โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

“ทรัมป์” เผย “อินเดีย” เสนอลดภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ หลังสหรัฐขึ้นภาษี 50%

การเงินธนาคาร

อัพเดต 2 กันยายน 2568 เวลา 18.43 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทรัมป์" เผย "อินเดีย" เสนอลดภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ หลังสหรัฐขึ้นภาษี 50% ขณะที่ความสัมพันธ์อินเดีย–รัสเซียยังแน่นแฟ้น และนเรนทรา โมดี เดินหน้าปรับสมดุลความสัมพันธ์กับจีน

วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 07.36 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่าอินเดียได้เสนอลดอัตราภาษีนำเข้าลงเหลือศูนย์ ภายหลังจากที่สหรัฐเพิ่งประกาศขึ้นภาษีศุลกากร 50% ต่อสินค้านำเข้าจากอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเป็นการลงโทษจากการซื้อน้ำมันรัสเซีย

“พวกเขาตอนนี้เสนอจะลดภาษีลงเหลือศูนย์ แต่ทุกอย่างมันช้าเกินไปแล้ว พวกเขาควรทำแบบนี้ตั้งแต่หลายปีก่อน” ทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social โดยยังไม่ชัดเจนว่าข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด และทำเนียบขาวจะเปิดการเจรจาการค้ากับอินเดียอีกครั้งหรือไม่

มาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐได้เพิ่มอัตราภาษีจาก 25% เป็น 50% ครอบคลุมสินค้าส่งออกของอินเดียกว่า 55% ที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของอินเดีย กระทบหนักต่ออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น สิ่งทอและอัญมณี ขณะที่สินค้าส่งออกสำคัญบางรายการอย่างอิเล็กทรอนิกส์และเภสัชภัณฑ์ได้รับการยกเว้น ซึ่งช่วยให้การลงทุนโรงงานใหม่ขนาดใหญ่ของ Apple Inc. ในอินเดียยังไม่ถูกกระทบในตอนนี้

การขึ้นภาษีครั้งนี้สร้างความตกตะลึงแก่เจ้าหน้าที่อินเดีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาการค้าต่อเนื่องมาหลายเดือน อินเดียถือเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่เปิดการเจรจาการค้ากับรัฐบาลทรัมป์ แต่แนวนโยบายกีดกันทางการค้าและการคงอัตราภาษีสูงในภาคเกษตรและนมของอินเดียได้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้แทนการค้าสหรัฐ

รายงานก่อนหน้านี้ของ Bloomberg ระบุว่าอินเดียเคยแสดงความยินดีที่จะเปิดให้มีการเก็บภาษีศูนย์สำหรับสินค้าบางประเภท เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และเภสัชภัณฑ์ แต่ยังคงปกป้องภาคเกษตรและนมซึ่งเป็นเส้นแดงที่อินเดียไม่พร้อมเปิดตลาด

ทั้งนี้อินเดียได้พยายามหลายครั้งในปีนี้เพื่อบรรเทาความไม่พอใจของทรัมป์ รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อลดอัตรานำเข้าในสินค้าสหรัฐที่โดดเด่น เช่น วิสกี้ Bourbon และมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นพรีเมียม

อย่างไรก็ดีทรัมป์ยังคงไม่พอใจกับการที่อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยเขาระบุว่านั่นคือการช่วยจัดหาเงินทุนให้กับสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในยูเครน

ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับรัสเซียยังคงแน่นแฟ้น โดย นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียได้พบกับปูตินที่จีน พร้อมย้ำว่าทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์พิเศษ

โมดียังได้ขยับปรับความสัมพันธ์กับจีน โดยพบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เมืองเทียนจิน เมื่อวันอาทิตย์ระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยทั้งสองฝ่ายตกลงจะเป็นหุ้นส่วน ไม่ใช่คู่แข่ง พร้อมหารือปัญหาเขตแดน การกลับมาเปิดเที่ยวบินตรง และการเพิ่มปริมาณการค้า

อ้างอิง : bloomberg.com

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์รอบโลก ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

KBTG Techtopia ปี 3 มนุษย์ผนึก AI สร้างโลกใหม่แห่งอนาคต

19 นาทีที่แล้ว

“ตลาดหุ้นยุโรป” เปิดลบ นักลงทุนยังจับตารายงานเงินเฟ้อยูโรโซน

31 นาทีที่แล้ว

FWD ประกันชีวิต เสริมบริการ Telemedicine ผ่านแอป MorDee

35 นาทีที่แล้ว

เมืองไทยประกันภัยคลอดประกันสัตว์เลี้ยงเบี้ยประกันเริ่มต้น 629 บาทต่อปี

37 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

สี จิ้นผิง ปธน.จีน แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน หลังผู้แทนระดับสูงกัมพูชาเดินทางเข้าพบ

สยามนิวส์

ผู้นำลาว เรียกร้อง 'กัมพูชา-ไทย' อดกลั้น-ยึดสันติวิธี แก้ปัญหาพิพาทชายแดน

MATICHON ONLINE

อิตาลีงงหนัก หลังฝรั่งเศสกล่าวหา “สร้างการแข่งขันภาษีที่ไม่เป็นธรรม”

เดลินิวส์

ช็อก! นักร้อง-อินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดัง ชาวเม็กซิโก ถูกพบร่างพร้อมสามีและลูกๆในท้ายรถกระบะ ตร.คาดว่าเป็นฝีมือแก๊งค้ายาเสพติด

News In Thailand

หนุ่มขุดหินโผล่กลางสนามหญ้า อึ้ง เจอก้อนหินโบราณยักษ์ บอกไม่ใช่เรื่องง่าย เผยที่มา

Khaosod

ญี่ปุ่นผ่อนคลายกฎหมายปืน หลังเกิดเหตุ ‘หมี’ โจมตีมนุษย์มากขึ้น

เดลินิวส์

ศาลไม่รับคำอุทธรณ์นักมวยหญิงแอลจีเรีย

AFP

รับรองปาเลสไตน์ เบลเยียมมาอีกหนึ่งชาติ-ลงโทษเอกชนอิสราเอล

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...