โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดรายละเอียดคำชี้แจง ศาลทหารสูงสุด คดี “น้องเมย” ถูกสั่งธำรงวินัย จนเสียชีวิต

SpringNews

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาลทหารร่อนหนังสือชี้แจง จากกรณี คดี “น้องเมย” ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการสั่งธำรงวินัย จนเสียชีวิต และเป็นที่สนใจของโลกออนไลน์อยู่ในเวลานี้ ศาลทหาร ชี้แจ้งใจความ ดังนี้

เรื่อง คดีนักเรียนเตรียมทหารตามคำพิพากษาของศาลทหารสูงสุด ที่ 18/2568

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 ได้อ่านคำพิพากษาของศาลทหารสูงสุด ที่ 18/2568 ระหว่าง อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 12 โจทก์ กับ นักเรียนเตรียมทหาร 5 จำเลย โดยมีการพิพากษาลงโทษในสถานเบา และรอการลงโทษให้กับจำเลย กรณีจำเลยทำร้ายร่างกายด้วยการสั่งธำรงวินัยแก่นักเรียนเตรียมทหาร ภ. ผู้เสียหาย จนเสียชีวิต

คำพิพากษาศาลทหารสูงสุด ที่ 18/2568 มีเนื้อหาสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2560 จำเลยสั่งธำรงวินัยโดยให้ผู้เสียหายทำท่าทางท่าหนึ่งคลุกทราย ระหว่างนั้นผู้เสียหายเป็นลมหมดสติ จำเลยได้นำคนเพื่อนไปยังโรงเรียนเตรียมทหารและได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นและผู้เสียหายถึงโรงพยาบาล มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำประมาณ 4 เซนติเมตร แพทย์ให้ความเห็นว่า ผู้เสียหายมีอาการช็อก ไม่รู้สึกตัว ความดันต่ำ เห็นกระพุ้งแก้ม ดวงตาดำลึกสังเกตยาก มีภาวะตับ วับ หัวออกต่ำ กล้ามเนื้อหัวใจระลึกไม่สม่ำเสมอคล้ายชัก เพราะเลือดกลายเป็นกรดผิดปกติ มาตรวจผู้เสียชีวิต ได้ระบุว่าต่อพนักงานสอบสวนในข้อบ่งชี้สาเหตุการเสียชีวิตว่าผู้เสียหายมีเม็ดเลือดแดงแตก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ที่ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิต พบว่าอาการที่เกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และยังมีรายงานผลการชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันความเห็นของพนักงานสอบสวน

ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ให้รอการกำหนดโทษจำเลยไว้ 1 ปี

ศาลทหารกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่จิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ฐานซ้อมทรมานผู้เสียหายอยู่จริงจึงรับสารภาพว่าเป็นลมหมดสติ ให้จำคุกจำเลย 6 เดือน 15 วัน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี

ศาลทหารกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่จิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ฐานซ้อมทรมานผู้เสียหายอยู่จริงจึงรับสารภาพว่าเป็นลมหมดสติ ให้จำคุกจำเลย 6 เดือน 15 วัน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี

จำเลยที่มีคำพิพากษาระบุว่าไม่ได้กระทำความผิด และไม่ยินยอมคำฟ้อง และโต้แย้งว่าตนเองไม่ได้มีเจตนากระทำร้ายร่างกาย

ศาลทหารสูงสุดพิเคราะห์ว่า การที่จำเลยสั่งธำรงวินัยผู้เสียหายโดยฝืนคำสั่งของโรงเรียนเตรียมทหาร และมาตรความปลอดภัย อันเป็นเหตุให้ผู้เสียหายหมดสติ ให้ถือเป็นคำผิดในความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลทหารกลาง

อย่างไรก็ตาม แม้จำเลยจะอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหาย แต่จำเลยกระทำโดยรู้ว่าการธำรงวินัยเช่นนี้อาจทำให้ผู้เสียหายบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตายได้ ก่อนเกิดเหตุได้มีการสั่งห้ามซ้ำๆ ความประพฤติ การสั่งธำรงวินัย จึงให้รอการลงโทษไว้ไม่กำหนด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 วรรคสอง พิพากษายืนตามศาลทหารกลาง

ด้วยเหตุนี้ คดีที่ศาลทหารสูงสุดมีคำพิพากษาตามข้อ 2 ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2560 จึงไม่ใช่คดีที่มีการกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนถึงแก่ความตาย อันจะเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นก่อนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 แต่กรณีทั้งหมดเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นเหตุให้กับนักเรียนเตรียมทหาร ภ. ตามรายงานแพทย์ พฤติการณ์เป็นเพียงลมคล้ายชักเป็นผลกระทบอื่น นอกจากนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีเกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 จะเชิงลงว่า จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565

สำหรับคดีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ที่เหตุเกิดในเดือนตุลาคม 2560 นั้น ปัจจุบันยังไม่มีการฟ้องคดีต่อศาลทหาร ส่วนคดีดังกล่าวหากฟ้องไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหาร

ในการพิจารณาพิพากษาคดีที่ยังไม่จบ ศาลทหารทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติ ยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และความเป็นธรรม

จึงให้ทราบตามกัน และขอความร่วมมือในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคดีดังกล่าวตามข้อเท็จจริงในคดี เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหารที่ต้องยุติธรรมตามกฎหมาย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

อภิสิทธิ์ กางสูตรผ่าทางตัน ทำกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ - ติง ทักษิณ ทำเกินขอบเขต

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เร่งดึงนักท่องเที่ยว ‘แดนภารตะ’ เที่ยวไทย ชดเชยตลาดที่ชะลอตัว!

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

พนังกั้นน้ำล้ม! มวลน้ำทะลักเข้า รพ.น่าน เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

มุมข่าว

โลกร้อนคุกคาม "กล้วย กาแฟ โกโก้" อาหารหลักคนหลายร้อยล้าน

ฐานเศรษฐกิจ

ฝนถล่มหนัก! ภาคเหนือ-ตะวันตกของไทยเจอฝนตกหนักถึงหนักมาก

PostToday

ไฮโดรเจนสีเขียวทั่วโลกสะดุด ต้นทุนสูง เสี่ยงฉุดเป้าลดคาร์บอน

ฐานเศรษฐกิจ

ทหารไทยขาขา-ด! ทำได้แค่…ทำหนังสือประท้วงกับ…ปิดด่าน!!

TOJO NEWS

รอบรั้วการศึกษา (24 ก.ค.68)

สยามรัฐ

ชัวร์ก่อนแชร์ : ไข้ทับระดูมี 2 แบบ คือแบบที่ไม่มีโรคแอบแฝงและแบบที่มีสภาวะโรคแอบแฝง จริงหรือ ?

ชัวร์ก่อนแชร์

ชัวร์ก่อนแชร์ : ไข้ทับระดูมี 2 แบบ คือแบบที่ไม่มีโรคแอบแฝงและแบบที่มีสภาวะโรคแอบแฝง จริงหรือ ?

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...