ปั่นหุ้น MORE...รอดูใครติดคุกบ้าง / สุนันท์ ศรีจันทรา
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นัดแถลงข่าวใหญ่ รายงานความคืบหน้าคดีหุ้น บริษัท มอร์รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE
หน่วยงานที่ร่วมแถลงประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ โดยไม่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และคลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมนั่งโต๊ะแถลง ทั้งที่เป็นหน่วยงานสำคัญที่กำกับกูแลตลาดหุ้น
ความผิดในคดีหุ้น MORE มี 3 คดี ประกอบด้วย ความผิดฉ้อโกง ความผิดอังยี่และการสร้างราคาหุ้น โดยความผิดฉ้อโกงศาลมีค่ำสั่งส่งคืนทรัพย์สินที่ยึดไว้ คืนบริษัทหลักทรัพย์ที่เสียหาย 10 ราย มูลค่าประมาณ 4.5 พันล้านบาท
คดีอั่งยี่ วงเงิน 129 ล้านบาท จะคืนให้บริษัทหลักทรัพย์ 10 แห่งที่เสียหายส่วนคดีปั่นหุ้น ในมาตรการลงโทษทางแพ่ง มูลค่าความเสียหาย 226 ล้านบาท จะเรียกค่าปรับให้เงินตกเป็นของแผ่นดิน
ความสำเร็จของคดีหุ้น MORE เกิดจาการบูรณาการของหลายหน่วยงาน โดยยกระดับมาตรฐานการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ระงับยับยั้งความเสียหายของบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 10 บริษัท รวมความเสียหายประมาณ 4,500 ล้านบาท ที่จะต้องชำระให้กับผู้ขายหลักทรัพย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยการร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินและนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย
ส่วนการดำเนินคดีกับแก๊งปั่นหุ้น MORE จำนวน 42 คนนั้น แบ่งผู้ต้องหาเป็น 3 กลุ่มใหญ่ โดยกลุ่มที่ 1 ผู้วางแผนผู้กระทำผิด มี 2 ราย แต่ 1 รายอยู่ระหว่างหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว กลุ่มที่ 2 ตัวการสนับสนุนด้วยการป้อนคำสั่งผ่านโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ และกลุ่มที่ 3 เจ้าของบัญชีที่ให้ผู้กระทำผิดนำไปซื้อขายหุ้น มีผู้กระทำผิดมากที่สุด 33 ราย
ปัจจุบันอัยการสูงสุดสั่งฟ้องทั้ง 42 ราย และสั่งให้มีการแจ้งข้อหาบางรายเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างที่พนักงานอัยการสูงสุดนัดส่งตัวผู้ต้องหาเพื่อนำไปฟ้องต่อศาล
คดีหุ้น MORE หน่วยงานที่เกี่ยวจ้องประสานความร่วมมือกันทันที่ที่มีการกระทำความผิด ทำให้ขั้นตอนกทรดำเนินคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK
เพียงแต่ 2 คดีดังระหว่าง MORE และ STARK มีความแตกต่างกัน เพราะความเสียหายจากคดี MORE จำกัดเฉพาะ 10 บริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งจะได้รับชำระเงินคืนจากทรัพย์สิน 4,500 ล้านบาทที่ถูกอายัดไว้
ส่วนความเสียหายของหุ้น STARK ความเสียหายกระจายในวงกว้าง ทั้งสถาบันการเงินที่ปล่อยเงินกู้ประมาณ 8 พันล้านบาท นักลงทุนสถาบันที่ซื้อหุ้น ประชาชนที่ลงทุนในหุ้นกู้ประมาณ 9 พันล้านบาท และนักลงทุนที่ซื้อหุ้นสามัญประมาณ 1 หมื่นราย ซึ่งจะไม่ได้รับการเยียวยามากนัก เพราะทรัพย์สินที่ตามยึดคืนมีจำนวนน้อยมาก
การแถลงความคืบหน้าคดีหุ้น MORE เป็นส่วนหนึ่งในการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ในการกำกับดูแลพฤติกรรมความผิดในตลาดหุ้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการร่วมมือตรวจสอบ การประสานความร่วมมือในการดำเนินคดีและเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย
แต่การปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุนที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกง การยักยอกทรัพย์ในบริษัทจดทะเบียน การปั่นราคาหุ้น สร้างภาพลวงตา และการเอกรัดเอาเปรียบนักลงทุนในทุกรูปแบบ ซึ่งจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่การพิจารณาอนุมัติการนำหุนเสนอขายกับประชาชนและการพิจารณารับบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
และแก๊งมิจฉาชีพที่แฝงตัวในตลาดหุ้น ไม่ว่าจะอยู่ในคราบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน นักลงทุนขาใหญ่ ผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาการเงินหรือผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ จะต้องถูกกวาดล้างให้สิ้นซาก
คดีหุ้น MORE และหุ้น STARK เป็น 2 คดีใหญ่ที่สั่นสะเทือนความเชื่อมั่นนักลงทุน สร้างความเสียหายกระจายวงกว้างในบริษัทหลักทรัพย์และประชาชนผู้ลงทุน
ขั้นตอนการยึดทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหาย คืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคดีหุ้น MORE ส่วนคดีหุ้น STARK ผู้เสียหายกำลังรอการเยียวยา ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินคงน้อยมาก เพราะเงินถูกผ่องถ่ายออกไปแล้ว
สิ่งที่นักลงทุนผู้สูญเสียหวังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นคือ การดำเนินคดีกับผู้ต้องหารทั้งคดีหุ้น MORE และคดีหุ้น STARK
คดีปั่นหุ้น MORE มีผู้ร่วมแก๊ง 42 คน คดีหุ้นSTARK อัยการสั่งฟ้องผู้บริหารบริษัทในความผิดแต่งบัญชีงบการเงิน สร้างข้อความอันเป็นเท็จ 7 ราย
แต่สุดท้าย จะมีแก๊งปั่นหุ้น MORE สักกี่คนต้องติดคุก จะมีผู้บริหาร STARK คนใด ต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้หรือไม่
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO