โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘คิวแน่นขนาดนี้ กินมาม่าที่หอไปก่อนละกัน’ ทำยังไงดี ร้านเปิดใหม่ใจอยากลอง แต่เจอสงครามแย่งคิวจนเลี้ยวกลับแทบไม่ทัน

a day magazine

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • a day magazine

‘พรุ่งนี้เตรียมพบกับร้านซูชิเจ้าดังจากญี่ปุ่นมาเปิดสาขาแรกในกรุงเทพ’

พลันที่โซเชียลต้นทางซึ่งเป็นเพจออฟฟิเชียลของร้านดังกล่าวโพสต์ คนก็เข้าไปกดไลก์ กดหัวใจ คอมเมนต์ และแชร์มาหน้าฟีดรัวๆ ด้วยความตื่นเต้นว่าจะได้กินร้านนี้ที่ไทยโดยไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปกินที่ญี่ปุ่นแล้ว

แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา คือ ‘The Hunger Game’ หรือสงครามการแย่งชิงคิวของผู้ที่ต้องการได้เช็กอินเป็นคนแรกๆ ตั้งแต่ร้านเปิด เราจึงเห็นปรากฏการณ์เวลาที่มีร้านดังมาเปิดในไทย หรือร้านใหม่ๆ ที่น่าสนใจ มีคนไปรอต่อคิวจนแน่นขนัดในช่วงแรกที่ให้บริการ จนทำให้ระบบร้านวันแรกต้องปั่นป่วนกันเลยทีเดียว

บางร้านที่ดังมากๆ ไม่ได้มีคนไปรอต่อคิวจนล้นแค่สองสามวัน แต่ลากยาวไปเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนเลยก็มี เรียกว่ากระแสไม่ตกลงง่ายๆ ใจคอพี่จะไม่แบ่งลูกค้าให้ร้านอื่นกันเลยหรือไง

แน่นอนว่าเมื่อมีผู้ชนะ ก็ย่อมมีผู้แพ้ มีคนที่ได้กิน ก็ต้องมีคนที่ไม่ชนะในเกมแห่งความไวนี้ จนอาจพาลทำให้รู้สึกหงุดหงิด เซ็ง ผิดหวัง ไปจนถึงอาการทางจิตวิทยาอย่างความกลัวที่จะพลาดเหตุการณ์สำคัญ หรือประสบการณ์บางอย่างที่คนอื่นได้รับ (FOMO)

แต่แท้จริงแล้ว มาช้ายังดีกว่าไม่มา บางครั้งหากอยากกินร้านเปิดใหม่ แต่ไม่ได้อยากเจอคลื่นคนในช่วงแรกของการเปิดร้าน ทว่าก็กลัวว่าถ้าพลาดการเช็กอินร้านใหม่เป็นคนแรกๆ แล้วจะเฟล เป็นแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี?

เอาน่า เดี๋ยวกระแสก็ผ่านไป

เข้าใจได้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม เมื่อมีร้านดัง ร้านน่าสนใจ ร้านจากต่างประเทศมาเปิดใหม่แล้วมีคลื่นมนุษย์แห่กันไป ก็อาจทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลัง ‘พลาด’ อะไรบางอย่าง หรือ ‘ตกขบวน’ แต่หากลองดึงสติสักนิด สิ่งที่คนแห่กันไปอาจเป็นแค่ ‘กระแส’ และ ‘ความใหม่’ เท่านั้น ลองถามตัวเองว่าอยากรีบไปแล้วเครียดที่ต้องไปสู้กับคนอื่น หรือรอให้คิวน้อยลง แล้วได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า เพราะความวุ่นวายน่ะแค่ชั่วคราว รออีกหน่อยแล้วไปกินแบบสบายๆ จะดีกว่าไหม

เปลี่ยนความคิดเป็นการตั้งตารอ

การต้องไปต่อสู้กับฝูงชนเพื่อแย่งคิวในช่วงแรกเป็นสิ่งน่าหงุดหงิด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราจะได้คิวไหม หรือไปแล้วต้องตีรถกลับฟรีเพราะคิวเต็ม หรือแม้จะได้คิว แต่ก็ต้องไปเจอความวุ่นวายที่ควบคุมไม่ได้ในร้านอีก ทั้งลูกค้าคนอื่นๆ ที่ต่างก็ตื่นเต้น หรือระบบร้านที่อาจยังไม่เข้าที่เข้าทาง ลองปรับความคิดว่า แทนที่จะไปลุยสงครามตั้งแต่แรก ลองเลือกที่จะ ‘ตั้งใจรอ’ จะช่วยให้รู้สึกว่าเรา ‘ควบคุมสถานการณ์ได้’ และเปลี่ยนให้มันเป็น ‘ของขวัญ’ ให้ตัวเอง เช่น กาปฏิทินรอว่าสิ้นเดือนเงินเดือนออกค่อยไปลุยพร้อมกับเพื่อนดีกว่า การลองทำแบบนี้จะทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้กำลังพลาด แต่กำลังเลือกอย่างชาญฉลาดต่างหาก!

ฮิตนักใช่ไหม ไปร้านอื่นก็ได้

หากใครติดอินดีและหมั่นไส้ว่าแหม ร้านนั้นเปิดใหม่คนแห่ไปเต็มเลย ลองเปลี่ยนเป้าหมายหันไปหา ‘ร้านลับๆ’ ที่ยังไม่เป็นกระแส แต่ดูน่าอร่อยและน่านั่งไม่แพ้กันก็เป็นทางที่น่าสนใจ ลองหาในกลุ่มเพจของกิน เดินสำรวจเอง หรือหาร้านใกล้เคียงแถวนั้นดูก็ได้ เพราะในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังไปต่อคิว เราอาจได้ค้นพบร้านแรร์ที่ยังไม่มีใครเจอก็ได้

ปล่อยไปก่อน เตี่ยสอนไว้

จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะรู้สึกเฟล หรือเซ็งที่ไม่สามารถไฟต์จนได้คิวมา จนเหมือนต้อง ‘หลุด’ จากเทรนด์ แต่สิ่งสำคัญ คือต้อง ‘ยอมรับ’ ความคิดนั้นและไม่ปล่อยให้มันมาควบคุมเรา เพราะมันเป็นเพียงแค่อาการ FOMO ของการกลัวพลาดกระแสเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริง และความรู้สึกนี้จะผ่านไป หรือลองใช้ช่วงเวลานี้หันมาดูแลใจตัวเองก็ยังได้ เช่น ไปแวะร้านคาเฟ่ที่ชอบ ฟังเพลง หรือพอดแคสต์ที่ชอบ หรือลองเข้าร้านใหม่แบบโนแพลนก็น่าสนใจ คือเอาเวลาที่จะต้องเสียไปกับการสู้กับฝูงชนมาดูแลตัวเองดีกว่า

หาจังหวะที่เหมาะกับตัวเองที่สุด

ทุกคนมีจังหวะของตัวเอง ไม่ต้องรีบร้อน ลองวางแผนให้ไปในจังหวะที่เหมาะกับเราเอง ไม่ใช่จังหวะที่ ‘คนอื่น’ พาไป แม้จะไม่ได้ไปเช็กอินตั้งแต่วันแรก แต่ลองหาวันที่คนน้อยๆ เช่นวันธรรมดา หรือช่วงเวลาที่คนน่าจะน้อยดูก็ได้ บางร้านมีระบบให้จองคิวล่วงหน้า ก็ลองจองทิ้งไว้นานๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงแรกหรอก นี่คือแนวคิดที่ว่า เราไม่ได้มาช้า แต่เราแค่เลือกเวลาที่เหมาะกับตัวเองที่สุด

ร้านใหม่ที่น่าสนใจ ใครๆ ก็อยากเป็นคนแรกที่ได้มีประสบการณ์ แต่หากต้องแลกมาด้วยการเสียสุขภาพจิตเพียงเพราะคนเยอะจน ‘พลาดการเช็กอินตั้งแต่แรก’ ก็หาใช่เรื่องไม่ สุดท้ายแล้ว ร้านก็ยังอยู่ที่เดิม ไว้รอจังหวะที่กระแสเริ่มซาแล้วค่อยไปก็คงไม่มีใครว่า

แต่เอาเข้าจริง เรื่องแบบนี้ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะมีความใจสู้มากกว่ากัน เอาเป็นว่าใครใคร่สู้ สู้ ใครใคร่รอ รอ ก็แล้วกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก a day magazine

ไร้คลื่นสะท้อนกลับ แม้สืบสายพันธุ์ดังวาฬกำเนิด ‘เสียงโดดเดี่ยวที่ 52 เฮิรตซ์’ ใต้ก้นสมุทร

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เริ่มแล้ว! Under Armour เปิดตัวแคมเปญ “I Run but I’m not a Runner” สร้างคอมมิวนิตี้ รวมตัวคนรุ่นใหม่เตรียมสนุกตลอดเดือนกรกฎาคมนี้

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

เดลินิวส์

Jurassic World: The Experience ไดโนเสาร์คืนชีพ! ยกจักรวาลจูราสสิกบุกกรุงเทพฯ

LSA Thailand

หมาเน่าลอยน้ำ เหม็นจนทนไม่ไหว! รัชกาลที่ 4 ถึงขั้นออกประกาศ “ห้ามทิ้งซากสัตว์ลงแม่น้ำ”

ศิลปวัฒนธรรม

“ไว้เล็บ” ธรรมเนียมนิยมแต่กรุงศรีฯ คือเครื่องยืนยันชาย,หญิง เจ้าของเล็บ คือคนไฮโซ มีตังค์ ไม่ต้องทำงานหนัก

ศิลปวัฒนธรรม

บริษัทสอาด บริษัทรับสูบส้วมเจ้าแรกของสยาม

ศิลปวัฒนธรรม

เชื่อหรือไม่ ครั้งหนึ่ง “ป่อเต็กตึ๊ง” เปิดให้บริการทำคลอดฝากครรภ์

ศิลปวัฒนธรรม

กระดูกวัวและกระดองเต่า ยืนยันการมีอยู่ของ “ราชวงศ์ชาง” ได้อย่างไร?

ศิลปวัฒนธรรม

ไทยยกเลิก “จิ้มก้อง” กับจีน สมัยไหน?

ศิลปวัฒนธรรม

ข่าวและบทความยอดนิยม

สำรวจ 6 สัญญะความเป็นคาทอลิกใน ‘The Phoenician Scheme’ หนังเรื่องล่าสุดจากเวส แอนเดอร์สัน

a day magazine

‘นั่งสมาธิ 10 นาที คิดพล็อตละครแค้นไป 10 ซีซัน’ จะทำยังไง ใจอยากคิดทำสิ่งดี แต่สมองดันจัดคิว ‘ความชั่วร้าย’ มาให้

a day magazine

‘Blueboo’ เด็กชายตัวฟ้าสีเศร้าในโลกสมมุติ เมื่อน้องแมวจากไป โลกทั้งใบจึงกลายเป็นงานศิลปะ

a day magazine
ดูเพิ่ม
Loading...