ทรัมป์มอง "ข้อตกลงสันติภาพ" คือหนทางหยุดสงครามที่ดีที่สุด "ไม่ใช่หยุดยิง" แบบที่ยูเครนผลักดัน
ภายหลังการหารือกับปูตินและการสนทนาทางโทรศัพท์ร่วมกับเซเลนสกีและผู้นำประเทศยุโรปเสร็จสิ้น ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาโพสต์ข้อความบน Truth Social ว่าข้อตกลงสันติภาพคือ “หนทางที่ดีที่สุด” ในการยุติสงครามในยูเครน มากกว่าการหยุดยิงที่ยูเครนและชาติพันธมิตรกำลังผลักดัน
ทรัมป์กล่าวด้วยว่าหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเขายินดีจะนัดประชุมกับประธานาธิบดีปูตินอีกครั้งร่วมกับฝั่งเซเลนสกี และเป็นไปได้ว่าชีวิตของผู้คนนับล้านจะต้องปลอดภัยหลังจากนั้น แต่ระหว่างการประชุมของทรัมป์และปูตินที่รัฐอะแลสกาเมื่อวานนี้ (15 สิงหาคม) การสู้รบในยูเครนยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่า กองทัพสามารถเข้าควบคุมหมู่บ้าน 2 แห่งทางภาคตะวันออกของยูเครนได้แล้ว ประกอบด้วยหมู่บ้านคอลโลดาซิส ในแคว้นโดเนตสค์และหมู่บ้านโวรอน ในแคว้นดนีโปร และสามารถทำลายโดรนราว 30 ลำ จากยูเครนที่ส่งเข้ามาโจมตีในพื้นที่ของรัสเซียได้ในช่วงกลางดึก
ขณะที่ฝั่งกองทัพอากาศยูเครนกล่าวว่ารัสเซียได้ส่งโดรน 85 ลำโจมตียูเครนในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน แต่ในจำนวนนี้มี 61 ลำ ที่ยูเครนสามารถตรวจจับได้ เคราะห์ดีที่ในการโจมตีไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนี้กองทัพยูเครนยังกล่าวว่าสามารถกวาดล้างกองกำลังรัสเซียออกจากหลายพื้นที่ใกล้เมืองโปโครฟสก์ ซึ่งเป็นศูนย์ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้หลังจากที่รัสเซียพยายามรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ตลอดหลายวันที่ผ่านมา
สำนักข่าว BBC รายงานโดยอ้างสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามของสหรัฐฯ หรือ ISW ว่ากองทัพรัสเซียกำลังรุกเข้าสู่ดินแดนยูเครนโดยเฉลี่ยวันละ 15-16 ตารางกิโลเมตร อีกทั้งรัสเซียยังพยายามทำลายขีดความสามารถของยูเครนในการป้องกันเส้นทางลำเลียงมาตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ (2025) และตอนนี้ความพยายามเหล่านั้นเริ่มเห็นผล ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีรายงานว่ารัสเซียสามารถควบคุมดินแดนของยูเครนได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์ และแม้ว่าก่อนการประชุมที่รัฐอะแลสกา ทรัมป์จะผลักดันแนวคิดการแลกเปลี่ยนดินแดนเพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุชัดเจนว่าเขาไม่เห็นด้วยและจะไม่ยอมเสียดินแดนเพื่อแลกกับการหยุดยิง
สำหรับการประชุมไตรภาคีระดับผู้นำของทั้งสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน มีความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งผู้นำชาติยุโรปที่ต่างออกมาตอบรับในเชิงบวกและพร้อมให้ความร่วมมือกับการประชุมนี้ โดยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา (16 สิงหาคม) ผู้นำชาติยุโรปเพิ่งออกแถลงการณ์ร่วมว่ายุโรปพร้อมทำงานร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีเซเลนสกี แต่การตัดสินใจเรื่องดินแดนควรขึ้นอยู่กับยูเครน และยืนยันว่าพรมแดนระหว่างประเทศจะต้องไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มาจากการใช้กําลัง เพื่อสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน
ด้านนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ กล่าวว่าความพยายามของผู้นำสหรัฐฯ ทำให้สามารถเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของสงครามในยูเครนได้มากกว่าที่เคยเป็นและยืนกรานว่าขั้นตอนถัดไปในการเจรจาจะต้องมียูเครนร่วมด้วยเพราะเส้นทางสู่สันติภาพในยูเครนจะไม่สามารถตัดสินได้ถ้าไม่มียูเครนร่วมอยู่ด้วย เช่นเดียวกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสที่กล่าวว่าผู้นำชาติยุโรปได้ตกลงร่วมกันที่รักษาแรงกดดันต่อรัสเซียจนกว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นในยูเครน และจะต้องเกิดขึ้นพร้อมกับการรับประกันความมั่นคงของยูเครนอย่างไม่สั่นคลอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เมลาเนีย" ฝากทรัมป์ส่งจดหมายของเธอให้ปูติน แสดงความกังวลรัสเซียลักพาตัวเด็ก
- อะแลสกา: เวที “ยกสถานะรัสเซีย” ด้วยสัญลักษณ์ ที่ไร้ข้อตกลง
- เราได้รู้อะไรบ้าง ? จากการประชุมสุดยอด ทรัมป์-ปูตินในอะแลสกา
- สำรวจปฏิกิริยาหลังการประชุม ทรัมป์-ปูติน สื่อนอกมองเหมือนโยนชัยชนะให้รัสเซีย
- ทรัมป์-ปูติน ประชุมร่วมที่อะแลสกาเสร็จสิ้น "ยังไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น" เกี่ยวกับสงครามในยูเครน