รองผู้ว่าฯ อยุธยา ร่วมประชุมคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ เตรียมรับมืออุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา
รองผู้ว่าฯ อยุธยา ร่วมประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า เตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมถึงแนวทางการประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่าย เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยให้กับประชาชน
วันที่ 2 ก.ย.68 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุม โดยมี นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง ครั้งที่ 1/2568 พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน นางปวีณา ทองสกุลพันธุ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
การประชุมจัดขึ้นตามคำสั่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่ 129/2568 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง โดยมีการวางแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยา รายงานสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง
การเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมถึงแนวทางการประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่าย เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยให้กับประชาชน มีการจัดประชุมซักซ้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในทุกระดับพื้นที่ ทั้งระดับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถตรวจสอบความพร้อมในการป้องกันและรับมือเหตุการณ์ในจุดเสี่ยงและจุดอ่อนไหวพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีการซักซ้อมระบบการแจ้งเตือนภัยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย กลุ่มไลน์ เสียงตามสาย และหอกระจายข่าว ซึ่งกระจายอยู่ในหมู่บ้านและชุมชนกว่า 1,575 แห่ง ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องและประชาชน ได้รับทราบข่าวสารอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ชัดเจน และครอบคลุมทุกพื้นที่
สถานการณ์ปัจจุบัน กรมชลประทานรายงานว่า เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่วม ณ วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ที่ 1,715 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 1,350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +15.04 ม.รทก.
ทั้งนี้ ได้มีการปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2568 เพิ่มจาก 1,350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ภายในเวลา 22.00 น. (เฉลี่ยเพิ่มชั่วโมงละ 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) และจะคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับรายงานน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ และอำเภอบางไทร ซึ่งน้ำได้เข้าท่วมใต้ถุนบ้านของประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง รวมทั้งสิ้น 4 อำเภอ 45 ตำบล 223 หมู่บ้าน จำนวน 6,814 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรกรรมได้รับผลกระทบประมาณ 382.75 ไร่