ธิงค์แทงค์ดัง แนะสหรัฐยืนข้างไทย ชี้เป็นพันธมิตรเก่าแก่ ซัดเขมรต้นตอขัดแย้ง ยิงใส่พื้นที่พลเรือน
ธิงค์แทงค์ดัง แนะสหรัฐยืนข้างไทย ชี้เป็นพันธมิตรเก่าแก่ ซัดเขมรต้นตอขัดแย้ง ยิงใส่พื้นที่พลเรือน
เว็บไซต์ของ The Heritage Foundation สถาบันธิงค์แทงค์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ตั้งแต่ปี 1973 และมีอิทธิพลอย่างมากต่อรัฐบาลสหรัฐโดยเฉพาะพรรครีพับลิกัน ได้เผยแพร่บทความที่เขียนโดยนายวิลสัน บีเวอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายงบประมาณกลาโหมและนโยบายองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ The Heritage Foundation ภายใต้หัวข้อว่า “ทำไมการเป็นพันธมิตรของสหรัฐ-ไทยจึงมีความสำคัญ”
วิลสันระบุว่า รัฐบาลกัมพูชา ต้องรับผิดชอบทั้งการยุยงปลุกปั่นความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ และการโจมตีพื้นที่พลเรือนของไทย ทั้งยังชี้ว่า การขยายอิทธิพลของจีนที่ฐานทัพเรือเรียมในกัมพูชา เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐ ที่พิจารณาท่าทีของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และท้ายที่สุดแล้ว ประเทศไทย เป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาของสหรัฐอเมริกา และยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐมานานหลายทศวรรษ
วิลสันเริ่มต้นบทความด้วยการเท้าความว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่รู้ว่ารัสเซียและยูเครนกำลังทำสงครามกันอยู่ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามีอีกกรณีหนึ่งของความขัดแย้งด้วยอาวุธที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าแทรกแซงอย่างถูกต้อง นั่นคือกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา ตามมาด้วยการสู้รบอย่างดุเดือดเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งรวมถึงการโจมตีด้วยจรวดของกัมพูชาต่อดินแดนไทย และการโจมตีทางอากาศของไทยเพื่อตอบโต้เป้าหมายทางทหารในกัมพูชา จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย และผู้พลัดถิ่นหลายแสนคน ทั้งสองประเทศตกลงหยุดยิง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จในการเจรจาข้อตกลงอื่นๆ มากมายตลอดทั้งปี
รัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของจีน ต้องรับผิดชอบต่อทั้งสองฝ่ายที่เป็นผู้ยุยงให้เกิดความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ และการโจมตีพื้นที่พลเรือนของไทย ทั้งสองประเทศปะทะกันหลังจากเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดในเดือนกรกฎาคม ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย ทั้งสองฝ่ายจึงเคลื่อนกำลังทหารไปยังชายแดนและเริ่มยิงปืนใหญ่ตอบโต้กัน โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่ายิงก่อน
ในช่วงสงคราม ไทยมีประสิทธิภาพเหนือกว่ากองทัพกัมพูชาอย่างมาก โดยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ผลิตในสหรัฐ โจมตีเป้าหมายคลังจรวดและศูนย์บัญชาการในกัมพูชาอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ไทยยังได้ใช้เครื่องบินขับไล่ JAS 39 กริพเพน ที่ผลิตในสวีเดนโจมตีฐานปืนใหญ่ของกัมพูชาที่กำลังยิงถล่มพื้นที่ชายแดนไทยเป็นครั้งแรก กองทัพไทยยังได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นการใช้โดรนติดอาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาใกล้ชายแดนอีกด้วย
กองทัพไทยระบุว่า กัมพูชายิงจรวด BM-21 ที่ผลิตในรัสเซียเข้าสู่พื้นที่พลเรือนของไทย ส่งผลให้พลเรือนไทยเสียชีวิต 14 ราย ในช่วงเวลาสั้นๆ ของสงคราม ไทยสูญเสียพลเรือนมากกว่าทหาร ในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงอย่างยิ่งครั้งหนึ่งคือการที่จรวดของกองทัพกัมพูชาได้ตกใส่ปั๊มน้ำมันของไทย ทำให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก
ด้วยเหตุผลหลายประการ ความเห็นอกเห็นใจของชาวอเมริกันควรอยู่เคียงข้างประเทศไทยอย่างชัดเจน ประการหนึ่ง กัมพูชายังคงรักษาความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิดกับประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับผลประโยชน์ของอเมริกา รวมถึงจีนและเกาหลีเหนือ ในปี 2017 กัมพูชาได้ระงับปฏิบัติการทางทหารร่วมกับสหรัฐอเมริกา แต่กลับเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับจีน รวมถึงการอนุญาตให้จีนพัฒนาฐานทัพเรือแบบที่ใช้ได้ทั้งในทางพาณิชย์และทางทหารในกัมพูชา
การขยายฐานทัพเรือจีนที่ฐานทัพเรือเรียมในกัมพูชา ถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐ ที่ติดตามท่าทีของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่เลวร้ายไปกว่านั้น กัมพูชายังปฏิเสธข้อเสนอจากสหรัฐที่จะให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนในการพัฒนาฐานทัพเรือแห่งนี้ และถึงขั้นรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่สหรัฐเคยสร้างไว้ในพื้นที่ฐานทัพออกไป
ในทางกลับกัน ประเทศไทยเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญากับสหรัฐ มายาวนานภายใต้สนธิสัญญามะนิลา ค.ศ. 1954 เป็นพันธมิตรสำคัญในยุทธศาสตร์ความมั่นคงอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ และเป็นพันธมิตรหลักนอกนาโตตั้งแต่ปี 2003 ประเทศไทยใช้ยุทโธปกรณ์ของอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือเครื่องบิน F-16 ของสหรัฐ และกริพเพนของสวีเดน ซึ่งเป็นเขี้ยวเล็บสำคัญของกองทัพอากาศไทย ในช่วงสงครามเย็น ไทยซึ่งเป็นประเทศอนุรักษ์นิยมได้ยืนหยัดเป็นปราการต่อต้านการแผ่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค กองทัพไทยได้ร่วมรบเคียงข้างกองทัพอเมริกันทั้งในสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนาม
ความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบัน ทุกปี กองทัพไทยทำงานอย่างใกล้ชิดกับกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกคอบร้าโกลด์ ซึ่งเป็นการฝึกร่วมทางทหารที่ใหญ่ที่สุดที่นำโดยสหรัฐในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ผู้เข้าร่วมหลักของการฝึกคอบร้าโกลด์ในปีนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้ โดยมีทหารสหรัฐเข้าร่วม 3,200 นาย
ทหารและนาวิกโยธินสหรัฐได้รับการฝึกฝนข้ามสายกับกองกำลังพันธมิตรและกองกำลังคู่หูในการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก การซ้อมรบทางอากาศและทางบก การสงครามในป่า การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ รวมถึงยุทธวิธีการรบสมัยใหม่ เช่น การป้องกันทางไซเบอร์และการปฏิบัติการต่อต้านโดรน
ในขณะที่สหรัฐกำลังเปลี่ยนทิศทางสู่อินโด-แปซิฟิก ชาวอเมริกันควรเตือนตัวเองว่าเรามีพันธมิตรตามสนธิสัญญาอยู่แล้ว ซึ่งเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกันมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อพิจารณาว่าจะร่วมมือกับประเทศใดในฐานะส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของเรา และสนับสนุนประเทศใดในเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ เราควรให้ความสำคัญกับพันธมิตรอย่างเป็นทางการของเรา เช่น ไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ และแน่นอนว่ารวมถึงมิตรและหุ้นส่วนที่ดีของเราในไต้หวันด้วย
ทุกคนควรรู้สึกขอบคุณที่ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชายุติลงอย่างรวดเร็ว หากเป็นไปได้ สหรัฐควรแสวงหาความร่วมมือกับกัมพูชา และมอบทางเลือกในการเป็นหุ้นส่วนที่นอกเหนือจากจีน
ชาวกัมพูชาจำนวนมากได้แสดงความขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่ช่วยยุติความขัดแย้ง ในฉากหนึ่งที่สะเทือนอารมณ์ พระสงฆ์กัมพูชาเดินขบวนเพื่อสันติภาพ พร้อมกับชูรูปประธานาธิบดีหน้าสถานทูตสหรัฐ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความขอบคุณ นี่อาจเป็นโอกาสสำหรับการสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับกัมพูชามากขึ้น ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้กัมพูชาลดระดับความร่วมมือทางทหารบางประการที่น่ากังวลกับจีนลง
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ประเทศไทยก็เป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาของสหรัฐอเมริกา และยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ ชาวอเมริกันควรสนับสนุนสิทธิของประเทศไทยในการปกป้องตนเอง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ธิงค์แทงค์ดัง แนะสหรัฐยืนข้างไทย ชี้เป็นพันธมิตรเก่าแก่ ซัดเขมรต้นตอขัดแย้ง ยิงใส่พื้นที่พลเรือน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th