โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผบ.ตร.ขอพบพ่อแม่ น้องเมย แจงสอบวินัย ชี้เหตุเกิดก่อนผู้ต้องหาเป็นตำรวจ - พร้อมให้จเรตำรวจพิจารณาเรื่องทางวินัย

POLICE NEWS

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 23 กรกฎาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ “น้องเมย” นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เมื่อปี 2560 ภายหลังศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ซึ่งหนึ่งในจำเลยที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับการธำรงวินัยที่นำไปสู่การเสียชีวิต ปัจจุบันรับราชการตำรวจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว และต้องการพบกับบิดาและมารดาของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่ออธิบายและชี้แจงขั้นตอนทางปกครองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะในประเด็นที่หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวได้เข้ารับราชการตำรวจภายหลังจากเหตุการณ์

ผบ.ตร. กล่าวชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุในปี 2560 บุคคลดังกล่าวยังไม่ได้รับราชการตำรวจ แต่สังกัดอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย จึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ได้ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อปัจจุบันคู่กรณีอยู่ในสถานะข้าราชการตำรวจ ตนจึงได้มอบหมายให้ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ตรวจสอบและพิจารณาเรื่องนี้ในทุกมิติ ทั้งด้านวินัยและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา โดยมอบหมายให้จเรตำรวจฯ ทำงานก่อน ต้องพิจารณาว่ามีข้อเท็จจริงใดเชื่อมโยงกับหลักเกณฑ์ทางวินัยและจริยธรรม และเข้าข่ายการกระทำผิดร้ายแรงหรือไม่ เพราะขณะนี้คู่กรณีเป็นตำรวจแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการประสานข้อมูลกับกองทัพไทยเพื่อสนับสนุนการพิจารณาทางวินัยตำรวจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่าเป็นไปได้ และได้มอบหมายให้จเรตำรวจฯ ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจากคดีอาญา รวมถึงศึกษาระเบียบคำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่าการดำเนินการจะต้องมีความรอบคอบและเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนคำถามที่ว่า การที่บุคคลซึ่งเคยมีพฤติกรรมรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตกลับได้เป็นตำรวจ จะสร้างความคลางแคลงใจให้กับประชาชนหรือไม่ ระบุว่าเรื่องจริยธรรมของตำรวจเป็นหลักสำคัญ จเรตำรวจฯ จะพิจารณาว่าการกระทำของเขาในอดีตส่งผลต่อจริยธรรมในหน้าที่ปัจจุบันอย่างไร ต้องแยกว่าร้ายแรงหรือไม่ และดูจากข้อเท็จจริงรอบด้าน

ADVERTISMENT
ผบ.ตร.ยังกล่าวอีกประเด็นที่ครอบครัวน้องเมยแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์ผู้ชันสูตรรายแรกซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีอวัยวะภายในของน้องเมยสูญหายที่ สน.พญาไท ว่า ได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติพิจารณาร่วมด้วยในประเด็นนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม พร้อมย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับทุกข้อร้องเรียนจากครอบครัวน้องเมย และจะเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบทุกมิติ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมสูงสุดแก่ทุกฝ่าย

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก POLICE NEWS

ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาคดี น้องเมย จำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี ชี้จำเลยไม่เคยได้รับโทษ การลงโทษไปก็ไม่เป็นประโยชน์

1 วันที่แล้ว

คุมตัว“สีกากอล์ฟ” ฝากขังศาลอาญาทุจริตกลาง เจ้าตัวมีสีหน้าเครียด คิ้วขมวด ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ ยกมือไหว้ขอโทษ

17 ก.ค. เวลา 03.49 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

เศรษฐกิจอินโดนีเซียไม่อาจจะแยกตัวจากจีน แต่ทำไมค้าขายจึงเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว

ไทยพับลิก้า

ด่วน! คาดระดับน้ำน่าน สูงสุด 9.51 ม. ช่วงตี 4-6 โมงเช้าพรุ่งนี้

สยามรัฐ
วิดีโอ

เขมรอดเที่ยวแล้ว... มทภ.2มีคำสั่ง! งดเที่ยว ปราสาทตาเมือน - ปราสาทตาควาย มีผลตังแต่ 24 ก.ค.68 เป็นต้นไป

BRIGHTTV.CO.TH

สธ. ลุยถนนข้าวสาร ตรวจร้านกัญชาและสถานประกอบการ สร้างความปลอดภัยด้านสุขภาพนักท่องเที่ยว

MATICHON ONLINE

ราชกิจจาฯ ประกาศ ขรก.กรุงเทพ 35 ตำแหน่ง ได้เงินประจำตำแหน่ง

TNews

สุดช็อก!! สายลับจีนขโมย "พิมพ์เขียวมิสไซล์สหรัฐฯ" ส่งกลับปักกิ่ง หลังแฝงตัวทำงานอยู่ 3 เดือน

Manager Online

มวลน้ำยังมาไม่หยุด! ล่าสุดท่วม โรงพยาบาลน่าน แล้ว

Khaosod

ด่วน! ทบ.ออกคำสั่ง! ปิด ปราสาทตาเมือนธม – ปราสาทตาควาย มีผล 24 ก.ค.เป็นต้นไป

TOJO NEWS

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...