โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วัดห้ามถือเงินสดเกินแสน! เพื่อไทยเร่งชงกฎหมายใหม่คุ้มครองพระพุทธศาสนาเข้าสภา

The Better

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER
“เพื่อไทย” เตรียมชงร่าง พรบ.คุ้มครองพระพุทธศาสนาเข้าสภา “สุชาติ” ตอบกระทู้วุฒิสภา ยอมรับวงการสงฆ์เผชิญวิกฤตศรัทธารุนแรง เผย มส.ออกกฎจำกัดวัดถือเงินสดได้ไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่มใช้ ต.ค. นี้

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายของพรรค ได้แจ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านพระพุทธศาสนาและแนวทางดำเนินการของพรรคเพื่อไทยว่า จากปัญหาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติของพระสงฆ์ขณะนี้ ทั้งในเรื่องการจัดการทรัพย์สินของวัดโดยไม่โปร่งใส การประพฤติผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง การเสพเมถุนกับสีกาจนเป็นข่าวครึกโครมในขณะนี้ ตนเองได้รับมอบหมายจากพรรคให้พิจารณาดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาเพื่อกำหนดมาตรการในการแก้ปัญหาพระสงฆ์ประพฤติผิดวินัยร้ายแรงและหามาตรการในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา

ในวันนี้ตนได้มอบหมายให้คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองพระพุทธศาสนาขึ้นมาโดยด่วน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 ที่กำหนดให้ รัฐต้องมีมาตรการและกลไกในการปกป้องมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด ดังนั้น ในร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้การกระทำบางอย่างเป็นความผิดอาญา นอกเหนือไปจากมาตรการทางวินัยสงฆ์จะมีบทกำหนดโทษอันเป็นโทษทางอาญาสำหรับผู้ที่กระทำความผิดอันเข้าข่ายเป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของการกระทำของพระสงฆ์และฆราวาสที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงการกระทำอื่นๆ เหตุที่ต้องใช้มาตรการทางอาญาเข้ามาช่วยเพราะเห็นว่าในสถานการณ์ปัจจุบันลำพังการลงโทษตามวินัยสงฆ์ไม่เพียงพอที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาได้ จึงต้องมีมาตรการเด็ดขาด โดยจะกำหนดความผิดและกำหนดอัตราโทษก็ให้เหมาะสม โดยจะเร่งรัดดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายฉบับนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อเสนอต่อสภา

นายชูศักดิ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ อันเป็นผลจากการกระทำของพระสงฆ์บางรูป ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวงการพระสงฆ์ทั่วประเทศ กระทบต่อจิตใจและความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ขอให้คิดว่านั่นเป็นการกระทำส่วนบุคคล แต่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาต่างๆ ที่สอนให้ทุกคนเป็นคนดีไม่มีเปลี่ยนแปลง จึงขอให้พุทธศาสนิกชนยังคงยึดมั่นในหลักศาสนาและช่วยกันส่งเสริมและคุ้มครองพระพุทธศาสนาต่อไป

"สุชาติ" เผย มส.ออกกฎจำกัดวัดถือเงินสด เริ่มใช้ ต.ค. นี้

ขณะที่ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถาม เรื่องวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มั่วสีกา ทำลายศรัทธาของชาวไทยพุทธ ของ นายปริญญาวงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ถามนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้แทน

นายปริญญา ตั้งกระทู้ถามว่า ประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่มีวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา จึงขอถามใน 4 ข้อ คือ 1. รัฐบาลและสำนักพระพุทธฯ มีการวางแผนและแก้ปัญหานี้อย่างไรในการร่วมกับกรรมการมหาเถรสมาคม 2.การดำเนินคดีกับสมีทั้งหลาย สามารถทำได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์และเรื่องเงิน เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้นักการเมือง ข้าราชการกับนักการเมืองอย่างไรก็สู้พระไม่ได้ เพราะพระรวยกว่า 3.ในอนาคตรัฐบาลจะมีการตรวจสอบเงินเงินอย่างจริงจังเมื่อไหร่ หรือจะแก้ไขฎหมายเพื่อให้ด้ต่อการตรวขสอบได้หรือไม่ และ 4. ควรเร่งพลักดันพ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้แล้วหรือยัง เพื่อกำหนดโทษ ว่าพระที่กระทำความผิดเช่นนี้ และทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนามีโทษอาญาจำคุกได้หรือไม่

ด้านนายสุชาติ ชี้แจงว่า ปัญหาในวงการสงฆ์ขณะนี้ เป็นที่กล่าวขวัญและสะเทือนใจมาก ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ผู้นับถือศาสนาพุทธ แต่การที่เสนอว่าให้คนแบบสีกากาล์ฟมีเยอะๆ เพื่อที่จะให้ปราบปรามพระไม่ดีนั้น ไม่ได้ เพราะตอนนี้เสื่อมมากแล้ว การที่คนเกิดวิกฤติศรัทธา เกิดจากตัวพระสงฆ์ แต่เรานับถือคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ดังนั้น ต้องแยกกัน และการแก้ปัญหาสงฆ์มีวิธีอื่น ไม่ใช่ส่งสีกาไปเยอะ ก็จะยิ่งเสื่อมเสียกันใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ให้นโยบายกับสำนักพระพุทธฯ ว่าต้องทำงานในเชิงรุก เพราะวัดต่างๆที่อยู่ทั้งในเมืองและตามต่างจังหวัดทำไมประชาชนจึงรู้ว่าพระปฏิบัติไม่ดี อย่างไร ยักยอกเงินวัดอย่างไร เอาเงินวัดไปทำอะไร ไปแอบเสพเมถุนกับใครแล้วทำไมสำนักพระพุทธฯไม่รู้ ซึ่งตนได้บอกว่าตั้งแต่นี้ต่อไปสำนักพระพุทธฯต้องทำงานเชิงรุก ไปหาข่าวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชาวบ้าน

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้การควบคุมพระสงฆ์เป็นการดำเนินของพระมหาเถรสมาคม ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิดพระธรรมวินัยหรือสมี ปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดเอาผิดพระภิกษุสงฆ์ที่เสพเมถุนหรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระเลย ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องรีบร่างพ.ร.บ.สงฆ์ โดยด่วน เพิ่มโทษพระที่ผิดพระธรรมวินัยถึงจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยค่าปรับประมาณหลายหมื่นบาท ถึงหลักแสนบาท ส่วนสีกาก็ต้องมีความผิดด้วยแม้ขณะนี้จะเอาความผิดสีกาไม่ได้ แต่หากพบว่าไปล่อลวง ข่มขู่ เราก็เอาผิดกฎหมายอาญอื่นๆได้ อย่างไรก็ตามเรารีบออกกฎหมาย โดยขณะนี้ได้เริ่มร่างกฎหมายแล้ว คิดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้จะมีการแก้กฎหมาย โดยอาจจะรวมไปถึงการเอาผิดการเรี่ยไร หรือการบริจาค

"การบริจาคเงินให้วัดทางมหาเถรสมาคมออกเป็นกฎมส.แล้ว จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้ ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปทุกวัดที่มีเงินบริจาค ต้องนำเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ และวัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท และบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นการแก้ไขปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง" นายสุชาติ กล่าว

พร้อมกันนี้นายสุชาติ ได้เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตศรัทธาในวงการสงฆ์ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

จากการหารือเบื้องต้น มีข้อสรุปสำคัญคือ การบูรณาการความร่วมมือระหว่างทุกฝ่าย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหลักฐานการกระทำผิดวินัยสงฆ์ของพระรูปใดก็ตาม ให้แจ้ง พศ. ควบคู่กันไป พร้อมแจ้งเจ้าคณะหนแต่ละพื้นที่รับทราบ เพื่อร่วมกันดำเนินการ นอกจากนี้ยังเร่งผลักดันการยกร่างกฎหมายหรือกฎระเบียบใหม่ โดยเฉพาะการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 หรือกฎกระทรวง ให้เร็วที่สุด เพื่อเอาผิดทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่ร่วมกระทำผิด เช่นกรณี "สีกากอล์ฟ" ที่เป็นข่าวครึกโครม

นายสุชาติ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าพระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกพาดพิงและทำการลาสิกขาไปแล้ว ไม่ควรมีความประพฤติเช่นนั้น เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ และถือศีล 227 ข้อ การที่บำเพ็ญศีลมานาน ไม่น่าขาดสติจนถูกหลอกเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวจนทำให้เกิดความหวั่นไหว

สำหรับมาตรการควบคุมทางการเงินของวัดและพระสงฆ์ที่ พศ. ได้ออกกฎกระทรวงและจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 นั้น กำหนดให้ เงินทุกบาททุกสตางค์จะต้องเข้าบัญชีของวัดเท่านั้น โดยมีข้อยกเว้นให้พระสงฆ์สามารถถือเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 100,000 บาท และทุกบัญชีของวัดจะต้องฝากไว้กับธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่

นอกจากนี้ ทุกวัดจะต้องจัดทำ รายงานบัญชีรายรับรายจ่าย รายการยอดคงเหลือทุกเดือน และต้องจัดทำ รายงานทางการเงินประจำปี ส่งให้ พศ. ทราบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้ พศ. กำลังเร่งร่างระเบียบเพื่อบังคับใช้กับวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อสร้างความโปร่งใสและเรียกคืนศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนกลับคืนมา.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

"แพทองธาร" เปิดบ้านพิษณุโลก เดินหน้าซอฟต์พาวเวอร์ หวังสื่อไทยเป็นแรงบันดาลใจเชื่อมเยาวชนกับพุทธวิถี

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทำไม'ทรัมป์'ถึงอยากได้'ทับละมุ'เป็นฐานทัพอเมริกันในไทย? เพราะมันคือ'ไข่มุก'ล้อมจีนที่หายไป

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วางยาเบื่อสุนัขในรั้วเทศบาลดับ 2 หาย 12 ตัว เร่งหาตัวคนทำ หลังวงจรปิดเสียวันเกิดเหตุพอดี

Khaosod

จับตา‘ทรัมป์’เปลี่ยนนโยบายยูเครน?-ใช้ไม้แข็งกับ‘ปูติน’ ขายระบบขีปนาวุธแพทริออตเพิ่มและส่งผู้แทนไปเจรจาเคียฟ

Manager Online

CIB เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แจ้งพระสงฆ์ประพฤติตนไม่เหมาะสม

สยามรัฐ

จ่อยื่นหนังสือ 'ภูมิธรรม' ยุตินำเข้า ข้าว ยางพารา น้ำมัน จากต่างประเทศ

Khaosod

พยากรณ์อากาศ อุตุฯเตือน 9 จังหวัดเสี่ยงหนัก น้ำท่วม-น้ำป่า

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

4 ครูน้ำตาคลอ ถูกเลิกจ้างกลางเทอมไร้เหตุผล ผอ. โต้ไม่ได้เลิกจ้าง แค่งบประมาณไม่พอ

Khaosod

ออสเตรเลียจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ กองทัพไทยเข้าร่วมด้วย

JS100

เพศทางเลือกเฮลั่น!บัตรทองครอบคลุม “ฮอร์โมนข้ามเพศ”! สปสช.เคาะงบ 145 ล้านดูแล

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...