โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แบงก์พาเหรด "ลดดอกเบี้ย" ปลุกอสังหาริมทรัพย์ฟื้นหรือไม่ ! หุ้นตัวไหนน่าเก็งกำไร เช็กเลย

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ตามคาด ! กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% ท่ามกลางความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังที่สูงขึ้น จากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ-สินเชื่อที่ตึงตัวจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงทำให้แบงก์เข้มงวดในการให้สินเชื่อ ซึ่งการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะช่วยปลุกธุรกิจอสังหาฯให้กับมาพลิกฟื้นมากน้อยแค่ไหน และหุ้นตัวไหนเด่นที่น่าลงทุนตามไปส่องกันเลย

มติเอกฉันท์! คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) หั่นดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.75% มาอยู่ที่ระดับ 1.50% ต่อปี ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน นับตั้งแต่มี.ค. 66 เหตุผลหลักมาจากกลุ่มเปราะบาง รายย่อย และ SME มีความยากลำบาก และได้รับผลกระทบซ้ำเติมจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (Tariff) ภาวะสินค้านำเข้าทะลัก (Import Flooding) และสินเชื่อที่ตึงตัว ดังนั้นคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งนี้จะทำให้ภาวะการเงินของกลุ่มเปราะบางผ่อนคลายมากขึ้น

พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยลงได้อีกถ้าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่การลดดอกเบี้ยลงคงไม่เท่ากับช่วงโควิด ซึ่งดอกเบี้ยนโยบายของไทยลงไปต่ำสุดที่ 0.5% ตั้งแต่ช่วงกลางปี 63 ต่อเนื่องถึง ก.ค. 65 จากภาพ เศรษฐกิจในช่วงนั้นที่ย่ำแย่ โดยจีดีพีของประเทศไทยในปี 63 ติดลบไปถึง 6.1%

อย่างไรก็ตาม การเก็บพื้นที่ในการดำเนินนโยบาย (Policy Space) ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดที่คณะกรรมการฯ จะต้องชั่งน้ำหนักมากขึ้นในแง่ของการที่จะลดลงดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Interest Rate) ปัจจุบันใกล้เคียง 0% ถ้าเงินเฟ้ออยู่ที่ 1% กว่า ซึ่งถือเป็นระดับที่ผ่อนคลายแล้ว

สิ้นเสียงประกาศของกนง. แบงก์กรุงเทพนำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% เพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 6.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 6.75% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 6.65% ต่อปี

ตามติดด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงไทย กสิกรไทย ธกส. และธอส.ที่ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% โดยการปรับลดในครั้งนี้เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การบริโภค และลดต้นทุนทางการเงิน รวมทั้งบรรเทาภาระหนี้ของภาคธุรกิจและประชาชน จากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงตามการแข่งขันในภูมิภาคที่รุนแรงขึ้น

สำหรับการลดดอกเบี้ยของกนง.และแบงก์พาณิชย์ครั้งนี้จะช่วยผ่อนคลายภาระหนี้ให้ผู้กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้มากน้อยแค่ไหน และจะช่วยปลุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซากลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ และหุ้นอสังหาริมทรัพย์ตัวไหนเด่นน่าลงทุน ในวันนี้ TNN Online พาไปไขคำตอบจากกูรูกันค่ะ

เริ่มจาก “ทศวรรณ ธรรมสุข” นักวิเคราะห์ลงทุนด้านหลักทรัพย์บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) มองว่า การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารช่วยลดภาระลูกหนี้ได้บ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากในปัจจุบันแบงก์ยังคุมเข้มสินเชื่อ เพราะกังวลในเรื่องหนี้เสีย และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. มีความกังวลเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรก จากภาษีทรัมป์ ดังนั้นคาดว่าตลาดอสังหาฯ ในช่วงที่เหลือของปียังทรงตัว

ส่วนภาพรวมการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2/68 ที่ผ่านมายอดโอนฟื้นตัวดีกว่าไตรมาส 1/68 แต่ถ้าเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน YOY จะปรับตัวลดลง เนื่องจากการแข่งขันสูง โดยเฉพาะบ้านราคาสูงมีการตัดราคาเพื่อระบายสต็อก ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิปรับตัวลดลง เช่น มจ. เอพี (ไทยแลนด์) หรือ APยอดโอนในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท แต่หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,300 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้นถ้าเทียบ qoq บวก 16.5% แต่ถ้าเทียบช่วงเดียวของปีก่อน yoy -20.70%

ส่วน บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นหรือ SC ปรับกลยุทธ์การขายด้วยการอัดแคมเปญทำตลาดต่อเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีทำให้ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 273% หากเทียบกับไตรมาส1/68 ที่มีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท แต่ถ้าเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน yoy มีกำไรสุทธิ 531 ล้านบาท ลดลง 21.2%

ขณะที่ยอดโอนในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 9,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% qoq แต่ถ้าเทียบ yoy ลดลง 2.6%

หากมองภาพรวมถึงการปล่อยกู้ของธนาคารนั้นพบว่า ยอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นสำหรับบ้านที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยเฉพาะทาวน์โฮม ส่วนคอนโดมิเนียม หลังจากเกิดแผ่นดินไหวยอดขายลดลง แต่ตอนนี้เริ่มทยอยฟื้นตัวดีกว่าช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 ที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว 2 ไตรมาสกว่าจะกลับมาเป็นปกติ

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นAP คาดว่าไตรมาส 3/68 ยอดโอนรวมจะสูงสุดของปีแตะที่ 11,000-12,000 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการ “ASPIRE อ่อนนุช สเตชั่น” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง เอพี ไทยแลนด์ และมิตซูบิชิ เอสเตทมูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการ ASPIRE สุขุมวิท – พระราม 4 มูลค่า 4,600 ล้านบาท ราคาเปาหมาย 8.30 บาท คาดปันผล 0.53 บาทต่อหุ้น

หุ้นตัวถัดมาคือ ASW มองแนวโน้มในไตรมาส 3/68 รายได้ฟื้นตัวได้ดี หลัง โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในภูเก็ต ชื่อว่า "ไซเคิล ดิเอนเนอร์" สร้างเสร็จก่อนกำหนด คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิสูงขึ้น แม้ว่าในไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 168 ล้านบาท ลดลง 1.5% เทียบ qoq

ด้าน“สรพงษ์ จักรธีรังกูร” ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย มองว่า ดอกเบี้ยที่คิดกับลูกค้าในการกู้มี 2 ประเภทคือการคิดดอกเบี้ยบ้านแบบคงที่ (Flat Rate) และการคิดดอกเบี้ยเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) ซึ่งผู้ที่กู้แบบดอกเบี้ยคงที่จะไม่ได้รับประโยชน์ แต่ผู้ที่กู้แบบดอกเบี้ยลอยตัวจะได้รับผลดีจากการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ทำให้กำไรบริษัทเพิ่มขึ้น 1-1.5% และถ้าดอกเบี้ยลง 1% กำไรบริษัทเพิ่มขึ้น 4-5%

ทั้งนี้แม้ว่าดอกเบี้ยลดลง แต่กำลังซื้อของประชาชนไม่ได้เพิ่มขึ้น ขณะที่แบงก์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ดังนั้นมองว่าถ้าแบงก์ไม่อยากปล่อยกู้ก็ไม่ได้ส่งผ่านดอกเบี้ยไปยังผู้กู้ เพราะปกติถ้าดอกเบี้ยไม่ปรับลดลง

ถ้าแบงก์ต้องการจะปล่อยกู้ก็จะปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาคิดดอกเบี้ย MRR-3%- MRR-4% หรือถ้ากรณีที่ลูกค้ามีความเสี่ยงสูงจะคิดดอกเบี้ย MRR+1%

ขณะที่ยอดปฎิเสธสินเชื่อของแบงก์ในปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยราคา 5-6 ล้านบาท จากเดิมปีที่แล้วปฎิเสธสินเชื่อ 60-70% สำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีรายได้ลดน้อยลงทำให้แบงก์ กังวลเรื่องหนี้เสียทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อลดลงตามไปด้วย

โดยแนวทางแก้ปัญหาที่ตรงจุดคือการตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถกลับมาปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น

นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ดีขึ้น มีความกังวลส่งออกจากภาษีทรัมป์ และท่องเที่ยวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ ซึ่ง 2 เครื่องยนต์นี้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในเมื่อเศรษฐกิจยังแผ่วแม้ลดดอกเบี้ยก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ และซัพพลายของผู้ประกอบการสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ต่อเนื่องใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้การเปิดโครงการใหม่ลดลงประมาณ 40%นอกจากนี้ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปนิยมการเช่ามากกว่าการซื้อ

หันมาดูงบไตรมาส 2/68 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นพบว่า กำไรลดลงถ้าเทียบ qoq และ yoy โดยประเมิน 10 บริษัทในตลาดฯ กำไรอยู่ที่ 5,800-5,900 ล้านบาท จากไตรมาส 1/68 กำไรอยู่ที่ 3,560 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 2/67 กำไรอยู่ที่ 7,500 ล้านบาท

ส่วนทิศทางอสังหาฯในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกจากปัจจัยลบที่น้อยกว่า ดังนั้นการลงทุนเน้นบริษัทที่กระจายโครงการจับกลุ่มเป้าหมายทุกระดับไม่ว่าจะเป็น ลูกค้าระดับล่าง กลาง และบน มีส่วนแบ่งการตลาด 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาดรวม และเป็นแบรนด์ดังที่ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น เช่นAPราคาเป้าหมาย 9.40 บาท SIRI ราคาเป้าหมาย 1.74 บาท SPALI ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท SCราคาเป้าหมาย 2.69 บาท โดยปันผลเฉลี่ย 7%

ที่ผ่านมารัฐบาลได้คลอดมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์มาต่อเนื่อง ทั้งการลดค่าธรรม เนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัย ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.68 - 30 มิ.ย. 69

รวมถึงมาตรการ ผ่อนผัน หลักเกณฑ์อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน หรือ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กู้ได้ 100% ทุกระดับราคาทุกสัญญา ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ค.68- 30 มิ.ย.69

ซึ่งช่วยประคองตลาดไม่ให้ทรุดหนักมากไปกว่าเดิม หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมถึงนโยบายภาษีสหรัฐที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมหดตัว

ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งล่าสุดของ กนง. ก็คงจะช่วยลดภาระค่างวดของลูกค้าเดิม และจูงใจคนให้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้นได้บ้าน แต่สิ่งสำคัญคือ ถ้าสถาบันการเงินยังกังวลเรื่องหนี้เสีย และเข้มงวดขั้นสูงสุดในการปล่อยสินเชื่อต่อไป

ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอ กำลังซื้อหดตัว และหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง การลดดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา และอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็คงไม่ได้ตอบโจทย์ที่จะทำให้การเข้าถึงสินเชื่อใหม่ของผู้กู้ง่ายขึ้นได้…..

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

ลูกยางสาวไทย สู้สุดมันส์ 5 เซต ก่อนพ่าย เช็กเกีย แบบหวุดหวิด

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์มอง "ข้อตกลงสันติภาพ" คือหนทางหยุดสงครามที่ดีที่สุด "ไม่ใช่หยุดยิง" แบบที่ยูเครนผลักดัน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยินดี แจ็คเกอลีน ลูกสาวบุญธรรม ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ถูกแฟนหนุ่มขอหมั้นแล้ว

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ประวัติ มาร์โก เบซเซคคี่ : "เบซ" สีสันในสนามระหว่างทางสู่แชมป์โลก

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

หลังประชุม RBC กัมพูชา ยังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด

tvpoolonline.com

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2568

สำนักข่าวไทย Online

โฆษกรัฐบาล เชิญ "ไมเคิล" บินมาไทย ลงพื้นที่ชายแดน หลังอ้างตัวเป็นนักข่าว

คมชัดลึกออนไลน์

เตือนภัย "แรงงานกัมพูชา" ระวังข่าวปลอมหลอกกลับประเทศ

ฐานเศรษฐกิจ

กล้องวงจรปิดนาที ก๊วนรถแต่งซิ่งพังยับ 10 คัน บนทางด่วนอุดรรัถยา

TNews

สาวร้อง วัยรุ่นกว่า 40 คน บุกปาระเบิดปิงปองใส่บ้าน แจ้งความคดีไม่คืบ หวั่นมีอิทธิพล

Khaosod

กองทัพเรือ ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เรือตรี ภัชทราวุฒิ รัตนวงษ์ นักรบผู้กล้ารายที่ 16

Manager Online

"เนวิน" ผนึกกำลังชาวบุรีรัมย์ ส่งลวดหนามเสริมแกร่งชายแดน

TNews

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดอกเบี้ยขาลง "ประชาชน-ธุรกิจ" รับประโยชน์อย่างไรบ้าง เช็กเลย!

TNN ช่อง16

โกลด์แมนฯ คาดเฟดหั่นดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้

TNN ช่อง16

ธอส. ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย MRR 0.25%

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...