บุกรวบป้าจอมโหด ร่วมกับเพื่อนลวงยายวัย72 อาสาพาไปส่ง ก่อนลงมือทำร้าย ชิงทรัพย์ ถีบเหยื่อลงรถตกสระน้ำ
บุกรวบป้าจอมโหด ร่วมกับเพื่อนลวงยายวัย72 อาสาพาไปส่ง หลังเห็นใส่ทองเยอะ ก่อนลงมือทำร้าย - จี้ชิงทรัพย์ ถีบเหยื่อลงรถตกสระน้ำแล้วหลบหนี
วันที่ 8 ส.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ปิยะวัตร ปราบเสร็จ สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุมนางวราพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ที่ จ.150/2567 ลงวันที่ 26 ก.ย.67 ข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง หมู่ 1 ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
จากการจับกุมทราบว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ขณะที่ นางเกียรติ ผู้เสียหาย อายุ 72 ปี นั่งรอรถโดยสารประจำทางอยู่ที่ริมถนนสายนางรอง-บุรีรัมย์ มีคนร้ายเป็นหญิง 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือนางสมพร และนางวราพรรณ ผู้ต้องหารายนี้ ขับรถเก๋งมาจอดทำทีสอบถามเส้นทาง เมื่อเห็นผู้เสียหายมีทรัพย์สินติดตัวเป็นจำนวนมาก จึงวางแผนชักชวนให้นั่งรถไปด้วยกัน ระหว่างนั่นก็พูดจาตีสนิทจนพาเหยื่อไปทำธุระจนแล้วเสร็จ
ต่อมาช่วงขากลับผู้ต้องหาออกอุบายขับรถพาเหยื่อออกนอกเส้นทาง พอสบจังหวะก็ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธปืนจี้บังคับดึงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น, จี้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 อัน, แหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง, เงินสด 12,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รวมทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3 แสนบาท จากนั้นใช้เชือกมัดมือเหยื่อเอาไว้ และขับรถพาเหยื่อไปยังสระน้ำสาธารณะ ต.ก้านเหลือง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะถีบตกจากรถลงไปในสระน้ำดังกล่าว แล้วหลบหนีไป
ต่อมาหลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายเอาไว้ได้ ก่อนเข้าแจ้งความที่สภ.นางรอง พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนางรอง ออกหมายจับคนร้ายทั้งสอง และติดตามจับกุมนางสมพรเอาไว้ได้ ส่วนนางวราพรรณ ถูกตร.ประกาศเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทิน 2568 ลำดับที่ 67 ก่อนจะตามจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นสอบสวน ผู้ต้องหาขอให้การปฏิเสท จึงนำตัวส่งสภ.นางรอง ดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติของนางวราพรรณ ยังพบด้วยว่าเคยร่วมแก๊งต้มตุ๋น ปลอมเป็นพระ หลอกชาวบ้าน-ทำพิธีให้เลขเด็ด เก็บค่ายกครูหลักหมื่น ที่ จ.เพชรบูรณ์ มาก่อนอีกด้วย