24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2568

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2568

>> คุณลุงวินจักรยานยนต์ รถลื่นทรายเสียหลักล้ม ถูกรถบรรทุกตามหลังทับซ้ำเสียชีวิตริมถนน

09.40 น. รับแจ้งจากกู้ภัยจุดบางพลี มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำแล้วถูกรถบรรทุกทับซ้ำ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ตรงข้ามคลังสินค้าบริษัทเคอรี่ ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สปาร์ค สีแดง ทะเบียนป้ายเหลือง สมุทรปราการ ล้มคว่ำใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ชายไทย อายุ 51 ปี สวมเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ในพื้นที่ย่านสำโรง หมายเลข 7 ห่างออกไปพบรถคู่กรณี เป็นรถบรรทุก ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม.

เบื้องต้นคาดว่า รถจักรยานยนต์ลื่นทรายข้างทางแล้วเสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนรถบรรทุกขับตามหลังมาทับซ้ำทำให้มีผู้เสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จะดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง

>> นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับเยาวชนไทยในสหรัฐฯ “เยือนแผ่นดินแม่” หวังนำประสบการณ์ต่างแดนมาต่อยอดพัฒนาประเทศ

10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้อนรับคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2568 ครั้งที่ 14 และผู้ปกครอง นำโดย นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พร้อมนายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานกรรมการฝ่ายสหรัฐอเมริกา

นายกฯ กล่าวว่า โครงการนี้เปิดโอกาสให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศได้กลับมาเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิต และเสน่ห์ต่าง ๆ ของคนไทย พร้อมย้ำว่า คนไทยคือซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญที่สุดของประเทศ ขอให้เยาวชนทุกคนช่วยกันนำเสน่ห์ของคนไทยไปเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รู้จัก

พร้อมฝากให้เยาวชนนำประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ไปต่อยอดในชีวิต และหากวันหนึ่ง ขอให้กลับมาอยู่ประเทศไทย เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศให้มีแนวคิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ ย้ำว่า บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับเสมอ

>> "นายภูมิธรรม" โต้ ไทยไม่เคยขอเปิดด่าน ที่ผ่านมาแค่กำหนดเวลา

10.39 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุฝ่ายไทยได้ขอประสานเปิดด่านผ่านแดน พร้อมเผยแพร่เอกสารของกองกำลังบูรพา โดยย้ำให้ฝ่ายไทยเป็นผู้เปิดด่านก่อน ว่า เราไม่เคยมีการขอเปิดด่าน เพราะที่ผ่านมาด่านไม่ได้ปิด เพียงอยู่ในขั้นตอนกำหนดเวลา สามารถไปดูได้ตามด่านว่าไม่ได้ปิดล็อก ยังสามารถทำการค้าชายแดนได้บางส่วน เพราะเราพูดอย่างชัดเจนและมุ่งสันติวิธี

ส่วนเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ พยายามให้เกิดการเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย เป็นจุดยืนของประเทศไทยตั้งแต่ต้น ขณะที่เรื่องวิถีชีวิตในขณะนี้ เราพยายามจะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เดือดร้อน และต้องแยกออกจากเรื่องของรัฐบาล รวมถึงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ยังเปิดให้เด็กนักเรียนเข้ามาเรียนหนังสือได้อยู่ และคนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินก็เปิดให้เข้ามา

ส่วนที่ไทยเปิดด่านเพื่อให้รถสินค้าผ่านข้ามแดนไป แต่กัมพูชาไม่ยอมเปิดด่านจะกระทบอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่กระทบ สิ่งที่พยายามทำเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการ ถ้าการที่ฝ่ายไทยจะผ่อนปรนเพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติ และให้ประชาชนได้รับประโยชน์ แต่ทางกัมพูชาไม่ทำก็ถือเป็นเรื่องของกัมพูชา ชาวกัมพูชาก็ต้องไปพิจารณาเรื่องนี้เอง

>> นายกฯ รับรายงานผลสืบสวนกรณีอาคาร สตง.ถล่ม พบปัญหาออกแบบ - วิธีการก่อสร้าง สั่งเอาผิดเต็มที่

11.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว โดยมีข้อสรุป

คือ การพังถล่มเริ่มที่ส่วนล่างของอาคาร (ชั้น 1-4) เนื่องจากแรงเฉือนของแผ่นดินไหวกระทำต่อผนังรับแรงเฉือน (ผนังลิฟต์และผนังบันได) จนเกิดการวิบัติ, ผลทดสอบเฉลี่ยของก้อนตัวอย่างคอนกรีตจากผนังรับแรงเฉือนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด, แบบรายละเอียด (มาตรฐาน ACI 318-08 และ มยผ. 1302-52) ไม่ตรงตามกฎหมายที่บังคับใช้ และ ระยะฝังของเหล็กเสริมที่จุดต่อของ link beam กับผนังรับแรงเฉือนน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดทำให้จุดต่อบริเวณดังกล่าวอ่อนแอลง

จากรายงานพบว่ามีความบกพร่องอย่างชัดเจนในเรื่องการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง รวมถึงการใช้คอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐาน และยังพบว่ามีการก่อสร้างอีกหลายจุดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หากปฏิบัติตามกฎหมายจะสร้างความแข็งแรงให้ตึกมากขึ้น

ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำว่า โครงการอื่น ๆ ได้มีการตรวจสอบวัสดุก่อสร้างอย่างเคร่งครัด ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ ต่อจากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดทำเป็นรูปเล่ม และส่งต่อให้ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ตำรวจในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

>> “เปิ้ล นาคร” พร้อม "จูน" ภรรยา พบผู้การไซเบอร์ หลังถูกมิจฉาชีพสร้างเพจปลอม หลอกคนสั่งออเดอร์ “หม้อแม่จูน”

11.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายนาคร ศิลาชัย หรือ เปิ้ล นาคร พร้อมด้วยภรรยา นางกษมา ศิลาชัย หรือ จูน เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เพื่อเเจ้งความหลังถูกมิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลวงเหยื่อโอนเงินสั่งออเดอร์แกงเขียวหวาน “หม้อแม่จูน” โดยมีผู้ได้รับความเสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก

เปิ้ล นาคร เผยว่า มีผู้เสียหายนับสิบรายติดต่อสอบถามเข้ามาหาตนถึงสถานที่นัดรับสินค้า โดยบอกว่าได้โอนเงินสั่งสินค้าไปแล้ว ตนจึงสอบถามข้อมูลกระทั่งทราบว่าลูกค้าได้สั่งสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หม้อแม่จูน” ซึ่งมีผู้กดติดตามและกดถูกใจกว่า 1,300 คน โดยอ้างว่าจำหน่ายสินค้าแกงไก่แบรนด์ “หม้อแม่จูน” ในราคา 459 บาท ต่อแกงไก่ 2,000 กรัม โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ และะอ้างว่าจะได้สินค้าทันทีในวันที่สั่ง ส่วนบัญชีรับโอนเงินค่าสินค้าก็มีการใช้หลายชื่อหลายบัญชี โดยตนขอยืนยันว่า แกงไก่แบรนด์ “หม้อแม่จูน” มีอยู่จริง ซึ่งเป็นธุรกิจทางครอบครัว แต่ไม่มีการเปิดเพจไว้รับสินค้าออเดอร์เเต่อย่างใด โดยจะเปิดรับออเดอร์ผ่านช่องทางเดียวคือ ไลน์ @หม้อแม่จูน เท่านั้น และบัญชีรับโอนเงินจะมีเพียงบัญชีเดียว คือ ชื่อบัญชี “นายนาคร ศิลาชัย” วันนี้ตนจึงอยากมาเป็นกระบอกเสียงเตือนลูกค้าไม่ให้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้เราเชื่อว่าหากไม่ดำเนินการจะมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นถึงพันราย

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีการแบ่งความเสียหายออกเป็นสองส่วน คือ นายนาครที่เสื่อมเสียชื่อเสียง และส่วนของผู้เสียหายที่เสียทรัพย์ ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานที่นายนาครนำมามอบให้จากผู้เสียหายกว่าสิบราย

>> ไฟไหม้โรงงานผลิตกระดาษ คนงานสูญหาย 10 คน รถดับเพลิงกว่า 50 คันระดมฉีดน้ำ

11.40 น. รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้โรงงานแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในนิคมฯ เหมราช ซ.8 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี

นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี พร้อมด้วย นายวัฒนพงษ์ พงศ์กิจจาเลิศ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระบุรี ผู้เกี่ยวข้อง รถดับเพลิงในพื้นที่หนองแค และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครมูลนิธิสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน/ปอเต็กตึ๊ง/ร่วมกตัญญู อีกเป็นจำนวนมาก รีบรุดมาที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในโรงงานซึ่งผลิตสินค้ากระดาษ อย่างรุนแรง ในขณะเดียวกันได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงงานแจ้งว่ายังมี พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในออฟฟิตบริเวณชั้น 2 และ ชัน 3 รวม 10 คนยังไม่สามารถออกมาได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้ความพยายามเร่งฉีดน้ำดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ เพราะจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 2 ช.ม.จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้

จากนั้นได้ประสานงานไปยัง มูลนิธิฯ และโรงพยาบาล หนองแค รพ.หนองแซง รพ.เสาไห้ และ ใกล้เคียงให้จัดส่ง ทีมแพทย์/พยาบาลมายังที่เกิดเหตุ เพื่อเตรียมการรอรับผู้บาดเจ็บและ นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ. โดยจัดตั้งศูนย์กองบัญชาการเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อ คนผู้สูญหายเบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 10 คน

>> เปิด “ปฏิบัติการปิดเกมส์กลโกงภาษี” ทลายกลุ่มเครือข่ายฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม รัฐเสียหายกว่าพันล้านบาท

13.11 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ร่วมกับ กรมสรรพากร แถลงทลายเครือข่ายฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม สร้างความเสียหายแก่รัฐกว่า 1,000 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งจากกรมสรรพากร ว่า นายสอ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้ต้องหา ได้จัดตั้งบริษัทนำเข้าส่งออกสินค้า กว่า 20 แห่ง โดยมีการออกใบกำกับภาษีในเครือข่ายลักษณะหมุนเวียนไปมา เพื่อปั่นราคาสินค้าให้สูงขึ้น เพื่อทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสุดท้ายบริษัทดังกล่าว จะทำการซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการในกลุ่มเครือข่าย ในราคาสูงเกินจริง แล้วส่งออกสินค้าไปยังประเทศเมียนมา จากนั้น จะนำหลักฐานการส่งออกและใบกำกับภาษีปลอม ไปขอคืนภาษีกับกรมสรรพากร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าระหว่างปี พ.ศ. 2564 - 2565 กลุ่มเครือข่ายนี้ ได้ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบและตรวจค้นรวม 14 จุด ในจังหวัดตาก จังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 10 ราย พร้อมยึดของกลาง เอกสารกว่า 100,000 ฉบับ, และคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวนมาก

ในเบื้องต้น สอบสวนผู้ต้องหาบางรายให้การรับสารภาพ ส่วนบางรายให้การปฎิเสธ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีปลอม โดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอม ที่ออกโดยไม่ชอบด้วย กฎหมาย ไปใช้ในการขอคืนเครดิตภาษี มูลค่าเพิ่ม“โดยควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติด ของกลางยาบ้า จำนวน 2 ล้านเม็ด

14.00 น. พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.3 ,นายมานพ แสงโสทร ผอ.ปปส.ภาค 3, พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ รอง ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ ,พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผกก.สภ.ลำปลายมาศ, หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

ร่วมแถลงผลการสกัดกั้นและจับกุมยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล Seal Stop Safe โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 2,000,000 เม็ด รถยนต์ของกลาง จำนวน 2 คัน มูลค่า 700,000 บาท

โดยก่อนเกิดเหตุ สภ.ลำปลายมาศ ได้รับแจ้งพบรถต้องสงสัยขับบน ถ.คูเมือง-ลำปลายมาศ ลักษณะมีรถขับนำทาง 1 คัน และรถขนยาบ้าอีก 1 คัน จากนั้นได้สกัดกั้นพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวพยายามหลบหนีจนภายหลังสามารถจับกุมผู้ขับขี่พร้อมทั้งของกลางได้

>> รองสารวัตรเรือล่ม จมหายกลางแม่น้ำเลย ขณะไล่จับคนร้าย

16.30 น. อาสาสมัครสมาคมกู้ชัพกู้ภัยฯ จังหวัดเลย ได้รับแจ้งเหตุเรือล่ม มีคนจมน้ำสูญหาย ที่บริเวณฝายหินทิ้ง แม่น้ำเลย พื้นที่บ้านกำเนิดเพชร ต.เมือง ฝั่งตรงข้ามบ้านก้างปลา ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย จ.เลย

ที่เกิดเหตุ เป็นฝายหินแม่น้ำเลย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุหลายราย ทราบว่าผู้สูญหายชื่อ ร.ต.ท.เริงศักดิ์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองเลย อาสาสมัครกู้ภัยได้นำเรือและเครื่องประดาน้ำลงค้นหา แต่ยังไม่พบ เนื่องจากมีอุปสรรค กระแสน้ำไหลเชี่ยว สีขุ่นแดง และมีฝนตก

จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ท.เริงศักดิ์ ผู้สูญหาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเลยอีก 2 นาย ได้ออกติดตามจับกุม ชายไทย อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเลย ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจาร ที่บ้านก้างปลา ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย จ.เลย ซึ่งผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้าตรวจสอบ ได้วิ่งหลบหนีลงไปในแม่น้ำเลย เจ้าหน้าที่ 2 นายจึงได้ติดตามไป โดยใช้เรือของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมฝั่ง พายตามออกไป แต่ปรากฏว่ากระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้เรือพลิกคว่ำ ร.ต.ท.จมหายไปในน้ำ ส่วนตำรวจอีก 1 นาย ว่ายน้ำเข้าฝั่งได้ ขณะที่ผู้ต้องหาหลบหนีไป

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย พร้อมด้วยพ.ต.อ.ณัฐกฤต คำวิเศษชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดค้นหา โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยจากหลายหน่วยในพื้นที่จังหวัดเลย จัดชุดประดาน้ำ และเรือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อบต.เมือง และอบต.ชัยพฤกษ์ นำเรือเข้ามาช่วยค้นหาด้วย ขณะนี้ยังไม่พบตัว ร.ต.ท.เริงศักดิ์แต่อย่างใด.

>> สิบตำรวจขับรถกระบะตราโล่ห์ ชนต้นไม้เสียชีวิตขณะเดินทางกลับหลังมาส่งสำนวนในตัวเมืองลำปาง

18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน เข้าตรวจสอบหลังจาก รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ข้างทางและมีผู้บาดเจ็บ ริมถนนพหลโยธิน ขาล่อง บ้านสบเติน ม.6 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ตราโล่ห์ ป้ายทะเบียน 1112 กทม. ของ สภ.แม่พริก ลักษณะเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทางแล้วชนกับต้นไม้ ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ ส.ต.ต.คุณากร (ผู้ขับขี่) เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบ สภาพศพเสียชีวิตอยู่ในรถ

ตำรวจ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจคนดังกล่าวนั้นมา ส่งสำนวนในเขตตัวอำเภอเมืองจังหวัดลำปาง และกำลังกลับช่วงขากลับนั้น คาดว่ารถดังกล่าวนั้นขณะขับมา อาจจะเกิดอาการหลับใน จนเสียหลักพลิกคว่ำจนเกิดเหตุสลด ดังกล่าว

ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลเถิน เข้ามาตรวจสอบและจะได้หาสาเหตุที่แท้จริงของการ เกิดอุบัติเหตุและมีผู้ เสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป

>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเข้ากำแพงและเสาไฟฟ้า เสียชีวิตสภาพนั่งคร่อมรถ

19.55 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยหงส์ฟ้า อปพร.ฝาง มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า และมีผู้เสียชีวิ บริเวณถนนภายในบ้านหัวฝาย ม.3 ต.โปงน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว ป้ายทะเบียน เชียงใหม่ ลักษณะชนเข้าระหว่างกำแพงและเสาไฟฟ้าข้างทาง พบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย อายุประมาณ 20 ปี สภาพร่างยังนั่งคล่อมบนรถจักรยานยนต์ ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฝาง

>> คนร้ายบุกปล้นเงินสด 3.4 ล้าน ในลานจอดรถห้างย่านลาดพร้าว ตร.เร่งล่าตัว

20.00 น. ศูนย์วิทยุผ่านฟ้าตำรวจ 191 รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว

โดยเบื้องต้นทราบว่าที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถชั้น 2 ของห้าง กลุ่มคนร้ายมีทั้งอาวุธปืนและมีด ทรัพย์สินที่ได้เป็นเงิน คริปโต 3.4 ล้านบาท หลังเกิดเหตุมีรายงานว่าคนร้ายได้หลบหนี โดยใช้ยานพาหนะต้องสงสัย คือ รถนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน นครสวรรค์ หลบหนี

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างลงพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และติดตามตัวมากลุ่มคนร้าย

>> ไฟไหม้บนห้องพัก ย่านสุขสวัสดิ์ซอย 40 อาสาสมัครใช้น้ำและถังเคมีทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะลุกลาม

20.39 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยสุขสวัสดิ์ 40 แยก 1 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น แบ่งให้เช่า จำนวน 12 ห้อง ประกอบกิจการ ให้เช่าพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบน ภายในห้องเลขที่ 11 เพลิงลุกไหม้เสียหาย ที่นอน ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ลุกลามฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 15 ตารางเมตร อาสาสมัครใช้น้ำและถังเคมีทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณ

>> ผบช.น. ยันรู้ตัวแล้ว 2 ใน 7 คนร้ายปล้นทรัพย์กว่า 3 ล้านบาท กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

21.15 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เดินทางมาที่ สน. พหลโยธิน ประชุมความคืบหน้าคดี คนร้ายใช้ปืนและมีดปล้นเงินกว่า 3 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ความคืบหน้าคดีหลังสอบถามผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่านำเงินสดกว่า 3 ล้านบาท เพื่อแลกเปลี่ยนเงินคริปโต ซึ่งคนร้ายมีทั้งหมด 7 คน ใช้รถยนต์ 2 คัน โดยเพิ่งรู้จักคนร้ายบางคนได้ประมาณ 1 เดือน ผ่านกลุ่มแลกเหรียญในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก

แหล่งข่าวในชุดสืบสวนเปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้เสียหาย ทางชุดสืบสวนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งขณะนี้สามารถยืนยันคนร้ายได้แล้ว 2 คน จาก 7 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน สาวสอง 1 คน ส่วนรถยนต์ฮอนด้ารุ่นซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1xxx นครสวรรค์ พบว่าเป็นทะเบียนจริงตรงกับข้อมูลของรถยนต์ยี่ห้อรุ่นนี้ ส่วนรถยนต์อีกคันยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ทะเบียนจังหวัดนนทบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง โดยความคืบหน้าคดีทางผู้บังคับบัญชาจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวกับรถตู้ ก่อนเสียหลักชนรถบรรทุก เสียชีวิตกลางถนนทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร จ.พระนครศรีอยุธยา

01.00 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู พระนครศรีอยุธยา จุดพระอินทร์ราชา มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร ในพื้นที่ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ เวสป้า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. และใกล้กันพบรถตู้ โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. สภาพข้างรถฝั่งขามีร่องรอยการเฉี่ยวชน ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 23 ปี ชาว อ.มหาราช

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่า ผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วเสียหลักเฉี่ยวชนกับรถตู่ ก่อนจะพุ่งชนกับรถบรรทุก ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นจะดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

02.43 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า มีเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.2 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 94 กม. ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย