"Microsoft" เลิกจ้าง 9,000 คนทั่วโลกเพื่อความคล่องตัว l การตลาดเงินล้าน

เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Microsoft เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรต่อเนื่อง ประกาศเลิกจ้างพนักงานราว 9,000 คนทั่วโลก หวังลดชั้นการบริหาร เพิ่มความคล่องตัว และมุ่งเน้นการเติบโตเชิงกลยุทธ์ แม้ผลประกอบการล่าสุดยังแข็งแกร่ง

Microsoft ประกาศปลดพนักงานประมาณ 9,000 คนทั่วโลก หรือคิดเป็นไม่ถึงร้อยละ 4 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ในการปรับโครงสร้างองค์กรรอบล่าสุด โดยการปรับลดครั้งนี้กระทบพนักงานหลากหลายสายงาน ระดับตำแหน่ง และภูมิภาคทั่วโลก

ประกาศดังกล่าวมีขึ้นในวันที่สองของปีงบประมาณ 2026 ของ Microsoft ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริหารมักใช้ในการประกาศปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งสำคัญ เพื่อวางแนวทางสำหรับปีใหม่

โฆษกของบริษัทระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อให้สอดรับกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสนับสนุนความสำเร็จของทีมงานในระยะยาว

Microsoft ได้ปลดพนักงานหลายรอบแล้วในปีนี้ เมื่อเดือนมกราคม บริษัทลดจำนวนพนักงาน น้อยกว่า ร้อยละ 1 จากการประเมินผลการทำงาน จากนั้นในเดือนพฤษภาคม มีการเลิกจ้างมากกว่า 6,000 คน และตามด้วยอย่างน้อยอีก 300 คนในเดือนมิถุนายน

เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2024 Microsoft มีพนักงานรวมราว 228,000 คน ทั่วโลก ขณะที่ในปี 2023 บริษัทเคยปลดพนักงานไปแล้ว 10,000 คน

การเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Microsoft เกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อบริษัทปลดพนักงานถึง 18,000 คน หลังจากเข้าซื้อธุรกิจอุปกรณ์และบริการของ Nokia

แหล่งข่าวภายในบริษัทเปิดเผยว่า การปลดพนักงานในรอบนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อลดชั้นของผู้บริหารระดับกลางให้น้อยลง ระหว่างพนักงานระดับปฏิบัติงานกับผู้บริหารระดับสูง เพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเกมของบริษัท ฟิล สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่าย Gaming ของ Microsoft ระบุในบันทึกภายในว่า เพื่อให้หน่วยธุรกิจเกมสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน บริษัทจะยุติหรือลดบทบาทของบางโครงการ พร้อมทั้งลดลำดับชั้นการบริหารตามแนวทางของบริษัทแม่

แม้จะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้น แต่ภาพรวมของผลประกอบการ Microsoft ยังคงแข็งแกร่ง โดยในไตรมาสเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิสูงถึง 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายได้ 70,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ และยังทำให้ Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในดัชนี S&P 500

ผู้บริหารของบริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสเดือนมิถุนายนจะเติบโตขึ้นราว ร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากบริการคลาวด์ Azure และซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรที่มีการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น

การปรับโครงสร้างในครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Microsoft ในการรักษาความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง แม้บริษัทจะยังมีกำไรในระดับสูงก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง