ทรัมป์แจ้งอัตราภาษีศุลกากรใหม่ บราซิล 50% ฟิลิปปินส์ 20%
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยจดหมายเรียกเก็บภาษีศุลกากรรอบใหม่เมื่อวันพุธ ซึ่งรวมถึงอัตราภาษี 50% สำหรับบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการประกาศสำหรับภาษีที่จะถูกเรียกเก็บในเดือนสิงหาคม และ ส่วนฟิลิปปินส์ประเทศในกลุ่มอาเซียนจะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 20 %
ทรัมป์ยังกล่าวถึงการฟ้องร้องคดีต่ออดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำฝ่ายขวาจัดในจดหมายที่ส่งถึงบราซิล โดยเรียกร้องให้ทางการถอนข้อกล่าวหาต่อเขาในข้อหาพยายามก่อรัฐประหาร “การพิจารณาคดีนี้ไม่ควรเกิดขึ้น การล่าแม่มดควรจะยุติลงทันที!” ทรัมป์ระบุในจดหมาย
เมื่อวันพุธ ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขาจะเก็บภาษีในอัตรา 30% สำหรับแอลจีเรีย ลิเบีย อิรัก และศรีลังกา โดยเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากบรูไนและมอลโดวา และ 20% สำหรับสินค้าจากฟิลิปปินส์ ภาษีส่วนใหญ่อยู่ในแนวเดียวกับอัตราที่ทรัมป์ประกาศไว้เมื่อเดือนเมษายนกับประเทศเหล่านั้น แม้ว่าภาษีของอิรักจะลดลงจาก 39% และของศรีลังกาลดลงจาก 44% ก็ตาม
- เก็บภาษีบราซิลในอัตราสูงส่งสัญญาณเตือนกลุ่ม BRICS
ทรัมป์เริ่มแจ้งให้คู่ค้าทราบอัตราภาษีใหม่ในวันจันทร์ก่อนกำหนดเส้นตายในสัปดาห์นี้สำหรับประเทศต่างๆ ที่จะสรุปการเจรจากับรัฐบาลของเขา และโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าเขาวางแผนที่จะออกจดหมาย "อย่างน้อย 7 ฉบับ" ในเช้าวันพุธ โดยจะโพสต์อัตราภาษีเพิ่มเติมในช่วงบ่าย
บราซิลเป็นประเทศแรกที่ได้รับการแจ้งเตือนเรื่องภาษีศุลกากรของทรัมป์ซึ่งไม่อยู่ในรายชื่อคู่ค้าเริ่มต้นเมื่อเขาประกาศขึ้นภาษีที่เรียกว่าภาษีตอบโต้ในเดือนเมษายน และจดหมายที่ส่งถึงบราซิลยังเป็นการเตือนกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา BRICS ซึ่งทรัมป์มองว่าเป็นภัยคุกคามต่อสถานะของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของโลก
กรณีเก็บบราซิลถือว่าผิดปกติในบรรดาเป้าหมายภาษีล่าสุดของทรัมป์ เพราะประเทศนี้ขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่ประเทศอื่นๆ เกือบทั้งหมดมีส่วนเกินดุลทางการค้าจำนวนมาก
ในปี 2024 บราซิลนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ประมาณ 44,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐฯนำเข้า จากบราซิลอยู่ที่ประมาณ 42,000 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของสำนักงานสำมะโนประชากร
บราซิลติดอันดับ 20 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ จาก 7 ประเทศที่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธ มีเพียงฟิลิปปินส์เท่านั้นที่ติดอันดับ 50 อันดับแรก ซึ่งส่งสินค้ามูลค่า 14,100 ล้านดอลลาร์ไปยังสหรัฐฯ
การนำเข้าจากประเทศที่เหลืออีก 6 ประเทศรวมกันมีมูลค่าต่ำกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยอิรักซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว
เมื่อถูกถามว่าเขาใช้สูตรใดในการกำหนดอัตราภาษีที่เหมาะสมสำหรับคู่ค้าทางการค้า ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธว่าสูตรนั้น “ใช้สามัญสำนึก ใช้การขาดดุล ใช้สิ่งที่เราทำมาตลอดหลายปี และใช้ตัวเลขดิบ”
“สูตรเหล่านี้ใช้ข้อเท็จจริงที่สำคัญมาก และข้อมูลในอดีตด้วย” เขากล่าว
จนถึงขณะนี้ คำเตือนล่าสุดไม่ได้ทำให้ตลาดสั่นคลอนตลาดมากนัก โดยผู้ซื้อขายมุ่งความสนใจไปที่การที่ทรัมป์ขยายกำหนดเส้นตายโดยรวมสำหรับภาษีที่เรียกว่าภาษีตอบโต้ออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งส่งผลให้คู่ค้าสามารถขยายเวลาการเจรจาออกไปได้ และในช่วงแรกก็ทำให้เกิดความกังขาในวอลล์สตรีทว่าเขาจะดำเนินการตามภาษีนำเข้าหรือไม่
แต่การเรียกเก็บภาษีกับบราซิลทำให้ค่าเงินเรียลร่วงลงถึง 2.9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กองทุนอีทีเอฟ iShares MSCI Brazil ETF มูลค่า 5.35 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดที่ติดตามหุ้นของบราซิล ลดลง 1.8% ในการซื้อขายหลังเปิดตลาด
ทรัมป์เสร้างความไม่แน่นอนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ด้วยการอ้างว่าเขา "ไม่มั่นใจ 100%" เกี่ยวกับวันเส้นตายใหม่นี้ ตั้งแต่นั้นมา เขาก็พยายามส่งสัญญาณไปยังนักลงทุนและหุ้นส่วนการค้าว่าเขามุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามคำขู่เรื่องภาษีศุลกากร โดยให้คำมั่นเมื่อวันอังคารว่า "เงินทั้งหมดจะต้องชำระตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป โดยจะไม่มีการต่ออายุการจัดเก็บภาษีศุลกากรเฉพาะประเทศ"
- การเจรจาการค้าจะดำเนินต่อไป แม้เลยเส้นตายใหม่ 1 ส.ค.
ด้านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังไมเคิล ฟอลเคนเดอร์ระบุเมื่อวันพุธว่า แม้ว่าภาษีศุลกากรจะเริ่มมีผลบังคับใช้ การเจรจาอาจดำเนินต่อไปได้หลังจากกำหนดเส้นตายในเดือนสิงหาคม
“มีความคืบหน้าอย่างมากที่เกิดขึ้นกับประเทศต่างๆ เหล่านี้ และสำหรับบางประเทศนั้น ได้บรรลุกรอบข้อตกลงบางส่วน” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับทีวีบลูมเบิร์ก “เป็นที่ชัดเจนว่าการจัดทำรายละเอียดของข้อตกลงการค้าจะล่วงเลยไปหลังวันที่ 1 สิงหาคม แต่กรอบข้อตกลงทั่วไปนั้นมีเป้าหมายที่จะบรรลุภายในวันที่ 1 สิงหาคม”
เดิมทีทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ในวันที่ 2 เมษายน แต่หลังจากที่ตลาดการเงินผันผวนหนัก จึงได้ผ่อนปรนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเป็น 10% เป็นระยะเวลาเจรจา 90 วัน ซึ่งกำหนดสิ้นสุดลงในวันพุธที่ 9 กรกฎาคม ก่อนที่ทรัมป์จะขยายเวลาออกไปอีกสามสัปดาห์เป็นวันที่ 1 สิงหาคม และเขาเริ่มส่งจดหมายแจ้งการขึ้นภาษีไปยังประเทศต่างๆ
จดหมายแจ้งขึ้นภาษีของทรัมป์เมื่อวันจันทร์มุ่งเป้าไปที่ 14 ประเทศ รวม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ อินโดนีเซีย ไทย และกัมพูชา อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีส่วนใหญ่สอดคล้องกับสิ่งที่ทรัมป์ประกาศไว้ก่อนหน้านี้