุ่มอายุแค่ 28 ปี ท่านเป็นผู้อำนวยการ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นรพ.ของรัฐแห่งแรกที่สร้างด้วยเงินบริจาคของประชาชน ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐแม้แต่แดงเดียว ชื่อโรงพยาบาลนี้ยังคงใช้อย่างเป็นทางการมาถึงปัจจุบัน

ต่อมาเกิดปัญหาว่าตามระเบียบของราชการแล้ว รายได้ของรพ.รัฐทุกแห่งต้องส่งเข้าคลังก่อน นพ.เสม พริ้งพวงแก้วในฐานะ ผอ.รพ.และแพทย์ใหญ่ประจำจังหวัดได้ต่อสู้ปกป้องสิทธิของรพ.ในการดูแลรายได้ที่รพ.หามาได้เองในรูปของ “เงินทุนสะสม” โดยไม่นำส่งคลัง รัฐมนตรีคลังในสมัยนั้นคือพระยาไชยยศสมบัติ ท่านขึ้นไปดูว่า รพ.เชียงรายวิเศษอย่างไร ทำไมไม่เอาเงินเข้าคลัง ท่านถามนพ.เสมว่า “ทำไมเงินที่คุณหมอหาได้ จึงไม่นำส่งคลัง คุณหมอทำผิด พ.ร.บ.คลัง”

ท่านตอบรัฐมนตรีว่า “รพ.นี้รัฐบาลไม่ได้ออกเงินสักบาทเดียว ชาวบ้านเขาออกเอง ถ้าผมเอาเงินจำนวนนี้ไปให้รัฐบาล ผมไม่รู้จะเอาอะไรมารักษาชาวบ้าน เงินนี้มันเป็นวงจร เอาเงินไปซื้อยามาให้ชาวบ้าน หมุนเวียนไป” ท่านรัฐมนตรีก็ไม่ว่าอะไร

หลังจากท่านเจ้าคุณไชยยศสมบัติกลับกรุงเทพฯก็มีคำสั่งพิเศษว่า ต่อไปนี้ถ้ารพ.มีรายได้ ให้สามารถเก็บรายได้เป็นเงินทุนสะสม เป็นการเริ่มต้น “เงินทุนสะสม” ของรพ.ในประเทศไทยตั้งแต่นั้นมา นี่ไม่ใช่กฎหมาย แต่เป็นคำสั่งที่ถือเป็นแนวทางสืบมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า นพ.เสมทำผิด พรบ.คลังจริง เพราะเงินที่ได้รับบริจาคหลายล้านบาทไม่ได้ส่งเข้าคลังที่กรุงเทพฯ แต่ผู้บริหารเห็นว่ามีเหตุผลที่สมควร ไม่หัวสี่เหลี่ยมอ้างแต่ระเบียบจ้องจะเอาผิดผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้ ทั้งที่กรณีของนพ.เสม เป็นการทำผิดพ.ร.บ.คลัง ไม่ใช่แค่ผิดระเบียบเท่านั้น

แต่ผู้บริหารของกระทรวงการคลังและกรมสาธารณสุขในสมัยนั้น มีความเป็นนักบริหารมืออาชีพ และมีความใจกว้างมาก การลงไปดูและสอบถามข้อเท็จจริง ทำให้ไม่เอาผิดนพ.เสม พริ้งพวงแก้ว และยังมีคำสั่งให้ทุกรพ.จัดตั้งเงินทุนสะสมสำหรับใช้ในรพ.ได้อีกด้วย

ในกรณีของนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ การเข้ามาช่วยคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงวิกฤตที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดในวงกว้างอย่างรวดเร็ว(Superspreader) ควรได้รับความชื่นชมมากกว่าการจ้องลงโทษหนักถึงขั้นให้ออกจากราชการ ใช่หรือไม่

ยิ่งข้อมูลว่า นพ.สุภัทรซื้อ ATK ชิ้นละ 230 บาทถูกกว่าราคาแนะนำของกรมการค้าภายในที่ 350 บาท และการแบ่งซื้อตามอำนาจการสั่งจ่ายครั้งละ 2 ล้านบาทเพราะไม่สามารถกำหนดจำนวนผู้มาคัดกรองได้ อีกทั้งการจัดซื้อแบบเฉพาะเจาะจง ก็ทำได้ตามระเบียบที่กรมบัญชีกลางได้ปลดล็อกไว้แล้ว รวมทั้งการเดินทางมาตรวจคัดกรองที่กรุงเทพก็ได้รับการเชิญจาก สปสช. ในครั้งที่1 และได้รับเชิญจากกระทรวงสาธารณสุขในครั้งที่2,ที่3 จึงต้องถือว่านพ.สุภัทรไม่ได้ทำผิดระเบียบ และไม่ได้ทำให้ราชการเสียหายแต่อย่างไร

การเอาผิดวินัยราชการอย่างร้ายแรงถึงให้ออกจากราชการ น่าจะไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการสั่งซื้อนำเข้ายาฟาวิพิราเวีร์ยในช่วงเดือน สิงหาคม 2564 ที่มีราคาเม็ดละ120 บาท ถึง 424 ล้านเม็ดทั้งที่สถิติคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในระยะ 17 เดือนก่อนหน้านั้น มีเพียง 1 ล้านคนเท่านั้น ใช่หรือไม่ ?!

การนำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์ 424 ล้านเม็ด ราคา120 บาท/เม็ด มูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาท สามารถใช้กับคนป่วยถึง 8 ล้านคน เป็นการซื้อมากเกินไปเท่าไหร่ ไม่เคยมีข้อมูลว่ามีเหลือตกค้างจนหมดอายุ กี่ล้านเม็ด ?!

นอกจากนี้ มีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด -19 หลายยี่ห้อรวมจำนวนหลายล้านโดส ประเมินว่ามีวัคซีนที่หมดอายุจำนวนประมาณ 12 ล้านโดส มูลค่า 6,000 ล้านบาท ใช่หรือไม่ !?

ผู้บริหารที่สั่งซื้อยาและวัคซีนป้องกันและรักษาโควิด-19 เหลือทิ้งจำนวนมหาศาล ประมาณเป็นเม็ดเงินน่าจะมากกว่า 10,000 ล้านบาท ผู้บริหารคงอ้างทำถูกระเบียบ แต่ทำให้ราชการและภาษีของประชาชนเสียหายมหาศาล กลับไม่มีการตรวจสอบเอาผิด ใช่หรือไม่ ?!

แต่กับกรณีหมอสุภัทรที่ช่วยดูแลประชาชนในช่วงวิกฤต และใช้เงินอย่างประหยัดในจำนวนที่น้อยกว่ามาก ยังไม่ถึง 10 ล้านบาท คัดกรองคนได้จำนวน 192,905 คน พบคนติดเชื้อ 22,451คน และการดำเนินการก็สามารถอ้างระเบียบได้ จึงต้องถือว่าหมอสุภัทรไม่ได้ทำผิดระเบียบใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งยังไม่ทำให้ราชการเสียหาย เหมือนที่ผู้บริหารได้สั่งซื้อวัคซีนและยาฟาวิพิราเวียร์อย่างถูกระเบียบ แต่ทำให้ราชการเสียหาย เพราะซื้อมาจนเหลือใช้และเหลือจำนวนเป็นล้านที่หมดอายุไปโดยไม่ได้ใช้ นับเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นล้านบาทที่เสียหายไป ใช่หรือไม่ แต่ไม่มีการสอบเอาผิดผู้บริหาร ที่บริหารจนราชการและภาษีจากเงินประชาชนเสียหายมหาศาล เทียบไม่ได้กับกรณีของหมอสุภัทรเลย แต่ก็ไม่มีใครผิด ใช่หรือไม่

แต่กลับมีการสอบวินัยร้ายแรงจะเอาผิดหมอสุภัทรให้ออกจากราชการให้ได้ ทั้งที่ราชการก็ไม่ได้เสียหาย ประชาชนคนกรุงเทพได้ประโยชน์ ช่วยลดการแพร่เชื้อ ลดจำนวนผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายคนติดเชื้อที่ต้องมานอนโคม่าในรพ. ผลได้เหล่านี้ เหตุใดจึงไม่นำไปพิจารณา ?!

กรณีของหมอสุภัทร เมื่อเทียบกับความเสียหายที่ผู้บริหารในกระทรวงสาธารณสุขบริหารยาและวัคซีนแล้ว ย่อมเทียบกันไม่ได้เลย สำหรับวิญญูชนมองกรณีนี้แล้ว ย่อมลงความเห็นได้ว่า น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งแบบชัดเจนมาก ใช่หรือไม่

ถ้ารัฐมนตรี และปลัดกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ให้ความเป็นธรรมต่อหมอสุภัทร ดิฉันเห็นว่า หมอสุภัทรควรฟ้องร้องว่าผู้บริหารและกรรมการที่สอบวินัย และมีมติสั่งลงโทษไม่เป็นธรรม ด้วยมาตรา 157 ต่อไป ดีไหม ??!!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STATES TIMES

จีนทดสอบสะพานหุบเขาหัวเจียง มณฑลกุ้ยโจว ชี้ผ่านผลเทสการรับน้ำหนักแบบสบายๆ เตรียมเปิดใช้ทางการ ก.ย. นี้

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สื่อแฉ!! ทหารยูเครนจาก ‘กองกำลังป้องกันดินแดน (TDB)’ นำเงินบริจาค…ไปซื้อรถหรู Land Rover ใช้ขับส่วนตัว

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ลูกชายนายอลงกต แจ้งความปมพ่อถูกสวมบัตร ปชช.หวั่นเกิดความเสียหาย

สำนักข่าวไทย Online

ย้อนประวัติศาสตร์ 1,000 ปี ‘จักรวรรดิขะแมร์’ ผ่านห้วงเวลาที่รุ่งเรืองสุดขีด - สู่การดำดิ่งแทบสิ้นชาติ

THE STATES TIMES

ชายแดนไทย-กัมพูชา พบโดรน 10 ลำ กองทัพไทยพร้อมรับมือ – เตรียมถก RBC 27 ส.ค.

สยามรัฐ

“บิ๊กเต่า” เปิดใจหลังยื่นร้องขอความเป็นธรรมปมแต่งตั้งโยกย้าย

สำนักข่าวไทย Online

"ภูมิธรรม" ประชุมกก.กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งให้อำนาจท้องถิ่นมากขึ้น

Manager Online

เปิดแผนที่ “บ้านหนองจาน” อยู่ในไทย แต่ทำไมกัมพูชากล้าอ้างสิทธิ์

TNN ช่อง16

"อนุทิน" ปัดเตรียมพร้อมนั่งนายกฯ พรรคไม่ได้คุยหลัง 29 ส.ค. แจงร่วมเฟรม “สารัชถ์” เหตุสนิทมานาน

Manager Online

สหรัฐเผชิญพายุทรายรุนแรง

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...