ASL คาด SET แกว่งตัว sideway แนะจับตาการเมือง
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 16.34 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - บล.เอเอสแอล ระบุว่า ปัจจัยต่างประเทศ :
(0) การประชุมนโยบายการเงินที่ Jackson Hole
(0) ติดตามการพูดคุยระหว่างทรัมป์ - ยูเครน และยุโรป
ตลาดรอดูทิศทางนโยบายการเงินจากการประชุมเฟดประจำปีที่แจ็กสันโฮล (21-23 ส.ค.) โดยเฉพาะสุนทรพจน์ของประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งประเมินว่าเฟดอาจส่งสัญญาณการปรับลด
ดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดแรงงานที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ยังควบคุมได้ ในด้าน บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น (10 ปี 4.35%, 30 ปี 4.95%) ก่อนการเปิดเผยรายงานประชุม FOMCเดือนก.ค. และท่ามกลางความกังวลตลาดแรงงานที่ชะลอตัว ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ต่ำกว่าคาด และตัวเลขเดือนก่อนหน้าถูกปรับลดลงอย่างมาก อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 4.2%สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจ
ในส่วนของปัจจัยอื่น นักลงทุนติดตาม ผลประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Walmart, Home Depot และTarget ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการใช้จ่ายผู้บริโภคภายใต้ภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางการค้า
ด้านการเมืองโลกยังจับตาการเจรจาที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับผู้นำยูเครนและผู้นำยุโรป แม้ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจนในการยุติสงคราม แต่เพิ่มแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ในระยะสั้น เนื่องจากท่าทีของทรัมป์เอนเอียงไปทางรัสเซีย โดยเสนอให้ยูเครนยุติความหวังเรื่องไครเมียและการเข้าร่วม NATO
นอกจากนี้ การโจมตีท่อส่งพลังงานของรัสเซียโดยยูเครนและการที่สหรัฐฯ กดดันให้อินเดียหยุดซื้อน้ำมันรัสเซียยิ่งเพิ่มความกังวลด้านอุปทาน หนุนราคาน้ำมันปรับขึ้น
ปัจจัยในประเทศ :
(-) ตลาดกังวลการเมืองในประเทศ
(-) เมียนมาปิดด่าน
(0) Update GDP 2Q ของไทย
ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1230-1260 จุด ตลาดเริ่มขายลดความเสี่ยงจากประเด็น การเมืองในประเทศ โดยในวันศุกร์นี้ (22 ส.ค.) ศาลรธน. มีนัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 112 และพ.ร.บ. คอมฯ ของคุณทักษิณ และในศุกร์หน้า (29 ส.ค.) ศาลรธน. มีนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีคลิปเสียงฮุนเซนของนายกฯแพทองธาร นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบจากเมียนมามีคำสั่งปิดด่านแม่สอด–เมียวดี โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ส่งผล
ให้การส่งออกไทยสะดุดทันที
โดยเฉพาะกลุ่มโทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ อาหาร-เครื่องดื่ม และน้ำมันปาล์ม ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าอาจได้รับผลกระทบเชิง sentiment เนื่องจากไทยพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากเมียนมามากที่สุด คิดเป็น 29% หรือมูลค่า 55,000 ล้านบาท ของการนำเข้าทั้งหมดในปี 2564 ซึ่งมองว่าอาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากไทยนำเข้าก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำเก็งกำไร OSP MEGA GULF BGRIM GPSC
ข้อมูล GDP ไทยที่ออกมาดีตามตลาดคาด (2.5-2.7%YoY) โดย GDP 2Q25 +0.6%QoQ, +2.8%YoY ดีขึ้นจากไตรมาส 2/67 จากการส่งออกที่ขยายตัวแรง (2Q = 15%, 1H=15%) ตามการเร่งสต๊อกสินค้าก่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ส่วนชะลอลงจากในไตรมาส 1/68 ปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของการผลิตภาคนอกเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะที่การผลิตภาคเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับด้านการใช้จ่าย ทั้งเอกชนและรัฐบาลชะลอตัวลง การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การสะสมทุนถาวรเบื้องต้น และการนำเข้าสินค้าและบริการเร่งตัวขึ้น ทั้งนี้รวมครึ่งปีแรก GDP ขยายตัว 3.0% ทั้งนี้ได้ปรับ กรอบ GDP ปี 68 โต 1.8-2.3% จาก 1.3-2.3% และ อัตราเงินเฟ้อ ปี 68เป็น 0.0-0.5 % จากเดิมคาด 0.0-1.0%
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/68 คาดว่าจะเริ่มชะลอตัวลงจากการส่งออกที่หดตัว ส่งผลต่อคาดการณ์ของตลาดที่เปิดโอกาสให้ กนง. ยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อย่างน้อยอีก 1 ครั้งภายในปีนี้ จากการประชุมรอบ 8 ต.ค. และ 17 ธ.ค. เพื่อคงโมเมนตัมการขยายตัวของเศรษฐกิจ สอดรับกับมุมมองของผู้ว่าธปท. คนใหม่ (เริ่มดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค.) ที่มีทีท่าในการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
Stock pick : HMPRO ผลงาน 2H ยังเติบโต เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 7.85 บาท