เปิดปฏิบัติการใต้น้ำ ! ทำความสะอาด “พระเยซูแห่งห้วงลึก” สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์กลางทะเล
รูปปั้น"พระเยซูแห่งห้วงลึก" หรือ "Christ of the Abyss" อันเป็นเอกลักษณ์ของอิตาลี กำลังได้รับการทำความสะอาดประจำปีใต้น้ำ โดยรูปปั้นตั้งอยู่บนพื้นทะเลนอกชายฝั่งเมืองซาน ฟรุตตูโอโซ ในแคว้นลิกูเรีย (San Fruttuoso in Liguria) ซึ่งจะมีทีมนักดำน้ำ ลงไปยังพื้นทะเล เพื่อขัดเงาพื้นผิวบรอนซ์ของรูปปั้นด้วยสายฉีดน้ำแรงดันสูง
ประติมากรรมพระเยซูห้วงลึกแห่งท้องทะเล
แหงนมองสู่ผิวน้ำ แขนเหยียดออก รูปปั้น "พระเยซูแห่งห้วงลึก" ยืนตระหง่านอยู่บนพื้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นฝีมือสร้างของ กุยโด กัลเลตติ (Guido Galletti) ถูกนำมาติดตั้งนอกชายฝั่งซาน ฟรุตตูโอโซ ในริเวียราของอิตาลี (San Fruttuoso in the Italian Riviera) เมื่อปี 1954 รูปปั้นสูง 2.5 เมตร แสดงภาพพระคริสต์ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นให้พร สร้างขึ้นจากการหลอมเหรียญรางวัลของทหารอิตาลีที่เสียชีวิต ปืนใหญ่ และเรือ และได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของการเสียสละในสงครามโลกครั้งที่สอง
การทำความสะอาดรูปปั้นพระเยซูห้วงลึก
ปีละครั้ง สำนักงานโบราณคดี วิจิตรศิลป์ และภูมิทัศน์แห่งแคว้นลิกูเรีย จะดำเนินการทำความสะอาดรูปปั้น โดยให้นักดำน้ำดำลงไปที่ความลึกประมาณ 17 เมตร พร้อมด้วยสายฉีดน้ำแรงดันสูง เพื่อขัดเงาพื้นผิวบรอนซ์ของรูปปั้น
อเลสซานดรา คาเบลลา (Alessandra Cabella) ผู้ประสานงานการทำความสะอาดกับสำนักงานลิกูเรีย กล่าวว่า เมื่อรูปปั้นซึ่งเดิมทีกลวง ถูกเติมด้วยคอนกรีตและเหล็กเส้นเพื่อยึดกับพื้นทะเล กระบวนการชุบสังกะสีได้สร้างความเสียหายให้กับบรอนซ์
วิธีการทำความสะอาดที่ไม่รบกวนพื้นผิวรูปปั้นและท้องทะเล
วิธีการทำความสะอาดแบบเดิม ซึ่งเป็นการขูดพื้นผิวรูปปั้นด้วยแปรงโลหะ ก่อให้เกิดความเสียหายถาวรอย่างมาก ปัจจุบันจึงเปลี่ยนมาเป็นการให้นักดำน้ำไม่ต้องสัมผัสขัดเงารูปปั้นโดยตรง แต่จะทำงานในระยะ10-15 เซนติเมตรจากรูปปั้น โดยใช้สายยางฉีดน้ำทะเลแรงดันสูงไปยังพื้นผิว เพื่อเป่าจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ตามรอยพับของเสื้อคลุมรูปปั้นและซอกนิ้วออกไป ซึ่งกระบวนการนี้ไม่ได้รบกวนหรือทำลายสิ่งแวดล้อม
สำนักงานโบราณคดีของกระทรวงวัฒนธรรมอิตาลีกล่าวว่า เนื่องจากอยู่ใกล้ชายฝั่งและมีความลึกไม่มากนัก แหล่งดำน้ำ"พระเยซูแห่งห้วงลึก" จึงเป็นจุดดำน้ำที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงสถานที่นี้ยังดึงดูดนักพายเรือคายัคและแพดเดิลบอร์ด เนื่องจากสามารถมองเห็นรูปปั้นได้จากผิวน้ำ
ในความลึกของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รูปปั้นองค์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชิ้นงานศิลปะ แต่มันคือการรำลึกถึงผู้ที่จากไปในท้องทะเลด้วยเหตุภัยพิบัติและสงคราม และที่สำคัญที่สุด คือการเป็นไอคอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประทับอยู่ในหัวใจของผู้คนแห่งท้องทะเลตลอดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดตัว Stripe แพลตฟอร์มโครงสร้างทางการเงินที่จะมาช่วยการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทย
- รู้จักดาวเทียมธีออส 2 เอ (THEOS 2A) ดาวเทียมสำรวจโลกฝีมือคนไทย
- นาซาทดสอบ SHIELD เทคโนโลยีลงจอดบนดาวอังคารแบบใหม่
- ภาพแสงสีฟ้าเหนืออ่าวไทย ถูกถ่ายจากสถานีอวกาศนานาชาติ ISS
- ผ้าห่มอวกาศคืออะไร ? เทคโนโลยีคลายหนาวจากอวกาศสู่พื้นโลก