ปทุมธานี ข่าวคืบหน้าเตรียมหลักฐานข้อมูลส่งตำรวจยันวันที่ 6 สิงหาคมนี้เปิดข้อมูลบัญชีวัดเหลือเท่าไหร่และมีอะไรถูกยักยอกบ้าง
จากกรณีชาวบ้านใน ต.บึงคำพร้อยกว่า 100 คนบุกวัดประชุมราษฏ์ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีเพื่อประท้วงและเรียกร้องขอให้ พระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ ออกมาชี้แจ้งกรณีที่ชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนไปถึงเจ้าคณะตำบลลำลูกกาเพื่อขอให้มีการตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเงินของวัดที่มีการยักยอกเงินวัดหายไปกว่า 30 ล้านบาท และ พฤติกรรมที่เจ้าอาวาสรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงเป็นลูกบุญธรรม จนกระทั่ง เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีลงนามเซ็นต์คำสั่งปลดออกจากการเป็นเจ้าอาวาส โดยเมื่อวาน(1สิงหาคม) พระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ได้หนีหายออกจากวัดไปจนนำไปสู่การรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดในคดียักยอกเงินวัดนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(3 สิงหาคม 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมยศ บุญมาก ส.อบต.หมู่ 6 บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้รับมอบอำนาจของวัดประชุมราษฎร์ และตัวแทนชาวบ้านชุมชนเคหะวัดประชุมราษฎร์จำนวนหนึ่งเดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีและให้ข้อมูลด้านคดีกับทาง พระครูโสภิตปุญญากร, ดร. เจ้าอาวาสวัดธัญญะผล รองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฏ์ ที่ กุฏิ เจ้าอาวาสวัดธัญญะผล ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ภายหลังการจากที่ตัวแทนชาวบ้านชุมชนเคหะวัดประชุมราษฎร์ได้มีการประชุมและให้ข้อมูล เบื้องต้นกรณีพระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ และพวกที่มีการยักยอกเงินวัดและเงินค่าเช่าในชุมชนเคหะวัดประชุมราษฎร์ ที่ยักยอกเงิน 30 ล้านบาทหายไปโดย นายสมยศ บุญมาก ส.อบต.หมู่ 6 บึงคำพร้อย กล่าวว่า วันนี้ตนเองในฐานะผู้รับมอบอำนาจได้เดินทางมาติดตามเรื่องคดีอดีตเจ้าอาวาสยักยอกเงิน 30 ล้านบาทไปโดยการมาขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมและให้ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในส่วนรายละเอียดของหลักฐานเบื้องต้นไม่สามารถเปิดเผยได้ต้องนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ก่อน ซึ่งในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ทางคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมประชุมและเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดว่าทรัพย์สินภายในวัดเหลือเท่าไหร่และยังคงมีสิ่งใดที่ถูกยักยอกไปบ้างให้ชาวบ้านรับฟังกัน
ด้านนายดนุเดช พรหมะ ชาวบ้าน ชุมชนเคหะวัดประชุมราษฎร์ กล่าวว่าตนเองอยู่ที่นี้มา20 ปีตั้งแต่ปี 2547 ยังไม่เคยเห็นอดีตเจ้าอาวาสวัดทำงานพัฒนาชุมชนเคหะแต่อย่างใดชาวบ้านต้องช่วยเหลือกันเองทั้งทำความสะอาดถนนหนทางและการลอกท่ออีกทั้งยังปล่อยให้มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเป็นจำนวนมากโดยไม่มีการทำอะไรซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ทนพฤติกรรมของอดีตเจ้าอาวาสรูปนี้ไม่ได้เนื่องจากมีพฤติกรรมพูดจาไม่ดีและทำอะไรที่ไม่โปร่งใส
ส่วนทางด้าน นางสาวยุพา บุญมาก กล่าวว่าตนอยู่มา 31 ปี ตั้งแต่สมัยเจ้าอาวาสรูปเดิมซึ่งท่านมีการพัฒนาวัดและชุมชนเคหะอย่างต่อเนื่องจนท่านมรณะภาพไปอดีตเจ้าอาวาสที่เพิ่งโดนปลดไปนี้ได้มารับตำแหน่งแทนก็ไม่มีการพัฒนาและก็ไม่เข้ามาดูแลมีเพียง อบต. ที่เข้ามาดูแลทั้งถนนหนทางการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านเท่านั้น โดยที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่รู้สึกสงสัยพฤติกรรมของอดีตเจ้าอาวาสรายนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดเพราะกลัวนานวันเข้าชาวบ้านจึงเริ่มทนไม่ไหวและออกมาประท้วงขับไล่ดังกล่าว