บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” JPARK ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เป้า 4.60 บาท
#ทันหุ้น #JPARK บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) : JPARK ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เป้า 4.60 บาท การเติบโตยังท้าทาย แต่กำไรยังมั่นคง คาดจำนวนช่องจอดสิ้นปี พ.ศ. 2568 อยู่ที่ 40,000 ช่องจอด แต่ในปี พ.ศ. 2569 จะอยู่ที่ 36,000 ช่องจอด เนื่องจากหมดสัญญาบริหารที่จอดรถ One Bangkok 8,000 ช่อง แต่ได้งานบริการที่จอดรถโรงพยาบาลศิริราช 3,000 ช่อง บวกกับอาคารจอดรถใหม่อีก 1,000 ช่อง
ได้มีการปรับลดคาดการณ์กำไรปกติ พ.ศ. 2568–2570 ลง 10–12% โดยกำไรปกติปี พ.ศ. 2568 คาดลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และจะฟื้นตัว 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนในปี พ.ศ. 2569 จากโครงการที่จอดรถศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก
ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 4.60 บาท ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง ทำให้มีอัพไซด์กว้างขึ้น จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ 10%
JPARK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ที่ 19 ล้านบาท ลดลง 20% จากไตรมาสก่อน และลดลง 28% จากปีก่อน ต่ำกว่าที่คาดไว้ 10% เนื่องจากธุรกิจ CIPS รับรู้รายได้น้อยกว่าคาด ขณะที่กำไรธุรกิจอื่นเป็นไปตามประมาณการ โดยรายได้รวมลดลง 3.5% จากไตรมาสก่อน และลดลง 11.2% จากปีก่อน แม้รายได้จากธุรกิจ PS คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการจอดรถในโครงการอาคารที่จอดรถที่ทยอยเพิ่มขึ้น
แต่รายได้ธุรกิจ PMS หรือค่าบริหารที่จอดรถยังทรงตัว เนื่องจากจำนวนช่องจอดรวมยังคงอยู่ที่ 40,000 ช่อง ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 และธุรกิจ CIPS มีรายได้จากโครงการรับเหมาลดลงทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและปีก่อน
แนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าจะใกล้เคียงหรือสูงกว่าครึ่งปีแรกเล็กน้อย จากการเริ่มรับรู้รายได้โครงการบริการที่จอดรถ (PS) ในโรงพยาบาลศิริราช 3,000 ช่องจอด เพิ่มขึ้นจากฐาน 40,000 ช่องจอด ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 รวมถึงโครงการอาคารจอดรถพระนั่งเกล้าที่มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามการทยอยเปิดร้านค้าและศูนย์ตรวจสุขภาพ บนพื้นที่จอดรถ 500 คัน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ 1,000 ตร.ม.
ส่วนธุรกิจ PMS คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากไม่มีจำนวนช่องจอดที่ให้บริการเพิ่ม ส่วนธุรกิจ CIPS คาดว่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก จากการรับรู้รายได้งานติดตั้งที่จอดรถของรฟม.
ทั้งนี้ ได้มีการปรับลดประมาณการกำไร พ.ศ. 2568–2570 ลง 10–12% ทำให้กำไรปีนี้ชะลอตัว แต่จะฟื้นตัวในปีหน้า จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งทำให้บริษัทปรับลดเป้าการขยายช่องจอดสิ้นปี พ.ศ. 2568 จาก 50,000 ช่องเหลือ 40,000 ช่อง แม้ในไตรมาส 2/2568 บริษัทชนะประมูลงานโครงการบริการที่จอดรถ (PS) ในโรงพยาบาลศิริราช 3,000 ช่องจอด
แต่สัญญาบริหารที่จอดรถ One Bangkok กว่า 8,000 ช่องจะหมดลงในปีนี้ ทำให้คาดว่าปี พ.ศ. 2569 จะมีจำนวนช่องจอดสุทธิ 36,000 ช่อง รวมโครงการอาคารจอดรถกาญจนาภิเษก 1,000 ช่อง ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินงานในไตรมาส 1/2569
ประกอบกับกำไรครึ่งปีแรก พ.ศ. 2568 ต่ำกว่าคาด เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปกติ พ.ศ. 2568–2570 ลง 10–12% คาดว่ากำไรสุทธิปี พ.ศ. 2568 จะลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และจะฟื้นตัว 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนในปี พ.ศ. 2569 หลัก ๆ มาจากการเริ่มรับรู้รายได้โครงการอาคารที่จอดรถ 1,000 ช่อง และพื้นที่เชิงพาณิชย์ 4,000 ตร.ม.
ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 4.60 บาท โดยมองว่ามีอัพไซด์เปิดกว้างขึ้น จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับลงต่อเนื่องสะท้อนผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด สัญญาบริหารที่จอดรถ One Bangkok ที่กำลังจะหมด รวมถึงกำไรปกติปี พ.ศ. 2568 ที่ชะลอลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่จะฟื้นตัว 16% ในปี พ.ศ. 2569 จากโครงการที่จอดรถศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก