จับ 8 เขมรเถื่อนขายไอติมกลางเมืองอุดรฯ ลั่นอยากอยู่ไทยกลับไปไม่มีรายได้

เมื่อเวลา 13.40 น.วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนและชาวบ้านว่า มีต่างด้าวมามั่วสุมและขายไอศกรีมอยู่ที่บ้านเลขที่ 272/1 ในชุมชนดอนอุดม ซอยรักมิตร 4 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงสั่งการให้ นายชาติอาชาไนย ธนถาวรโชติ ปลัดป้องกันอำเภอเมืองอุดรธานี ประสานเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร กอ.รมน. ตม. แรงงาน และจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ออกไปตรวจสอบ

พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ไม้ครึ่งปูน มีรั้วคอนกรีตและต่อด้วยสแลนสีเขียวเพื่อปิดบังสายตารอบบ้าน และปิดประตูรั้วบ้าน เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบชาวต่างด้วย สัญชาติกัมพูชา 8 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 3 ราย ตรวจภายในบ้านชั้นล่าง และรอบบริเวณทั้งหมด มีการดัดแปลงเป็นที่สำหรับวางตู้แช่ประมาณ 50 หลัง ภายในตู้แช่มีไอศกรีมบรรจุกล่อง รถชาติต่างๆ เต็มตู้แช่ และมีช็อคชิพต่างๆ เก็บไว้ พบรถพ่วงข้างติดยี่ห้อไผ่ทองจำนวน 7 คัน รถเข็น 10 คัน

จากการตรวจสอบพบมีหนังสือเดินทาง 7 คน ไม่มี 1 คน แต่หมดระยะเวลาในการอยู่ในประเทศไทยทุกคน ซึ่งจากการสอบถามชาวกัมพูชาให้การยอมรับว่า อยู่เมืองไทยนานแล้วประมาณ 10 ปี เคยทำงานก่อสร้างอยู่กรุงเทพฯ และนนทบุรี ต่อมาได้ไปหางานทำที่ จ.ร้อยเอ็ด แต่ไม่มีใครจ้างทำงาน ต่อมามีคนไทย ไม่รู้จักชื่อ แนะนำให้ไปทำงานขายไอศกรีมที่ จ.อุดรธานี จึงได้เหมารถกระบะตู้ทึบ 3,000 บาท มาทำงาน จ.อุดรธานี เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.ค. 68 ได้พักอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพื่อขายไอศกรีม ค่าแรงวันละ 300 บาท แต่พวกตนยังไม่ได้ขายไอศกรีมเลย เพราะยังดูท่าทีก่อนเพราะกลัวโดนจับ แต่ถ้าส่งให้กลับก็จะกลับ แต่ใจอยากอยู่ที่นี่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชาวกัมพูชา 8 คน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างและรถเข็น ไปโรงพักเพื่อดำเนินคดี

สอบถามกลุ่มชาวกัมพูชา ส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารการสู้รบตามแนวชายแดนไทย แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องปมปัญหาหรือความรุนแรง บอกเพียงว่าไม่ต้องการสงคราม อยากให้สงครามสงบ ไม่อยากให้มีความสูญเสีย บางรายบอกอยากกลับ แต่กลับไปก็ไม่มีรายได้ คงต้องไปทำไร่ทำนา ส่วนรายที่บอกอยากอยู่ที่ไทย ก็ระบุว่าถ้าเลือกได้ก็จะอยู่ทำงานเก็บเงิน

นายชาติอาชาไนย ธนถาวรโชติ ปลัดป้องกันอำเภอเมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากฝ่ายความมั่นคง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนและชาวบ้านว่า ที่ซอยรักมิตร 4 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่ง มาเช่าบ้านและมั่วสุม ทำอาชีพขับจักรยานยนต์พ่วงข้างขายไอศกรีม นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี จึงสั่งการให้นำกำลังชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจคนเข้าเมืองอุดรธานี กอ.รมน. และหน่วยงานกระทรวงแรงงาน เข้าตรวจสอบ พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ตรวจพบเป็นแรงงานต่างด้าวกัมพูชา 8 คน เป็นชาย 5 ราย เป็นหญิง 3 ราย ตรวจสอบมีหนังสือเดินทาง 7 ราย แต่เป็นการอยู่เกิน อีก 1 รายไม่มีหนังสือเดินทาง ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดไม่พบ สารเสพติดในร่างกาย

จากการสอบสวนชาวกัมพูชาให้การว่ามขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง และเข็นรถเร่ขายไอศกรีม ซึ่งการทำงานดังกล่าว เป็นข้อห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวห้ามทำ หรือทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกรณีนี้เป็นไปตาม พรก.การบริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และผลักดันกลับประเทศต้นทาง ส่วนบ้านดังกล่าวตรวจสอบแล้วจะมีลักษณะเป็นที่พักสินค้า กระขายสินค้า ซึ่งส่งมาให้ขาย ซึ่งตำรวจจะสอบสวนขยายผลว่าเจ้าของคนไทยเป็นใคร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะตรวจสอบแหล่งผลิตถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นลอกเลียนแบบหากพบเป็นต่างด้าวเข้ามาผิดกฎหมาย หรือทำอาชีพต้องห้าม ให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี โทร 1567 หรือแจ้ง สนง.จัดหางานจังหวัดอุดรธานี โทร 042- 347949 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.