รบ.เตือน “โรคชิคุนกุนยา” ระบาดหนักหลายพื้นที่
รัฐบาล เตือน "โรคชิคุนกุนยา" ระบาดหนักหลายพื้นที่ แนะ หากมีอาการ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเนื้อปวดตัว ควรรีบไปพบแพทย์
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยสถานการณ์ด้านสุขภาพประชาชน จากสถานการณ์ฝนตกชุกอย่างต่อเนื่องครอบคลุมหลายพื้นที่ ส่งผลก่อให้เกิดสภาพอากาศที่ชื้นแฉะและมีแอ่งน้ำท่วมขัง ทำให้พาหะนำโรคอย่าง “ยุงลาย” สามารถขยายพันธุ์และแพร่กระจายได้มากขึ้นในหลายพื้นที่ในช่วงฤดูฝน โดยปัจจุบันพบว่า มีการแพร่ระบาดของ "โรคไข้ปวดข้อยุงลาย" หรือ "ชิคุนกุนยา"(Chikungunya virus disease) แล้ว ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ บึงกาฬ เลย หนองคาย และลำพูน
นายอนุกูล กล่าวว่า การระบาดของ"โรคชิคุนกุนยา"เป็นโรคที่สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่มักพบได้บ่อยในกลุ่มเด็กนักเรียน และวัยทำงานตอนต้น เนื่องด้วยโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา เป็นเชื้อไวรัสที่อยู่ในตระกูล Togaviridae โดยมียุงลายสวน (Aedes albopictus) และยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรค
โดยสามารถพบได้ทั่วไปทั้งในเมืองและชนบท อีกทั้งจากพฤติกรรมของยุงลายที่มักออกหากินและชุกชุมในช่วงกลางวัน ทำให้กลุ่มเด็กนักเรียนที่ออกมาเล่นนอกบ้านหรืออยู่โรงเรียนมีโอกาสเสี่ยงสูงในการติดโรค อีกทั้ง หากผู้ที่ติดโรคชิคุนกุนยา มีการตั้งครรภ์ โรคดังกล่าวก็ยังสามารถถ่ายทอดไปยังทารกได้อีกด้วย
ในช่วงฤดูกาลที่มีฝนตกชุก ถือเป็นช่วงอันตรายสำหรับทุกบ้าน ทุกพื้นที่ หากผู้ป่วยที่ถูกยุงที่มีเชื้อกัด เชื้อไวรัสจะมีระยะฟักตัว ก่อนเริ่มอาการอยู่ในช่วง 3 -7 วัน โดยผู้ป่วยจะมีอาการ ไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน มีอาการปวดข้อและบวม ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะและคลื่นไส้ ตาแดง และมีผื่น ซึ่งอาการมักจะหายภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ยกเว้นอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อซึ่งอาจรุนแรงและมีอาการต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
"ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพของตนเองไม่ปล่อยให้ยุงลายกัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคชิคุนกุนยา หากรู้สึกมีอาการไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ควรให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที"
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews