GMO ทางเลือกนวัตกรรมพืช-ความมั่นคงด้านอาหารแห่งอนาคต
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19% ใกล้เคียงกับที่ไทยคาดหวัง แต่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตหลายด้านกับผลกระทบต่อข้อเสนอของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง
สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารสัตว์ที่นำไปเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตเป็นโปรตีนเนื้อสัตว์ แต่วัตถุดิบทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นพืชที่มาจากการปรับปรุงพันธุ์สมัยใหม่ หรือ การพัฒนาพืชด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ หรือ GMO (Genetically Modified Organism) ที่ถูกตั้งคำถามประเด็นความปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ พืช GMO คือ พืชที่นักวิทยาศาสตร์นำเทคนิคการปรับปรุงพันธุ์สมัยใหม่มาพัฒนาอย่างแม่นยำและตรวจสอบเข้มงวดเพื่อช่วยแก้ปัญหา เช่น ให้พืชทนโรค ทนแมลง ทนแล้ง หรือมีสารอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งมีความเข้าใจถึงการเชื่อมโยงกับความไม่ปลอดภัยหรืออัตราย เช่น การใช้สารเคมีมากขึ้น, อันตรายต่อร่างกาย
องค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO), องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO), สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งยุโรป (European Food Safety Authority : EFSA) มีการอนุมัติ GMO ปลอดภัยเทียบเท่าอาหารทั่วไป
รวมทั้งในช่วง 20 ปีผ่านมา ผลวิจัยในคนและสัตว์ทดลองยังไม่พบว่า GMO ก่อให้เกิดโรคหรืออันตรายต่อร่างกายเมื่อบริโภคต่อเนื่อง และระบุถึง DNA หรือโปรตีนจากพืช GMO ที่สัตว์กินเข้าไปจะถูกย่อยสลายหมดไม่ตกค้างในเนื้อสัตว์ เช่น งานการศึกษาวิจัยของ EFSA และ FAP ที่ตรวจสอบพบว่าไม่มีสาร GMO ตกค้างในเนื้อ นม ไข่
สำหรับโปรตีนจากพืช GMO เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกย่อยสลายเหมือนอาหารทั่วไป เช่น โปรตีนจากถั่วเหลือง GMO ถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนเหมือนถั่วเหลืองธรรมดา รวมถึงงานวิจัยทางระบาดวิทยาที่ติดตามประเทศที่บริโภคพืช GMO มาหลายสิบปี อาทิ สหรัฐ บราซิล อาร์เจนตินา ก็ไม่พบความแตกต่างทางสุขภาพกับประเทศที่ไม่มีการบริโภค GMO
นอกจากนี้ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์รายงานว่า ด้านความปลอดภัยของอาหารพืช GMO ทุกรายการ ต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยทั้งด้านพิษวิทยา (Toxicology), สารก่อภูมิแพ้ (Allergenicity) และคุณค่าทางโภชนาการ (Nutrition) อย่างเข้มงวด ก่อนได้รับอนุญาตจำหน่าย ขณะที่งานวิจัยด้านความมั่นคงทางอาหาร พืช GMO หลายชนิดช่วยเพิ่มผลผลิต ทนแล้ง ทนโรค หรือเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติ เช่น ภัยแล้ง ภาวะโลกร้อน
รวมทั้งการศึกษาวิจัยหลายฉบับพบการใช้เทคโนโลยี GMO ช่วยลดใช้สารเคมีในการเกษตรลงโดยเฉลี่ย 37% โดยช่วงปี 1996–2018 เกษตรกรทั่วโลกถลดใช้สารเคมีถึง 776 ล้านกิโลกรัม คิดเป็น 8.6% ของการใช้สารเคมีทั้งหมดในภาคเกษตร และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีลดลง 19% ตามดัชนี Environmental Impact Quotient (EIQ)
ทั้งนี้ ไทยยังไม่อนุญาตให้ปลูกพืช GMO เชิงพาณิชย์ แต่ทดลองระดับวิจัยและพัฒนาเพื่อการบริโภคและอุตสาหกรรม โดยนำเข้าเมล็ดพันธ์ เช่น นำเข้าถั่วเหลือง GMO เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น น้ำมันถั่วเหลือง, ข้าวโพด GMO ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น แป้งข้าวโพด, ฝ้ายดัดแปลงพันธุกรรม (GM Cotton) นำเข้าในรูปเส้นใยฝ้ายเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
รวมทั้งหากพิจารณาพื้นที่เพาะปลูกพืชลดลงจากการขยายตัวของเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้ GMO เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้การปลูกพืชในพื้นที่แห้งแล้งหรือมีโรคระบาดได้ดีขึ้น และช่วยลดการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง และเพิ่มผลผลิตในพื้นที่จำกัด