'SMART WELLNESS & AESTHETIC' หนุนแพทย์ทางเลือก สู่ Medical Hub
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ (CIMw) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ SMART ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด “Wellness and Aesthetic Revolution การปฏิวัติวงการสุขภาพและความงาม” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29–30 กรกฎาคม 2568 เพื่อขับเคลื่อนองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย การแพทย์ทางเลือก การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ความงาม ที่มีบทบาทในการตอบโจทย์การส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก ลดภาระโรค ลดค่าใช้จ่ายระบบสุขภาพ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว
โดยปีนี้มุ่งเน้นประเด็นการบูรณาการระบบสุขภาพเข้ากับวิถีชีวิตยุคใหม่ ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน และนโยบาย โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี โดย ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ อาคาร 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ภายในงานยังมีคณะผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย ได้แก่ ดร.ปรีเปรม นนทลีรักษ์ รองอธิการบดีอาวุโส สายงานการเงินและบริหาร, ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานวิชาการ, ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ และ ดร.พีระยุทธ มั่งคั่ง รองคณบดีวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ เข้าร่วมให้การต้อนรับ
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้บริหารภาครัฐและเอกชนสายสุขภาพ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทยในอนาคต สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างภาควิชาการและภาคนโยบายในการพัฒนาสุขภาพของประชาชนไทยให้ก้าวทันโลกยุคใหม่อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตลาดเสริมอาหารแตะ 133.6 แสนล้าน 'Vitafoods Asia2025' โอกาส SMEs ไทย
ดันแพทย์ทางเลือก ความงามเป็น Medical Hub
นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมวิชาการ ระดับชาติ SMART ครั้งที่ 7 “Wellness and Aesthetic Revolution การปฏิวัติวงการสุขภาพและความงาม” ในครั้งนี้ นับเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนการบูรณาการความรู้ทางด้านสุขภาพ ความงาม โภชนศาสตร์ รวมถึงนโยบายระดับชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism)
โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งการประชุมในวันนี้ ไม่เพียงนำเสนองานทางด้านวิชาการที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักวิจัย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้สนใจในสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และนำไปสู่การพัฒนาเชิงนโยบาย ตลอดจนการประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์และสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
“สำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรม Wellness และความงามในประเทศไทย เป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มอัตราการจ้างงานในทุกภูมิภาค กระทรวงสาธารณสุขพร้อมผลักดันนโยบายและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยในทุกมิติ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ปั้นบุคลากรที่มีจิตวิญญาณแห่งการดูแลสุขภาพ
ด้าน ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ SMART WELLNESS & AESTHETIC APPLICATION ประจำปี 2568 ว่า การประชุมในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Smart Wellness & Aesthetic Application: การปฏิวัติวงการสุขภาพและความงาม” ซึ่งสะท้อนถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ที่สังคมให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ความงาม และคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน มหาวิทยาลัยฯ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ การจัดการเรียนการสอน และการทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิชาชีพด้านสุขภาพ
ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งและเปิดหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามในหลายวิทยาลัย อาทิ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ความงาม และสุขภาพแบบองค์รวม รวมถึงสาขาการแพทย์แผนไทย วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาหารเสริม นอกจากนี้ยังมีการเรียนการสอนในสาขาพยาบาลศาสตร์ ทัศนมาตรศาสตร์ กายภาพบำบัด และเทคนิคการแพทย์ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทั้งความรู้ ทักษะ และจิตวิญญาณแห่งการดูแลสุขภาพ ที่สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การประชุมวิชาการ SMART WELLNESS & AESTHETIC APPLICATION ถือเป็นเวทีสำคัญที่มหาวิทยาลัยใช้ในการเผยแพร่ แลกเปลี่ยน และต่อยอดองค์ความรู้จากการเรียนการสอนและการวิจัยสู่ภาคปฏิบัติ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา นักวิจัย และนักวิชาการได้นำเสนอผลงานด้านสุขภาพและความงาม พร้อมกับการบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นประเด็นร่วมสมัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทยและโลก
ด้านผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดประชุมวิชาการระดับชาติ SMART ว่า วิทยาลัยฯ เริ่มจัดการประชุมครั้งแรกในปี 2562 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการ นักศึกษา และผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อผลักดันให้เกิดการนำความรู้ไปใช้จริงในภาคปฏิบัติ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากแวดวงสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเนื้อหาการประชุมในแต่ละปีได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับประเด็นสุขภาพที่กำลังเป็นกระแสในระดับประเทศและนานาชาติ
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา วิทยาลัยฯ ได้ขยายขอบเขตของการประชุมให้ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับเวชศาสตร์ความงาม หลังจากเปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ความงาม
ปี 2568 นี้ วิทยาลัยฯ ได้เปิดเพิ่มอีกหลายหลักสูตร ทั้งในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา รวมทั้งหมด 8 หลักสูตร ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพ การดูแลร่างกาย โภชนาการ เวชศาสตร์ชะลอวัย ความงาม ตลอดจนด้านการบริหารธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม
สำหรับการประชุมในปีนี้จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ทั้งออนไซต์และออนไลน์ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 600 คน ประกอบด้วยคณาจารย์ นักศึกษา ศิษย์เก่า นักวิจัย นักวิชาการ และบุคลากรทางการแพทย์จากทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
1) การบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ อาทิ โยคะ เวชศาสตร์ชะลอวัย โภชนาการ และการแพทย์องค์รวม
2) การนำเสนอผลงานวิชาการที่แล้วเสร็จในระดับบัณฑิตศึกษา อาทิ วิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ และบทความวิชาการ ซึ่งครอบคลุมสาขาการชะลอวัย วิทยาศาสตร์สุขภาพ ความงาม และสาขาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ