“มงคล ประกิตชัยวัฒนา” แจ้งขาย KTC 195 ล้านหุ้น เหลือถือ 5.14%
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดย นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568
โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย 195,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.5630% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการจำหน่าย อยู่ที่ 327,466,600 หุ้น คิดเป็น 12.7007% ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย อยู่ที่ 132,466,600 หุ้น คิดเป็น 5.1376% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS โดย นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568
โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย 16,950,000 หุ้น คิดเป็น 4.0386% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการจำหน่าย อยู่ที่ 69,654,800 หุ้น คิดเป็น 16.5963% ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย อยู่ที่ 52,704,800 หุ้น คิดเป็น 12.5577% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ขณะที่ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG โดย นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568
โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย 630,000,000 หุ้น คิดเป็น 5.8877% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการจำหน่าย อยู่ที่ 651,209,995 หุ้น คิดเป็น 6.0859% ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย อยู่ที่ 21,209,995 หุ้น คิดเป็น 0.1982% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ด้านนางรจนา อุษยาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอความร่วมมือจาก บริษัทให้ชี้แจงรายการซื้อขาย Big Lot ของหุ้น KTC ในวันที่ 25 มิ.ย.2568 จำนวน 129,204,600 หุ้น (5.01% ของทุนจดทะเบียน) และ วันที่ 30 มิ.ย.2568 จำนวน 243,620,200 หุ้น (9.45% ของทุนจดทะเบียน) นั้น
ทั้งนี้ การซื้อขาย Big Lot ข้างต้น อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหรือลำดับการถือหุ้น อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่พบการรายงานแบบ 246-2 (แบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์) จึงยังไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นที่อาจจะเกิดขึ้น
บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่ 1 และโครงสร้างคณะกรรมการ โครงสร้างผู้บริหาร รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานด้วยความโปร่งใส หากมีข้อมูลที่มีสาระสำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ขณะเดียวกัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC โดย นางสาวฉันทนา จิรัฐิติภัทร์ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568
โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย 134,250,000 หุ้น คิดเป็น 6.7125% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการจำหน่าย อยู่ที่ 134,250,000 หุ้น คิดเป็น 6.7125% ส่งผลให้มีจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย อยู่ที่ 0 หุ้น คิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ