นายกฯ อินเดีย เรียกร้องประชาชนสนับสนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศ หลังทรัมป์ขึ้นภาษี 25%
นายกฯ อินเดีย เรียกร้องประชาชนสนับสนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษี 25%
วันที่ 3 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เรียกร้องให้ประชาชนหันมาเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอนอย่างรุนแรง
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีจากประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความผันผวนในตลาด โดยโมดีไม่ได้เอ่ยถึงประเด็นภาษีของสหรัฐ โดยตรงในการปราศรัยที่รัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดียเมื่อวันเสาร์
“เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความวิตกกังวลมากมาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความไม่มั่นคง วันนี้สิ่งที่เราจะซื้อ ควรมีเพียงหลักเกณฑ์เดียว: เราจะซื้อเฉพาะสิ่งที่ผลิตขึ้นด้วยหยาดเหงื่อของชาวอินเดียเท่านั้น”
การเน้นย้ำอีกครั้งของโมดีในเรื่องการผลิตและบริโภคภายในประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย “Make in India” ที่เขาผลักดันมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม ข้อความดังกล่าวมีความเร่งด่วนมากขึ้นหลังการขึ้นภาษีของสหรัฐ
ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่งกล่าวหาว่าอินเดียเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงเกินควรเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียอื่น ๆ พร้อมขู่ว่าจะมีมาตรการลงโทษเพิ่มเติม โดยอ้างถึงการที่อินเดียยังคงทำข้อตกลงด้านพลังงานและกลาโหมกับรัสเซียอย่างต่อเนื่อง
โมดีเน้นย้ำความสำคัญของการปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของอินเดียท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน
“ผลประโยชน์ของเกษตรกรของเรา อุตสาหกรรมขนาดเล็กของเรา และการจ้างงานของเยาวชนของเรานั้นมีความสำคัญสูงสุด”
อ้างอิง : www.bloomberg.com