ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 11-15 ส.ค. 68)
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
• เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 3 สัปดาห์ ก่อนจะอ่อนค่าลงช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น (หลังตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการหลังจากช่วงวันหยุดยาว) สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้ อนึ่ง เงินบาทยังรักษาช่วงบวกไว้ได้ต่อเนื่อง หลังการประชุม กนง. มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ไปที่ระดับ 1.50% ช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงช่วงท้ายสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวกลับมาโดยได้รับอานิสงส์จากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงกว่าที่ตลาดคาด
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 18-22 ส.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.10-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟดจากที่ประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ราคาทองคำในตลาดโลก บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ก.ค. การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของอังกฤษและยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ อังกฤษและยูโรโซน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยแตะจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือน ก่อนจะย่อตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงช่วงกลางสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางแรงซื้อหลัก ๆ จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ โดยมีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในรอบการประชุมเดือนก.ย. นี้ นอกจากนี้ดัชนีหุ้นไทยยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของกนง. ในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์ที่ตลาดมองว่า น่าจะได้รับอานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง ประกอบกับมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันรายใหญ่แห่งหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ดี หลังจากดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 1,283.55 จุด ก็ย่อตัวลงในเวลาต่อมาจนถึงช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน โดยเฉพาะหุ้นบริษัทสายการบินรายใหญ่แห่งหนึ่งที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงในช่วงก่อนหน้านี้ อนึ่ง นักลงทุนต่างชาติอยู่ในฝั่งขายสุทธิหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ หลังจากซื้อสุทธิติดต่อกันมา 5 สัปดาห์
• สัปดาห์ที่ 18-22 ส.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,240 และ 1,215 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,280 และ 1,300 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ทิศทางเงินทุนต่างชาติ บันทึกการประชุมเฟด การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนส.ค. ของจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนส.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ