โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ลาก'ประเทศที่ 3'แก้ปมขัดแย้ง ‘ไทย’เสี่ยงเสียเปรียบ‘กัมพูชา’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee : GBC) หรือจีบีซี ระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค.2568 ที่ประเทศมาเลเซีย มุ่งหวังจะหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาชายแดน ภายหลังเกิดเหตุปะทะกันอย่างหนัก 5 วัน ก่อนจะมีการหยุดยิงหลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค.

โครงสร้างของ “จีบีซี” มีระดับนโยบายของกระทรวงกลาโหม เป็นคณะกรรมการ อาทิ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.พนา แคล้ว ปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผอ.ทอ. พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร.เป็นต้น

ฟากฝั่ง “กัมพูชา” คาดว่าจะมีคณะกรรมการ ประกอบด้วย พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯ รมว.กลาโหม พล.อ.วงศ์ ปิเซน ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เมียส ซปเฮีย รองผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทบ. พล.อ.อ.เชิง ซ็อมนาง รองผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทอ. พล.ร.อ.เตีย วินห์ ผบ.ทร. เข้าร่วมประชุม

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาว่าระดับ “บิ๊กผบ.เหล่าทัพ” ของ ไทย-กัมพูชา จะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ เนื่องจากเวที “จีบีซี” ไม่ได้มีผลผูกมัดทางกฎหมาย เป็นการหารือกันระดับ “กลาโหม-ผบ.เหล่าทัพ” ของทั้งสองประเทศ

ก่อนหน้านี้มีการเหตุปะทะมีการประชุม “จีบีซี” ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. เนื้อหาสาระมุ่งเน้นไปที่การปรับกำลัง การเคลื่อนกำลัง ในพื้นที่แนวชายแดน แต่ไม่สามารถหยุดยิงไม่ให้เกิดการปะทะกันได้ เวที “จีบีซี” ดังกล่าวจึงเสมือน “ช่องระบาย” ลดความตึงเครียด

ทว่าเวที “จีบีซี” รอบนี้เกิดขึ้นหลังเหตุปะทะ จึงถูกจับตามองอย่างมาก เนื่องจากทั้ง ไทย-กัมพูชา เสริมกำลังเข้าไปในแนวชายแดนเพิ่มเติม และแม้จะมีสัญญาหยุดยิงกันแล้ว แต่ “กัมพูชา” ยังมีการเสริมกำลังอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีท่าทีจะลดการเสริมกำลังลง

ขณะเดียวกันยังมีการ “บินโดรน” ล้ำเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยโฟกัสหลักไปที่ฐานที่ตั้งของ “เอฟ 16” และ “กริพเพน” ทำให้ “กองทัพ” ต้องออกคำสั่งห้ามบินโดรน และทำการสกัดกั้นโดรนที่บินเหนือน่านฟ้าไทย

ที่สำคัญ ต้องจับตามองว่า การประชุม “จีบีซี” จะมีการหารือเกี่ยวกับพื้นที่ควบคุมของแต่ละฝ่ายหรือไม่ เนื่องจากการปะทะกันในห้วงเวลา 5 วัน ต้องยอมรับว่า “ทหารไทย” รุกกินแดนพื้นที่ที่ “ทหารกัมพูชา” ละเมิดเอ็มโอยู 2543 เข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างและวางกำลังหลายพื้นที่

โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี “ทหารไทย” รุกเข้าไปในพื้นที่ที่ “กัมพูชา” ตีเนียนสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่พิพาท โดยก่อนหน้านี้ “ทหารไทย” ไม่เคยเข้าไปถึงอนุสาวรีย์ “ตาอม” ได้เลย แต่หลังการปะทะไทยรุกเข้าไปได้ พร้อมทำลายสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนทหารกัมพูชาได้อีกด้วย

เช่นเดียวกับพื้นที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ก่อนปะทะ “ทหารกัมพูชา” ละเมิดเอ็มโอยู 2543 ขึ้นมาสร้างฐานกำลังทางทหาร และสร้างกระเช้าขึ้นมายึดภูมะเขือ แต่หลังการปะทะ “ทหารไทย” ทำลายฐานกำลัง “ทหารกัมพูชา” พร้อมขับไล่ออกจากพื้นที่ และทำลายกระเช้า

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ “ทหารไทย” สามารถควบคุมพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จ วางกำลังอยู่ในพื้นที่ตามกรอบเอ็มโอยู 2543

โดยมีเพียงพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ที่ “ทหารไทย” ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด เนื่องจาก “กัมพูชา” สามารถควบคุมพื้นที่เนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่มเอาไว้ได้ อีกทั้ง “ทหารกัมพูชา” ยังเข้าในตัวปราสาทตาควาย เพื่อใช้เป็นพื้นที่เกราะกำบัง ซึ่งผิดเงื่อนไขการสู้รบที่จะไม่ต้องทำลายโปราณสถาน

การประชุม “จีบีซี” ที่ไม่เกี่ยวกับการปักปันเขตแดน มีเพียงข้อตกลงทางการทหาร จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าหาก “ทางการกัมพูชา” ต้องการให้ไทยถอยร่นไปอยู่ในพื้นที่ก่อนการปะทะ และคืนพื้นที่ก่อนการปะทะให้กับ “ทางการกัมพูชา” ทั้งหมด “ทีมจีบีซีไทย” ซึ่งนำโดย “พล.อ.ณัฐพล” จะมีท่าทีอย่างไร

เพราะหาก “กัมพูชา” ยื่นเงื่อนไขดังกล่าว แล้ว “พล.อ.ณัฐพล- ทีมจีบีซีไทย” ตอบตกลง การปะทะ 5 วัน ไร้ซึ่งความหมาย มีเพียงความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเพียงเท่านั้น

ที่สำคัญเกมลาก “ไทย” เข้าสู่เวทีพหุภาคี (มากกว่า 2 ประเทศ) ของ “ฮุน เซน” ประธานสภากัมพูชา และ “ฮุน มาเนต” นายกฯกัมพูชา จะบรรลุผลสำเร็จทันที

เนื่องจากการเจรจาหยุดยิง มี “มาเลเซีย” ในฐานะประธานอาเซียน มี “สหรัฐ” และ “จีน” ในฐานะผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมด้วย เช่นเดียวกับเวทีประชุม “จีบีซี” ยังมี 3 ประเทศดังกล่าวร่วมวงด้วย

“ฮุน เซน - ฮุน มาเนต” รู้ดีว่าการประชุมทวิภาค (2 ประเทศ) ร่วมกับ “ทางการไทย” ไม่มีทางที่จะบรรลุความสำเร็จได้ เนื่องจากมีการหารือกันหลาย 10 ปี แต่กลับย่ำอยู่ที่เดิม ยังไม่มีการปักปันเขตแดน การลาก “ประเทศที่สาม” เข้ามาร่วมวง จึงมีโอกาสการปักปันเขตแดนสำเร็จมากกว่า

ดังนั้นการที่ มาเลเซีย - สหรัฐ - จีน เข้ามาร่วมวงประชุม “จีบีซี” จึงเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ “ฮุน เซน - ฮุน มาเนต” ในเกมลากไทยเข้าสู่แดนพหุภาคี

จับตาการลาก “ประเทศที่สาม” เข้ามาร่วมวงประชุม หากลามไปถึงขั้นร่วมตัดสินใจ อาจจะทำให้ “ไทย” ต้องเสียงเปรียบ ตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลกระทบด้านลบ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'ทหารผ่านศึก' รวมพล อนุสาวรีย์ฯ ปกป้องแผ่นดิน ส่งใจถึงแนวหน้า สดุดีผู้กล้า

58 นาทีที่แล้ว

ราคาทองวันนี้ 4 ส.ค.68 ทองแท่ง ทองรูปพรรณ เปิดตลาด ไม่เปลี่ยนแปลง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แสนสิริรุกตลาดบ้านพร้อมอยู่ ขายยูนิตตัวอย่างแต่งครบทั่วไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘โตโยต้า’ หันพึ่งชิ้นส่วนจีนในไทย หวังลดต้นทุน EV 30% สู้คู่แข่ง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

รวมพลังทหารผ่านศึกทั่วไทย พร้อมใจ นำทัพสดุดีเลือดนักรบผู้กล้า ผู้สละชีพชายแดน

สยามนิวส์

“ณัฐพงษ์” เสนอรัฐ เร่งหนุน Anti-Drone

INN News

“รัฐบาล” วางมาตรการคุ้มเข้ม เฝ้าระวังสถานการณ์ “ไข้หวัดนก H5N1 หลังพบระบาดในกัมพูชา”

สยามรัฐ

‘อธิบดีกรมการปกครองคนใหม่’ ถือฤกษ์ 09.14 น.สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงมหาดไทยรับตำแหน่ง

เดลินิวส์

รบ.เตือน “โรคชิคุนกุนยา” ระบาดหนักหลายพื้นที่

INN News

ทหารผ่านศึก ‘รวมพลังปกป้องแผ่นดิน’ โบกธงไทยร้องเพลงชาติ ส่งใจถึงแนวหน้า

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม