รวบมือมีดแทงสาว LGBTQ กว่า 10 แผล สารภาพมาทวงหนี้โมโหโดนตบหน้า
ชุดสืบสวนรวบมือมีดแทงสาว LGBTQ กว่า10 แผล ทิ้งร่างแอ่งน้ำริมถนน สาเหตุทวงหนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งญาติเชื่อว่าน่าจะลวงมาขืนใจ
จากกรณีเมื่อเวลา 17:35 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิตลอยอยู่ที่บริเวณบ้านทนง-โคกปลัด ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.คมสันต์ กองโฮม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยนายแพทย์อธิคม ใจกล้า เเพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสุรินทร์และกู้ภัยสุรินทร์ รุดตรวจสอบและร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 16 สิงหาคม 2568 ที่สภ.เมืองสุรินทร์ พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ เจ้าพนักงานตำรวจจับกุม ตรวจยึด ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ร่วมกันจับกุมพร้อมกับ ได้สอบสวนนายสมพงค์ พลยุทธภูมิ ผู้ต้องหา อายุ 56 ปี 175 ม.14 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของนางสาว สุวนันท์ ดีชัยรัมย์ จนรับสารภาพว่าได้ไปรับนางสาว สุวนันท์ ดีชัยรัมย์ ที่ จ.บุรีรัมย์ และได้พาที่ จ.สุรินทร์
ซึ่งเป็นคนใช้อาวุธมีดพับแทงนางสาว สุวนันท์ ดีชัยรัมย์ เหยื่อมือมีดจริง เพราะว่ามาทวงเงินที่ติดหนี้ ซึ่งได้มีการโต้ถียง และถูกตบหน้า จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธมีดพับที่อยู่ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิคสีขาว หมายเลขทะเบียน งว-2278 นครราชสีมา ต่อสู้และใช้มีดพับแทงเข้าไปหลายที่ จึงทำให้นางสาว สุวนันท์ ดีชัยรัมย์ ผู้เสียชีวิตพร้อมกับร่างผู้เสียชีวิตมาทิ้งไว้ดังกล่าว
โดยวันนี้พ่อ แม่ พร้อมกับญาติ และเพื่อนของนางสาว สุวนันท์ ดีชัยรัมย์ เหยื่อมือมีด ได้มานั่งรอพบ พ.ต.ท.คมสันต์ กองโฮม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งรอรับร่างของนางสาว สุวนันท์ ดีชัยรัมย์ เหยื่อมือมีด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และพ.ต.ท.คมสันต์ กองโฮม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้นำตัวนายสมพงค์ พลยุทธภูมิ ทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ซึ่งมาที่จุดเกิดเหตุ และมาถูกควบคุมตัวที่หอพัก ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" อีกด้วย
ทั้งนี้ นายสมพงค์ หรือ "หมอ" พลยุทธภูมิ เล่าว่า ตนกับผู้ตายนั้นรู้จักกัน ซึ่งผู้ตายนั้นเป็นลูกน้องของเมีย และตนได้รู้จักกับนายเก่งซึ่งเป็นเพื่อนตนและเพื่อนผู้ตาย นายเก่งได้ใช้ให้ตนไปทวงเงินผู้ตายจำนวน 8,000 บาท แต่ทางผู้ตายได้บอกกับตนว่าอย่ามายุ่ง จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันโดยผู้ตายนั้นได้ตบตนก่อน 1 ครั้งจากนั้นจึงเกิดการต่อสู้กันในรถยนต์ บวกกับตนเองและผู้ตายนั้นมีอาการมึนเมาสุราตนจึงได้พลั้งมือหยิบมีดพับที่อยู่ในรถยนต์ของตนออกมาแทงผู้ตาย ตนนั้นรู้สึกผิดอยากจะขอโทษผู้ตายกับสิ่งที่ตนทำลงไป ส่วนเรื่องที่แอบชอบผู้ตายนั้นไม่เป็นความจริงตนนั้นรักและเอ็นดูผู้ตายเหมือนญาติ
ด้าน นายสมน ดีชัยรัมย์ อายุ 58 ปี เล่าว่า ตนและลูกสาวอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ลูกสาวนั้นได้มาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน กับตนแต่ก็ได้พูดคุยติดต่อและกลับบ้านมาบ้าง ซึ่งตนรู้สึกสงสัยเพราะเมื่อวันที่ 12-13 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนนั้นติดต่อลูกสาวไม่ได้ จึงสงสัยว่าลูกสาวหายไปไหน จนมาทราบข่าวว่าลูกสาวได้มาเสียชีวิตที่จังหวัดสุรินทร์ ส่วนเรื่องที่ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า ลูกสาวตนนั้นติดหนี้คนชื่อเก่งตนนั้นไม่รู้เรื่อง
ขณะที่ น.ส ผกามาศ เดชารัมย์ เล่าว่า ตนนั้นไม่เชื่อว่าผู้ตายเป็นหนี้คนชื่อเก่งเนื่องจากผู้ตายเป็นคนขยันและไม่มีภาระรับผิดชอบอะไรเงินเดือนเดือนหนึ่งก็เพียงพอกับการใช้ชีวิตไม่เคยมีปัญหาหนี้สินตนจึงมั่นใจว่าไม่น่าจะเป็นมูลเหตุในการฆาตกรรมครั้งนี้ แต่ตนและทางญาติคิดว่าน่าจะเกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุนั้นแอบชอบพอผู้ตาย เพราะผู้ก่อเหตุชอบชวนผู้ตายไปนั่งสังสรรค์อยู่เป็นประจำ เกิดจากความสนิทที่เมียของผู้ก่อเหตุนั้นเป็นหัวหน้างานของผู้ตายจึงมีความสนิทกัน และผู้ตายนั้นให้ความเคารพผู้ก่อเหตุมาโดยตลอด
ในวันเกิดเหตุตนคิดว่าน่าจะเกิดจากที่ผู้ก่อเหตุนั้นอาจจะลวงผู้ตายมาข่มขืน แต่ผู้ตายไม่ยินยอมจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ในรถยนต์และแทงผู้ตายจนเสียชีวิต ตนนั้นรับไม่ได้ที่ผู้ก่อเหตุทำกับผู้ตายอย่างทารุณ เพราะบาดแผลที่ผู้ตายมีนั้นเป็นจำนวนมากรับได้เป็นสิบๆแผล ทั้งที่ผู้ตายนั้นเป็นคนตัวเล็กมีน้ำหนักเพียงแค่ 40 กิโลกรัม ตนจึงคิดว่าผู้ก่อเหตุมีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ตนในฐานะเพื่อนและญาติของผู้ตายจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด