โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2568

สวพ.FM91

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2568

>> เจ้าหน้าที่ EOD ยิงทำลาย วัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ถูกฝ้งทรายอยู่บนหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต

11.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ถูกวางทิ้งไว้บริเวณชายหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ก่อนถึงสวนสาธารณะโลมาประมาณ 200 เมตร ทางด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.สส.ภูธรภาค 8 เข้าตรวจสอบพื้นที่และวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการระบุว่าวัถตุดังกล่าวเป็นอะไร มีการกันพื้นที่ห้ามนักท่องเที่ยวและประชาชน เดินผ่านบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มีเสียงดังคล้ายๆ เสียงปืนเกิดขึ้น แต่ไม่มีควันไฟแต่อย่างใด

การพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภูเก็ต เข้าตรวจสอบค้นหาวัตถุต้องสงสัยตามที่คนร้ายได้เปิดปากสารภาพว่าได้นำไปวางไว้ที่หาดป่าตอง 2 ลูก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

>> ชายวัย 35 ปีดิ่งตึกชั้น 6 ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตที่ รพ. พบเป็นคนร้ายชิงทองหนักกว่า 38 บาทที่กลางห้างดัง

11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิทำรัศมีมณีรัตน์ ได้รับแจ้งมีเหตุผู้ตกจากคอนโด จากชั้น 6 ร่างกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสภายในคอนโดแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุพบร่างชายไม่ทราบชื่อ ในตัวไม่มีเอกสาร อาการสาหัส ตาลอยสะลึมสะลือ สอบถามไม่รู้เรื่อง มีเลือดออกปากและจมูก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.ชลบุรี จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บที่ขี่มาจอดไว้ภายในใต้คอนโด

ต่อมาเห็นน้องชายของผู้ได้รับบาดเจ็บหน้าตาตื่นเข้ามาในที่เกิดเหตุ บอกว่าเป็นน้องชายของคนเจ็บ ซึ่งคนเจ็บได้ส่งข้อความและโทรไปหาก่อนเกิดเหตุว่าให้มารับศพที่คอนโดนี้ ซึ่งน้องชายก็ไม่รู้ว่าพี่ชายจะก่อเหตุจริง

ล่าสุดจากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ผู้บาดเจ็บ เป็นชายไทย อายุ 35 ปี คือคนร้ายที่ใช้อาวุธปืน ก่อเหตุชิงทองที่ห้างทอง ภายในห้างแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอชลบุรี ซึ่งคนร้ายได้ทองรูปพรรณ ไปทั้งหมด 4 เส้น น้ำหนักรวม 38 บาท เมื่อช่วง 09.30 น.ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดรับแจ้งว่า ชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.วิภาราม

จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี เองนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งเช็คหาข้อมูล ว่าผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่ไหนบ้าง และนำทองไปซ่อนไว้ที่ไหนอีก ทั้งนี้จะได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบสวนเพิ่มเติม

>> "แทนคุณ" พาผู้เสียหายร้องศาลฎีกา ขอคืนเงินคดีคอนโดเอี่ยวจำนำข้าว หลังรอความคืบหน้ากว่า 12 ปี

11.41 น. นายแทนคุณ จิตอิสระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และประธานชมรมสันติประชาธรรม พาผู้เสียหายกว่า 900 ราย เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานประธานศาลฎีกา กรณีถูกอายัดคอนโดจากโครงการที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตจำนำข้าว โดยผู้เสียหายยืนยันว่าใช้เงินสุจริตในการซื้อห้องชุด แต่ไม่สามารถโอนได้ และไม่ได้รับเงินคืนแม้เวลาผ่านมากว่า 12 ปี

โดย นายแทนคุณระบุว่า โครงการที่ถูกยึดทรัพย์มีความเสียหายรวมกว่า 300 ล้านบาท และประชาชนผู้ซื้อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริต แต่อยู่ในข่ายถูกยึดทรัพย์ ทำให้สูญเงิน ซ้ำบางรายเครียดจนเสียชีวิต พร้อมวอนศาลช่วยพิจารณาแยกทรัพย์ของผู้บริสุทธิ์จากผู้กระทำผิด

ขณะที่ผู้เสียหายรายหนึ่งเผยว่า หลังทำสัญญาซื้อขายกลับถูกอายัด ทรัพย์สินของตนถูกนำไปปล่อยเช่าหากำไรโดยที่ไม่ได้รับรายได้ใด ๆ พร้อมเรียกร้องขอคืนสิทธิ์หรือเงินลงทุนจากศาล เนื่องจากบริษัทเจ้าของโครงการปิดกิจการและจำเลยถูกดำเนินคดีหมดแล้ว ทำให้ประชาชนไม่มีที่พึ่งนอกจากศาลสูงสุดเท่านั้น

>> รวบ “อ้วนลาย บางซื่อ” หลังรัวปืน ปาระเบิด เปิดศึกถล่มแก๊งอริ

12.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม ชาย 1 ราย ฉายา " อ้วนลาย บางซื่อ" อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ลง 6 พฤษภาคม 2568 โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 00.55 น. สน.เตาปูน ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นไล่ทำร้ายกันจำนวนหลายคน โดยมีการใช้อาวุธปืนยิง และใช้ระเบิดปิงปองปาใส่กัน บริเวณถนนริมทางรถไฟสายใต้ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายนอนอยู่บริเวณพื้น สอบถามผู้เสียหายจึงทราบว่า ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน โดยมีคนร้าย ฉายา อ้วนลาย บางซื่อ ขับรถจักรยานยนต์สีเทา พร้อมพวกขับขี่มาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถและเดินลงมาหน้าบ้านที่เกิดเหตุและได้ใช้อาวุธปืนยิงประมาณ 7-8 นัด และได้ขว้างปาระเบิดปิงปองใส่กลุ่มของผู้เสียหายที่อยู่ในบ้านจนได้รับบาดเจ็บและได้หลบหนีไป ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดมาจากการที่กลุ่มของผู้เสียหายได้อัดคลิปท้าทายกันในโซเชียลมีเดีย กับกลุ่มอ้วนลาย บางซื่อ ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความ

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ทราบว่า เมื่อ พ.ศ.2566 ผู้ต้องหาได้โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน จับกุมในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”และได้รับโทษเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมา จึงก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำเป็นรอบที่สอง

ทั้งนี้ จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ไปขายต่อให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดระยอง และได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในจังหวัดระยอง ก่อนที่จะกลับมาอยู่ที่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าวข้างต้น

>> นายกฯ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ชายแดนสระแก้ว

14.00 น. ณ ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และพลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เข้าร่วม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน พร้อมแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ และกลุ่มเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือโอกาสมารับฟังปัญหาและความต้องการจากประชาชนโดยตรง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะพิจารณาแนวทางสนับสนุนและช่วยเหลือเพิ่มเติมในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ต้องขอบคุณกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจทุกคนที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น อดทน และบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่

>> รมว.ยุติธรรม นำฤกษ์วันต่อต้านยาเสพติดโลก ส่งยาเสพติดล็อตใหญ่สู่เตาเผา ตอกย้ำผลงานรัฐบาล

14.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีทำลายยาเสพติดของกลาง ครั้งที่ 4 ภายใต้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พร้อมด้วย นายยู่สิน จินตภากร และ นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม

นายสุรไกร นวลศิริ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรสมุทรปราการ ผู้แทนจากกรมโรงงานอุสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ และนิคมอุตสาหกรรมบางปู พร้อมด้วยเหล่าศิลปินและครีเอเตอร์ชื่อดัง อาทิ เก่ง ธชย ประทุมวรรณ, นาราภัทร งดงาม หรือ หมอแจ๊ค และ เพจ DOM ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำลายยาเสพติดของกลางครั้งนี้ ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและจริงจัง

การทำลายยาเสพติดของกลางในวันนี้ ถือเป็น ครั้งที่ 4 ประกอบด้วยของกลางจาก 85 คดี ยาเสพติดของกลางรวมสิ่งห่อหุ้ม น้ำหนักรวมกว่า 28.64 ตัน (น้ำหนักสุทธิยาเสพติดของกลาง 24.39 ตัน)

>> “บิ๊กหวาน” เผยกัมพูชาไม่ร่วมมือปราบแก๊งคอลฯ เตรียมใช้เวทีนานาชาติกดดัน ดำเนินคดีเจ้าของตึกฐานปฏิบัติการ

14.46 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. เปิดแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” หวังให้คนไทยรู้ทันกลโกง เผยสถานการณ์หลังตัดระบบสื่อสารชายแดนเริ่มดีขึ้น แต่กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือ ด้านตำรวจเตรียมเอาผิดเจ้าของตึก 18-25 ชั้นในปอยเปต ฐานบัญชาการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ ผอ.ศปอส.ตร. เผยขณะเปิดตัวแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” ภายใต้โครงการ Thai Cyber Ranger ว่า ตำรวจให้ความสำคัญกับการติดตามและคืนเงินผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุดคืนได้แล้วกว่า 2,220 ล้านบาท

ขณะนี้ตำรวจไทยเตรียมดำเนินคดีเจ้าของตึก 18 และ 25 ชั้นในปอยเปต ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมขยายผลถึงกลุ่มทุนเทาที่อาจเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่ม “ฮุยวัน กรุ๊ป” ซึ่งแม้มีข้อมูลเบื้องต้นจาก UNODC แต่ยังไม่พอเป็นหลักฐานทางคดี โดยไทยเตรียมใช้กลไก UNODC และอินเตอร์โพล กดดันให้กัมพูชาทำตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และจะประสานข้อมูลกับสหรัฐฯ และพันธมิตรเพื่อเดินหน้าปราบปรามขบวนการข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง

>> การรถไฟฯ แจ้งอุบัติเหตุรถพ่วงชนกับ ขบวนธรรมดาที่ 276 มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 4 ราย ส่วนคนขับรถเสียชีวิต

15.26 น. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับรายงานแจ้งเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ฝ่าแผงกั้นชนขบวนรถธรรมดาที่ 276 (ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก – กรุงเทพ (หัวลำโพง)) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 220/9 ระหว่างสถานีวัฒนานคร – สระแก้ว ส่งผลให้มีตู้โดยสารตกราง 1 คัน มีพนักงานกั้นถนนบาดเจ็บ 1 ราย และผู้โดยสารรถไฟ 3 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งได้ทำการนำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนขับรถพ่วง 18 ล้อ เสียชีวิต
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณทางตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟ โดยขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข็นแผงกั้นปิดทางเรียบร้อยแล้ว แต่รถพ่วง 18 ล้อได้ขับฝ่าแผงกั้นชนบริเวณกลางขบวนรถดังกล่าว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทันที และอยู่ระหว่างดำเนินการยกขบวนรถให้พ้นการกีดขวางโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ การรถไฟฯ จำเป็นต้องขนถ่ายผู้โดยสารขบวนรถธรรมดาที่ 279 กรุงเทพ(หัวลำโพง) – ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยรถยนต์ จากสถานีสระแก้วไปยังด่านพรมแดนบ้านคลองลึก

>> สั่ง สาธารณสุข จังหวัดชายแดน ระวังเข้ม "ไข้หวัดนก" หลังกัมพูชาพบผู้ป่วยเป็นรายที่ 7

16.36 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชารายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N1 เพิ่มเป็นรายที่ 7 ของปีนี้ ว่า ผู้ป่วยรายล่าสุดเป็นหญิงกัมพูชาอายุ 41 ปี อาศัยอยู่อำเภอโพก จังหวัดเสียมราฐ มีอาการไข้ ไอ หอบเหนื่อยและหายใจลำบาก หลังสัมผัสไก่ป่วยตายที่เลี้ยงไว้ในบริเวณบ้านและนำไก่ที่ตายมากินก่อนเริ่มมีอาการประมาณ 5 วัน ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งแม้ประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนก H5N1 มาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ยังคงมีการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่องทั้งในคนและสัตว์ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านยังพบผู้ป่วยไข้หวัดนกเพิ่มขึ้น โดย 3 รายสุดท้ายพบในเดือนมิถุนายน และส่วนใหญ่มีอาการรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย จากผู้ป่วย 7 ราย (อัตราป่วยตาย 71%) ทั้งนี้ ได้ดำเนินการภายใต้แนวคิด “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health) ที่มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

“ขอย้ำเตือนประชาชน ให้ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่นำสัตว์ป่วยมารับประทาน สวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสสัตว์ปีก หากพบผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดนกเดินทางมาจากประเทศที่มีรายงานการระบาด ให้สอบถามประวัติการสัมผัสสัตว์ปีก และรายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อทำการสอบสวนโรคโดยเร็ว รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคล คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่างเคร่งครัด” นพ.โอภาสกล่าว

>> จับเพิ่ม 2 ล่าม และ 1 บัญชีม้าแก๊งคอลเซนเตอร์ "กองร้อยปอยเปต"

16.40 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก. 1 บก.ปอท.) และกองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชายชาวจีน 2 ราย และชายไทย 1 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพัก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย,ท่าอากาศยานดอนเมือง และหน้าบ้านพัก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจาก กก. 1 บก.ปอท. ได้รับแจ้งความ กรณีคนร้ายหลอกลวงผู้เสียหายโดยการแต่งกายเป็นตำรวจ เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินไป ต่อมาได้จับกุม นายนา (นามสมมุติ) หรือผู้กองปอยเปต ซึ่งจากการสืบสวนยังพบผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้อีกหลายคน พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายจับไว้รวมถึงล่ามแปลภาษาระหว่างแก๊งกองร้อยและบอสชาวจีน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า บางส่วนได้แยกย้ายกันเพื่อกลับภูมิลำเนาของตนเอง ชุดจับกุมจึงได้สืบสวนติดตาม จนกระทั่งจับกุมทั้ง 3 คนได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิเบื้องต้น แต่ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> ไฟไหม้ในโรงงาน บริเวณอุตสาหกรรมย่านบางกะดี จ.ปทุมธานี จนท.พร้อมรถดับเพลิงระฉีดน้ำควบคุมได้ทันก่อนจะลุกลาม

19.00 น. รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเครื่องซักผ้าและตู้เย็น ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบางพูน เทศบาลตำบลหลักหก เทศบาลเมืองบางคูวัด มูลนิธิร่วมกตัญญู ระดมกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบว่า ไฟไหม้เกิดส่วนด้านหลังโรงงานซึ่งเก็บกล่องกระดาษและเม็ดพลาสติกขึ้นรูป เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้ เวลา 19.47 น. ขณะเกิดเหตุ ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุและความเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี

>> รถบิ๊กไบค์ล้มคว่ำ ร่างหนุ่ม 18 ปีเสียชีวิตบนเกาะกลาง ถนนบางกรวย - ไทรน้อย จ.นนทบุรี

21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บางบัวทอง พร้อม เจ้าหน้าที่มูนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์ยังไม่ทราบคู่กรณีเฉี่ยวชนหรือล้มเอง และมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดถนนบางกรวย-ไทรน้อย ฝั่งมุ่งหน้าบางบัวทอง ก่อนออกถนนกาญจนาภิเษก 1 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต ตรวจสอบ เป็นชายไทย อายุ 18 ปีนอนเสียชีวิตอยู่บนเกาะกลางถนน และห่างไปไกลกว่า 30 เมตรพบรถจักรยานยนต์แบบบิ๊กไบค์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น อาร์ 7 สีดำ ทะเบียน ชลบุรี ไถลไปชนป้ายและกระถางต้นไม้หน้าร้านรับติดตั้งกระจกและอะลูมิเนียม โดยในที่เกิดเหตุไม่พบรถคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยังพบร่องรอยขูดที่เกาะกลางถนนเป็นทางยาว

ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดของร้านค้าที่อยู่ริมทางสามารถบันทึกภาพได้ในช่วงเวลาที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับขี่มาด้วยความเร็วมีเสียงดังแซงซ้ายรถเก๋งสีดำก่อนจะพ้นมุมกล้องและเกิดอุบัติเหตุขึ้น และภาพอีกมุมหนึ่งจากกล้องท้ายรถและหน้ารถของพลเมืองดีก็บันทึกภาพไว้ได้เช่นกัน

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้ เบื้องต้นจากการสอบถามบุคคลใกล้เคียงไม่มีใครพบเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้ขณะที่ผู้เสียชีวิตขับขี่มาด้วยความเร็วก่อนพ้นกล้องและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนสาเหตุจะเป็นการเสียหลักล้มเองหรือมีรถเฉี่ยวชนก่อนหรือไม่นั้นจะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตรงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก็ชันสูตรต่อไป

>> ไฟไหม้รถยนต์ ใกล้เคียงแยกสาทร-สุรศักดิ์ อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนเพลิงจะลุกลาม

23.05 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ บริเวณแยกสาทร-สุรศักดิ์ ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีเทา ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้เบนซินและแก๊ส แอลพีจี เป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะห้องเครื่องรถยนต์ อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องเครื่องรถยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางรัก

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

23.19 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.5 ลึก 10 กม. บริเวณพรมแดนประเทศเมียนมา - ประเทศจีน ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกของ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 176 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>> ชายวัย 41 ปีขับขี่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนซ้ำซ้อน กลางถนนกาญจนาภิเษก ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

01.15 น. รับแจ้งจาก สน.ตลิ่งชัน มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บสาหัส อาสากู้ภัยกำลังทำการปั๊มหัวใจ ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี เลยห้างเดอะ พาซิโอ้ ในช่องทางคู่ขนาน ในพื้นที่ เขตทวีวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุ สีเขียว ป้ายทะเบียน อุดรธานี, รถจักรยานยนต์ ซอนเทส สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. และ รถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. และที่ท้ายรถบรรทุก พบผู้บาดเจ็บ 1 รายมีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัยให้การช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 41 ปี

ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีอุบัติเหตุ รถอเนกประสงค์ชนกับรถบรรทุก หลังจากนั้นรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ตามหลังมาได้เฉี่ยวชนซ้ำซ้อน ทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

02.06 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า มีเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 1 กม. ในพื้นที่ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ยังไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเขียงราย

เวลา 02.46 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า มีเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.0 ลึก 2 กม. ในพื้นที่ ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ยังไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

03.58 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.3 ลึก 10 กม. ในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 334 กม. ไม่มีผลต่อประเทศไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

รฟม. เดินหน้าตรวจเข้มความปลอดภัยการก่อสร้างช่วงเวลากลางวัน (Day Audit) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ

28 นาทีที่แล้ว

รวบ 13 คนไทย ลักลอบออกไปกัมพูชา คาดมุ่งหน้าหางานผิดกฎหมาย

37 นาทีที่แล้ว

บุกทลายแรงงานเถื่อนกลางบ้านบึง! เจอจีน-เมียนมา ไร้ใบอนุญาต 15 ราย – พบรังซุกกระสุนปืนสงครามกว่า 200 นัด

42 นาทีที่แล้ว

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแก๊งลอบขนไม้พะยูง 73 ท่อน มูลค่ากว่า 2 ล้าน เตรียมส่งขายพ่อค้าชาวจีน

55 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

ปตท. ครองบริษัทชั้นนำอันดับ 1 ในไทยและอันดับ 2 ใน Southeast Asia ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน จากนิตยสาร Fortune แสดงศักยภาพการดำเนินงานที่เป็นเลิศในระดับสากล

สวพ.FM91

รฟม. เดินหน้าตรวจเข้มความปลอดภัยการก่อสร้างช่วงเวลากลางวัน (Day Audit) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ

สวพ.FM91

เตรียมเฮ “กทม.” เปิดวิ่งถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน 29 มิ.ย. นี้

ฐานเศรษฐกิจ

ไทยได้คิวเจรจาภาษีทรัมป์แล้ว “พิชัย” พร้อมเยือนสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า

ฐานเศรษฐกิจ

ด่วน! เชียงรายท่วมแล้ว น้ำป่าหลากมาอย่างเร็ว เร่งอพยพผู้สูงอายุ

สยามนิวส์

ราคาทองวันนี้ 27 มิถุนายน 2568 เปิดตลาดราคาทองปรับลดลง 200 บาท

ฐานเศรษฐกิจ

เพิ่งจะรู้! ข้าวสุกแล้วต้อง ถอดปลั๊ก หม้อหุงข้าวหรือไม่ หลายคนทำผิดมาตลอด

สยามนิวส์

ศูนย์วิจัยกสิกรชี้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเสี่ยงถดถอยทางเทคนิค

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...