เปิดปมเด้ง2บิ๊กคลองหลอด ปิดประตูโยกปลัดหมาดไทยนั่งกระทรวงทรัพย์
การโยกย้าย 2 อธิบดีกรมเกรดเอ ในกระทรวงมหาดไทย โดยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ถูกโยกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ถูกโยกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย โดยแต่งตั้งนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมการปกครอง และแต่งตั้ง ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ขึ้นเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในช่วงที่มีการโยกย้าย) ให้เหตุผลว่าการโยกย้ายอธิบดีทั้ง 2 ท่าน พิจารณาจากประสิทธิภาพการทำงานเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ได้ย้ายเพราะใกล้ชิดกับอดีต รมว.มหาดไทย คนเก่า หรือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งแต่อย่างใด พร้อมกับขู่ว่าหากพบข้าราชการที่ "เกียร์ว่าง"จะดำเนินการทันที และอาจใช้ตามมาตรา 157 ด้วย
ปฏิบัติการดังกล่าวของ บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม จะเรียกว่า "เชือดไก่ให้ลิงดู" หรือ "ตัดไม้ข่มนาม" ก็แล้วแต่จะเรียก แต่เรื่องนี้มีที่มาที่ไป หลังบิ๊กอ้วนเข้าไปนั่งเก้าอี้ มท.1 สิ่งที่ไม่ปลื้มอย่างแรงคือ การจัดสรรงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไปกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เลือกตั้งของ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เป็นกอบเป็นกำ แบบนี้ บิ๊กอ้วน รับไม่ได้ นี่คือเหตุผลในการเด้งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
สอดรับกับการเปิดเผยของนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่แสดงความไม่พอใจถึงการกระจายงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะงบประมาณในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพบว่า “มีการกระจุกตัวอย่างเห็นได้ชัด” องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ขนาดเล็กบางแห่งกลับได้รับงบประมาณสูงถึง 60-70 ล้านบาท ขณะที่บางพื้นที่กลับไม่ได้รับการจัดสรรงบเลย กรี๊ดดด..สิครับ แบบนี้
เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ซึ่งมี บิ๊กอ้วน นั่งหัวโต๊ะ จึงมอบหมายให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ1.5 แสนล้าน ไปตรวจสอบและพิจารณาว่าสามารถจัดเกลี่ยงบประมาณใหม่ได้หรือไม่ โดยนายเดชอิศม์เปิดแบบไม่ปิดเลยว่า พื้นที่ที่มีการกระจุกงบประมาณ ได้แก่ จังหวัดบุรีรมย์ สตูลและกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย จนนายเดชอิศม์ถึงกับออกปากว่า "งบกระจุกตัวจนดูน่าเกลียด"
มาต่อที่กรมการปกครอง กรมนี้กุมอำนาจที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนในระดับรากหญ้า เพราะในต่างจังหวัดนายอำเภอและปลัดอำเภอคือคนที่อยู่กับชาวบ้านจริงๆ ซึ่งปกตินายอำเภอและปลัดอำเภอจะทำงานร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ทุกตรอกซอกซอยหรือในท้องไร่ท้องนานายอำเภอต้องรู้หมด ที่สำคัญนายอำเภอจะเป็นคนที่ชาวบ้านนับหน้าถือตา สามารถขี้นำชาวบ้านได้ เป็นเสมือนหัวคะแนนใหญ่ระดับอำเภอดีๆ นี่เอง ซึ่งดูจากรายชื่อนายอำเภอและปลัดอำเภอที่อธิบดีท่านเก่าแต่งตั้งไว้คงไม่ถูกใจ บิ๊กอ้วน เลยต้องหาคนมาจัดสรรกันใหม่
2 ตำแหน่งเรียบร้อยโรงเรียนบิ๊กอ้วนไปแล้ว แต่ที่ยังขยับไม่ได้คือเก้าอี้ปลัดมหาดไทยของนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ที่ใครๆ ก็รู้ว่าข้ามทุกรุ่นขึ้นมาเป็นปลัดมหาดไทยได้ เพราะพรรคภูมิใจไทย มีความพยายามที่จะเสนอให้โยกนายอรรษิษฐ์ ไปนั่งปลัดระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแทนนายจตุพร บุรุษพัฒ์ ที่ลาออกไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่พรรคเพื่อไทยดีดลูกคิดแล้วไม่อยากเสี่ยง เพราะกระทรวงทรัพย์ฯเป็นของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พรรคปะชาธิปัตย์จึงไม่อยากแตะ เพราะเสียงของรัฐบาลก็หมิ่นเหม่สุดๆ ขืนไปทำอะไรให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจ เดียวจะพังทั้งกระดาน
รอบแรกเลยเอาแค่ 2 กรมก่อน แต่หลังจากนี้คงมีออกมาอีกแน่ ล่าสุด อธิบดีกรมที่ดินต้องมีคำตอบที่น่าพอใจเรื่องเขากระโดงให้ บิ๊กอ้วน มารอลุ้นกันว่า คำตอบที่ได้จะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในกระทรวงมหาดไทยอีกหรือไม่