“จีน” ยืนยันไม่ยุติซื้อน้ำมันจากอิหร่าน–รัสเซีย แม้ “สหรัฐ” ขู่เก็บภาษี 100%
แม้เจรจาการค้าคืบหน้า แต่สหรัฐ–จีนยังขัดแย้งหนักเรื่องพลังงาน จีนยืนยันไม่หยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย–อิหร่าน พร้อมยอมภาษี 100% หากจำเป็น นักวิเคราะห์มองจีนใช้พลังงานต่อรอง ส่วนทรัมป์อาจไม่กล้าเสี่ยงในปีเลือกตั้ง
วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เวลา 07.11 น. เว็บไซต์ Yahoo Finance รายงานว่า แม้สหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อสรุปในหลายประเด็นเพื่อเดินหน้าข้อตกลงทางการค้าและหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีเพิ่มเติม แต่ยังคงมีความขัดแย้งในประเด็นสำคัญที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ นั่นคือข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ให้จีนยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซียและอิหร่าน ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของทั้งสองประเทศในการดำเนินนโยบายด้านการทหารและการต่างประเทศ โดยเฉพาะในบริบทสงครามยูเครนและการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลางของอิหร่าน
จีนตอบโต้ข้อเรียกร้องของสหรัฐด้วยท่าทีแข็งกร้าว โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “จีนจะดำรงความมั่นคงด้านพลังงานตามผลประโยชน์แห่งชาติของตนเอง …การข่มขู่หรือกดดันจะไม่ก่อให้เกิดผลใด ๆ” พร้อมประกาศจุดยืนชัดว่าจีนจะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาอย่างเด็ดขาด แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงยึดมั่นในการเชื่อมโยงการค้ากับนโยบายพลังงานและการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
สหรัฐ ในฝั่งหนึ่งยังคงใช้มาตรการกดดันทางภาษี โดย สก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระบุว่า จีนจริงจังกับอธิปไตยของตนเองและจึงยินดีจ่ายภาษีนำเข้า 100% แทนที่จะยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ อย่างไรก็ตามเบสเซนท์ย้ำว่าท่าทีแข็งกร้าวของจีนไม่ได้ทำให้การเจรจาชะงัก และตนยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงสำคัญ
นักวิเคราะห์มองว่าการขู่เก็บภาษี 100% จากประธานาธิบดีทรัมป์อาจไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากจะเป็นการทำลายบรรยากาศการเจรจาทั้งหมด และลดโอกาสในการประกาศข้อตกลงร่วมระหว่างทรัมป์กับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในช่วงปลายปีนี้ นักวิชาการด้านการค้าหลายรายมองว่า จีนอาจกำลังใช้ท่าทีแข็งกร้าวเรื่องน้ำมันเป็นเครื่องมือต่อรอง เพื่อขอสัมปทานอื่นจากสหรัฐเพิ่มเติม เช่น การผ่อนคลายมาตรการควบคุมเทคโนโลยีหรือภาษีสินค้าประเภทอื่น
ในเชิงยุทธศาสตร์ จีนยังคงพึ่งพาน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียและอิหร่านอย่างมาก รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า 80–90% ของน้ำมันที่อิหร่านส่งออกถูกนำเข้าสู่จีน ขณะที่จีนยังนำเข้าน้ำมันทางเรือจากรัสเซียมากกว่า 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเมษายน 2568 โดยซื้อในราคาที่ถูกกว่าตลาด ทำให้ช่วยลดต้นทุนเศรษฐกิจในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ นักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนไม่มีทางยอมสละแหล่งพลังงานยุทธศาสตร์นี้ได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจภายในกำลังเผชิญแรงกดดัน
ไม่เพียงจีนเท่านั้นที่ถูกกดดัน อินเดียเองก็เผชิญการคุกคามทางภาษีจากสหรัฐเช่นกัน หลังจากที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียอยู่ ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดีย 25% และอาจมีภาษีเสริมเพิ่มเติมเนื่องจากพฤติกรรมการซื้อพลังงานจากรัสเซีย ฝ่ายอินเดียตอบโต้ด้วยการย้ำความสัมพันธ์กับรัสเซียว่าเป็นมั่นคงและมีมาอย่างยาวนาน
ในสภาคองเกรสของสหรัฐ ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิก ได้เสนอร่างกฎหมายที่ให้อำนาจประธานาธิบดีสามารถเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 500% กับทุกประเทศที่ตั้งใจซื้อสินค้าพลังงานจากรัสเซีย โดยมีผู้สนับสนุนมากถึง 84 คนจาก 100 คนในวุฒิสภา ซึ่งแสดงให้เห็นแรงกดดันทางการเมืองในประเทศต่อฝ่ายบริหารอย่างชัดเจน
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าแม้สหรัฐและจีนจะมีความต้องการร่วมกันในการลดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ แต่ปัจจัยด้านพลังงานและภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ที่อาจทำให้ข้อตกลงใด ๆ ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างยิ่งในระยะต่อไป
อ้างอิง : finance.yahoo.com