“ผมมันไร้ค่า” แฮมิลตัน หมายความว่าอย่างไรในสถานการณ์ของเขาที่เฟอร์รารี่

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co

“ผมมันไร้ประโยชน์ ทีมไม่มีปัญหาเลย คุณก็เห็นว่ารถทำโพลได้ด้วยซ้ำ งั้นก็คงต้องเปลี่ยนคนขับแล้วล่ะ”

ลูอิส แฮมิลตัน จุดกระแสร้อนแรงหลังจากการแข่งขันในรอบ ควอลิฟาย ของศึก ฮังกาเรียนกรังด์ปรีซ์ หลังต้องจบลงแค่รอบ คลอลิฟายด์ 2 เท่านั้น ทั้งที่คู่หูของเขาอย่าง ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับชาวโมนาโก จบลงในตำแหน่งโพล

ในวันอาทิตย์ แฮมิลตันจบการแข่งขันรอบเมนเรซในอันดับเดียวกัน ขณะที่เลอแคลร์ หลังจากต่อสู้กับแม็คลาเรนที่คว้าแชมป์ไปถึง 11 จาก 14 สนาม ในฤดูกาลนี้ และต้องร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 4 โดยรถของเขาดูเหมือนจะมีปัญหาในช่วงสุดท้าย

หลังจบการแข่งขัน แฮมิลตัน เปิดเผยว่า เขายังรู้สึกแบบเดียวกันกับช่วงหลังจบการแข่งขันในรอบคลอลิฟายด์ แม้ว่าในช่วงท้ายเจ้าตัวจะไล่แซงรถหลายคันจนสามารถกลับมาจบในอันดับ 12 ได้ก็ตาม

เขากล่าวว่า “มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลัง ซึ่ง…ไม่ดีนัก แต่ผมมั่นใจว่ามีสิ่งดีๆ มากมายให้เรียนรู้จากสุดสัปดาห์นี้ และผมมั่นใจว่ามีบทเรียนมากมาย”

การแสดงออกของ แฮมิลตัน นอกจากมาจากความผิดหวังในผลงานของตัวเองแล้ว ยังมีข่าวลือว่าเขาอาจจะไม่พอใจอะไรบางอย่างในทีม ซึ่งนั่นอาจจะเป็น เซ็ตติงรถ หรือการทำงานภายใน แบบที่เขากล่าวว่า “มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลัง”

มีการวิเคราะห์ว่า ปัญหาหลักๆ เกิดขึ้นเพราะเซ็ตติงรถ ที่อาจจะไม่เหมาะสมกับสไตล์ของแฮมิลตัน และเขาอาจจะยังปรับตัวเข้ากับมันไม่ได้เสียที ทำให้เขาออกอาการหงุดหงิดที่ตัวเขาได้ที่ 12 แต่ เลอแคลร์ สามารถกระโดดขึ้นไปคว้าโพลได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม คำตอบของคำถามนี้ อาจจะไม่มีความชัดเจนออกมาอีก แต่ปัญหาที่เพิ่มเติมขึ้นมานี้ ไม่เพียงแต่อารมณ์ของเขาจะตกต่ำลงเท่านั้น แต่ข่าวลือของเขาเกี่ยวกับอนาคต F1 ก็ยังแพร่สะพัดไปทั่วอีกด้วย

มีบางคนมองว่า แฮมิลตัน ‘หมดแล้ว’ และอาจจะตัดสินใจอำลาวงการหลังจบฤดูกาลนี้ และบางกระแส ถึงขั้นมองว่าเขาอาจจะเลิกก่อนที่ฤดูกาลจะจบลงด้วยซ้ำ

แต่กระแสข่าวลือนั้นก็ถูกปฏิเสธโดยแฮมิลตันอย่างรวดเร็ว เขาบอกว่าเขาจะกลับมาลงแข่งในรายการดัตช์กรังด์ปรีซ์ปลายเดือนสิงหาคมหลังจากช่วงพักร้อนของ F1 ที่ยาวนาน 3 สัปดาห์เต็มหลังจากนี้

เขายืนยันว่า “ผมตั้งตารอที่จะกลับมา…ผมจะกลับมาแน่นอน”

“แน่นอนว่าการปรับปรุงต่างๆ ของเราก็ดีขึ้นบ้างแล้ว แน่นอนว่ามันน่าเสียดายที่เราไม่สามารถแข่งขันได้เท่านักแข่งที่อยู่หัวแถว แต่คุณก็เห็นแล้วว่าชาร์ลส์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 เรซหลังสุด

“รถกำลังพัฒนาไปอย่างมาก ดังนั้นเราจึงต้องพยายามดึงศักยภาพจากมันออกมาให้มากกว่านี้”

ด้าน เฟรเดอริก วาสเซอร์ ทีมบอสของเฟอร์รารี ก็ได้เพิ่มมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ของแฮมิลตัน โดยกล่าวว่า “แน่นอนว่าเมื่อคุณเป็นแชมป์โลก 7 สมัย เพื่อนร่วมทีมของคุณอยู่ในตำแหน่งโพลโพซิชัน และคุณตกรอบ Q2 มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก”

วาสเซอร์ชี้ให้เห็นว่าเฟอร์รารีได้เสี่ยงกับกลยุทธ์การเข้าพิตครั้งเดียวโดยเริ่มจากยางฮาร์ดบนสนามที่ขึ้นชื่อว่าการแซงเป็นเรื่องยาก และผลที่ออกมาก็ไม่ดีนัก ทำให้ ทีมบอสของ ‘ม้าลำพอง’ ยอมรับว่า เข้าใจในความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นกับ แฮมิลตัน แต่ก็ยังเชื่อว่า แชมป์โลก 7 สมัย จะกลับมาได้อย่างแน่นอน

ส่วน โตโต้ วูล์ฟ อดีตหัวหน้าทีมของ แฮมิลตัน ที่ เมอร์เซเดส ก็ตีความการประเมินตนเองของแฮมิลตันว่าเป็นการ “แสดงความรู้สึกออกมาอย่างตรงไปตรงมา” เมื่อเขารู้สึกว่าทำผลงานได้ต่ำกว่าความคาดหวังของตนเอง พร้อมยืนยันว่า แฮมิลตันคือ “GOAT” และกล่าวว่าเขายัง “มีภารกิจที่เขายังต้องการทำให้สำเร็จใน F1” อยู่ ซึ่งจะไม่ทำให้เขาหายไปจากวงการเร็วๆ นี้แน่นอน

ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามา อาจจะสรุปได้ว่า ท่านเซอร์ แค่เซ็ง กับผลงานที่ตัวเองทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานเท่านั้น แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เขาพูดออกมาแล้วแฟนๆ ไม่ควรมองข้ามไป คือคำว่า “มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลัง”

แน่นอนว่า ปัญหาในทีมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกทีมและสามารถแยกย่อยปัญหาเหล่านั้นได้อีกหลายประเภท ซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร

แต่ที่แน่ๆ เวลา 3 อาทิตย์ที่ เฟอร์รารี และ แฮมิลตัน จะได้พัก น่าจะนานเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาได้มีเวลาไปเคลียร์ปัญหาเหล่านั้น และพร้อมที่จะกลับมา Start Fresh อีกครั้ง ในดัตช์ กรังด์ปรีซ์

ภาพ: NurPhoto / Getty Images

อ้างอิง