"แม่ทัพภาค 2" ชี้หากพบทหารกัมพูชา รุกล้ำ-แอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี
วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย - กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง
ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ถ้าตอบรับก็ดี เรารอวันนั้น และหากพบทหารเขมรมีการวางทุ่นระเบิดเพิ่มจะทำอย่างไรนั้น ก็ถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตย ก็จำเป็นจะต้องตอบโต้ โดยการยิงให้สัญญาณเตือนก่อน เช่นเดียวกันกับหากกองกำลังแนวหน้าที่ลาดตระเวน แล้วเหยียบกับระเบิดอีกก็ต้องตอบโต้ด้วยเช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ทหารกัมพูชามีการยิงก่อกวนด้วยปืนเล็ก มีการสั่งการอย่างไรบ้าง พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ถ้ายิงมาที่ฝ่ายเรา เราก็ต้องตอบโต้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการยิงตอนใน ไม่ได้ยิงตามแนวชายแดน แต่หากหันปากกระบอกปืนมาทางเราก็ต้องตอบโต้ ส่วนจะมีการประเมินท่าทีการเจรจาการประชุม RBC อย่างไรนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า น่าจะราบรื่นดี แต่ต้องดูว่า หากเป็นเงื่อนไขที่เราต่อรองไป และเป็นเงื่อนไขที่หนักก็อาจจะรับไว้เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาอีกครั้งนึง
ส่วนประสาทตาควายจะมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยด้วยหรือไม่นั้น พล.ท.บุญสิน เผยว่า ขอให้อยู่ในลักษณะนั้นก่อน เช่นเดียวกับประสาทตาเมืองธม พล.ท.บุญสิน ย้ำว่า คดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ สมเด็จฮุนเซน ที่ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ว่า เป็นเรื่องของการเมือง แต่เราทำหน้าที่ปกป้องชายแดนตามปกติ คงไม่มีผลอะไรกับข้าราชการประจำ