กูรูชี้ DV8 ราคาพุ่งเพราะเปลี่ยนมือ เสี่ยงทิ้งดิ่ง ตลท. เผยยังจับตาใกล้ชิด
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากกรณีราคาหุ้น บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงนั้น เบื้องต้นได้มีการใช้มาตรการแคชบาลานซ์ เข้ามากำกับการซื้อขายเป็นระยะ โดยนักลงทุนต้องวางเงินสดทั้ง 100% ก่อนสั่งซื้อหุ้น ซึ่งตลาดทำตามเกณฑ์ที่วางไว้
ทั้งนี้ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใน ยอมรับว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด กระบวนการจากนี้ก็จะต้องมาดูว่ามีปัจจัยอะไรที่สมเหตุสมผลประกอบด้วยหรือไม่ รวมถึงดูว่าการซื้อขายกระจุกตัวหรือไม่
ส่วนประเด็นที่ DV8 ประกาศรับซื้อหุ้นจากนักลงทุนทั่วไป (Tender Offer) ที่ราคาเพียงหุ้นละ 0.56 บาท ซึ่งค่อนข้างต่ำหว่าเมื่อเทียบกับราคาในกระดานที่ 5.50 บาท (ณ วันพฤหัสที่ 3 ก.ค.68) มองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะรับซื้อราคาเท่าไร ทาง DV8 ยังคงทำตามเกณฑ์ที่วางไว้ไม่ได้ผิด และต้องปฏิบัติตามเกณฑ์
"อยากให้นักลงทุนวิเคราะห์ให้ดี ว่า ธุรกิจปัจจุบัน กับ ธุรกิจในอนาคต มีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน มีอนาคตอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ ข้อมูลในเบื้องต้นพอทราบว่ามีกลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่ทำธุรกิจในต่างประเทศอะไร ซึ่งนักลงทุนต้องช่างน้ำหนักพิจรณาให้ละเอียด"
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. ให้ความคิดเห็นกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า โดยปกติแล้วเมื่อมีหุ้นที่ราคาร้อนแรง ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการนำเอามาตราการกำกับการซื้อขายเข้ามาดูแลเพื่อลดความร้อนแรงอยู่แล้ว
สิ่งที่ทำให้เกิดข้อสงสัยคือ เมื่อ บจ. มีการประกาศเรื่องของการทำ Tender Offer โดยเฉพาะในกรณีที่ราคาต่ำกว่าหน้าหุ้นในกระดาน ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลง หรือในบางกรณีลงมาฟลอร์เลยทีเดียว แต่ DV8 กลับสร้างความประหลาดใจใหม่ด้วยราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นไปถึง 6.30 บาท ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงมาเหลือ 5.10 บาท
ในขณะเดียวกัน DV8 ยังเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 คือ ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance โดยเป็นการขยายช่วงดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 2 -22 ก.ค. 68 ทั้งนี้ จากการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายที่ผ่านมา ไม่เกินระดับ 2 คือ ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance และ Auction เพราะเกณฑ์ที่เข้ามาควบคุมสามารเอาอยู่
และยังไม่เคยมี บจ. ไหนที่รุนแรงถึงขั้นต้องยกระดับการใช้มาตรการกำกับซื้อขาย ระดับ 3 คือ หยุดพักการซื้อขายในวันทำการแรก, ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance และ Auction มาก่อนเลย
"มองว่านักลงทุนอาจต้องใช้การพิจารณาที่ละเอียดถี่ถ้วนหน่อยในการลงทุน ต้องรู้และเข้าใจในโครงสร้างธุรกิจ มีภาพธุรกิจและการดำเนินงานที่ชัดเจน จริงๆ แล้ว การเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่ทะยานขนาดนี้ก็ต้องมีการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และระบุสาเหตุที่แน่ชัดอยู่แล้ว"
นับถอยหลังราคาถึงจุดอิ่มตัว
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ DV8 รายงานการรับเรื่องประกาศการครอบงำกิจการจากนักลงทุน จำนวน 8 ราย โดยมีการ Tender Offer หุ้นทั้งหมดประมาณ 1,390 ล้านหุ้นที่ราคา 0.56 บาท/หุ้น
โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 740 ล้านบาท และหากว่าเข้าไปดูที่ไส้ในของงบจะเห็นได้ว่า DV8 มีเงินสดอยู่ในมือรวมกว่า 625 ล้านบาท อีกทั้งยังมีหนี้สินที่น้อยมากราว 60 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหนี้ทางการค้า ทำให้เหมาะกับการ Backdoor ขายโครงสร้างความเป็นบริษัทจดทะเบียน
เมื่อหักลบกลบหนี้ต่างๆ แล้ว เท่ากับว่า กลุ่มทุนรายใหม่ใช้เงินในการซื้อกิจการเพียง 115 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แพงไปสำหรับการครอบงำกิจการ ซึ่งจากนี้ก็ต้องดูว่าการ Tender Offer ทำได้มากน้อยแค่ไหน และการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่จะเป็นอย่างไร
ราคาหน้ากระดานล่าสุด (ณ วันที่ 7 ก.ค.68) อยู่ที่ระดับ 5.10 บาท ซึ่งก็ยังมีส่วนที่ต่างค่อนข้างมากจากราคารับซื้อที่ 0.56 บาท ถึง 4.54 บาท นับตั้งแต่ต้นปี 68 มา ราคาหุ้น DV8 ถูกไล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จาก 0.36 บาท และเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 7.30 บาท
"จะสังเกตได้ว่าการกระจุกตัวในช่วงราคา 3 - 5 บาท มีค่อนข้างมาก แต่ volume ไม่ได้เยอะ ขาใส่ราคาช่วง 4 บาท ไปจนถึง 7 บาท คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นช่วงที่กำลังออกเพื่อเปลี่ยนมือ ดังนั้นแล้วในระยะถัดไป เมื่อจบกระบวนการแล้วราคาก็จะหันหัวลงแน่นอน"