กองทัพไทยนำคณะ IOT ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เผยเพิ่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพิ่มอีกลูก ก่อนลงพื้นที่เพียง 1 วัน
กองทัพไทยนำคณะ IOT ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ยืนยันหลักฐานการวางทุ่นระเบิดใหม่ เผยเพิ่งเก็บกู้เพิ่มอีก 1 ลูก ก่อนคณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่เพียง 1 วัน
กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมข่าวทหาร จัดให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 14 นาย โดยมี พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา (BG Samsul Rizal bin Musa) ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาเลเซีย ประจำกรุงเทพฯ เป็นหัวหน้าคณะ และ พลตรี กรรณ บุญชัย รองเจ้ากรมข่าวทหาร เป็นผู้แทนฝ่ายกองทัพไทย ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองกำลังสุรนารี (กองทัพภาคที่ 2) ระหว่างวันที่ 18–20 สิงหาคม 2568
วันที่ 19 ส.ค.68 คณะผู้สังเกตการณ์ฯ ได้รับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง บริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งตรวจพบการรุกล้ำพื้นที่และตัดลวดหนามที่เป็นเครื่องกีดขวางทางทหาร
จากนั้นคณะได้เดินทางไปยัง ผามออีแดง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถมองเห็นพื้นที่พิพาท (พระวิหาร–ช่องตาเฒ่า–สัตตาโสม) เพื่อทำความเข้าใจภาพรวม ก่อนลงพื้นที่ต่อไปยัง ฐานกฤษณา (ภูมะเขือ) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ที่ฐานกฤษณา คณะผู้สังเกตการณ์ฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการลักลอบวางทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ในฝั่งไทย ซึ่งส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทหารไทยชี้แจงว่า จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากฐานประมาณ 150 เมตร บนเส้นทางลาดตระเวนปกติของฝ่ายไทยที่ไม่เคยพบทุ่นระเบิดมาก่อน ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่เก็บกู้พบทุ่นระเบิดชนิดเดียวกันเพิ่มอีก 1 ลูก รวมเป็น 3 ลูก ก่อนที่คณะผู้สังเกตการณ์ฯ จะลงพื้นที่ตรวจสอบเพียงหนึ่งวัน
กองทัพไทยได้นำทุ่นระเบิด PMN-2 ที่เก็บกู้ได้มาแสดงต่อคณะผู้สังเกตการณ์ฯ ซึ่งอยู่ในสภาพใหม่ ชี้ชัดว่าเพิ่งถูกลักลอบนำมาวาง พร้อมยืนยันว่ากองทัพไทยปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด และไม่มีการครอบครองหรือใช้ทุ่นระเบิดชนิดนี้แต่อย่างใด
จากนั้นคณะผู้สังเกตการณ์ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางลาดตระเวนและพื้นที่เกิดเหตุ โดยฝ่ายไทยได้ชี้แจงมาตรการรักษาความปลอดภัย อาทิ การจัดทำรั้วลวดหนามกั้นแนว และการปฏิบัติของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ที่ยังคงทำการเก็บกู้ในพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม คณะผู้สังเกตการณ์ฯ ได้ให้ความสนใจสอบถามรายละเอียด และบันทึกภาพทุ่นระเบิดที่พบ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นของใหม่
ต่อมา คณะผู้สังเกตการณ์ฯ ยังได้ลงพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งมีการเชิญธงชาติไทยเหนือยอดเขาอย่างสง่างาม โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นดินแดนของไทย และอยู่ในการควบคุมของทหารไทยอย่างเบ็ดเสร็จ หลังการปะทะที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า ตั้งแต่ทำข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงดังกล่าว แต่ฝ่ายกัมพูชากลับกระทำการละเมิดหลายครั้ง
การตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดของฝ่ายกัมพูชา แต่ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์การปฏิบัติของกองทัพไทยที่ยึดมั่นในมาตรฐานสากล อันเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาคมโลกว่า ประเทศไทยจะยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติด้วยความรับผิดชอบและคุณธรรม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กองทัพไทยนำคณะ IOT ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เผยเพิ่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพิ่มอีกลูก ก่อนลงพื้นที่เพียง 1 วัน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th