ทหารกัมพูชา ป่วนช่องอานม้า ขณะคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่
19 ส.ค. 2568 กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมข่าวทหารนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 14 นาย
โดยมีพลตรี ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นหัวหน้าคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบกรณีฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามาตัดลวดหนาม ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและกระทบต่อความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ
ระหว่างคณะลงพื้นที่อยู่นั้น ปรากฏว่า มีทหารกัมพูชานายหนึ่งแสดงท่าทีไม่พอใจ ส่งเสียงดังโวยวาย ไม่อนุญาตให้ฝ่ายไทยนำคณะเข้าสำรวจพื้นที่โดยรอบ อ้างว่ามีจำนวนผู้ติดตามมากเกินไปและอนุญาตเพียงให้คณะผู้สังเกตการณ์เดินทางเข้าสู่บริเวณอนุสาวรีย์ตาอมเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ไทยถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่ร้านค้าข้างเคียง
ทหารกัมพูชาคนดังกล่าวกล่าวอ้างถึงอธิปไตยของกัมพูชาและพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อดึงความสนใจจากคณะผู้สังเกตการณ์ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม คณะผู้สังเกตการณ์ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบพื้นที่และการรับฟังบรรยายสรุปจากฝ่ายทหารไทยเป็นหลัก โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการตรวจเยี่ยมพื้นที่พบว่า ร้านค้าบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สู้รบในอดีต ทั้งจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ขณะที่อนุสาวรีย์ตาอมยังคงเป็นจุดสำคัญของการตรวจสอบ
นอกจากนี้ฝ่ายไทยชี้แจงเพิ่มเติมว่า พื้นที่ฝั่งกัมพูชาเคยใช้เป็นศูนย์อพยพของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ก่อนจะปรับเปลี่ยนเป็นสถานประกอบการคาสิโนในปัจจุบัน
สำหรับช่องอานม้า นับเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เคยเกิดการสู้รบสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา โดยปัจจุบันทั้งสองฝ่ายได้จัดกำลังทหารตรึงพื้นที่โดยปราศจากอาวุธ ตามข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้