"รมว.ยุติธรรม" เดินหน้าแก้กฎหมาย! "ลดค่าธรรมเนียมบังคับคดี" เพื่อลดภาระและหนี้ของประชาชน

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.68 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ที่เสนอโดยกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติในวาระที่ 2 และ 3 แล้ว โดยมีสาระสำคัญในการปรับลดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อช่วยลดภาระทั้งของลูกหนี้และเจ้าหนี้ในคดีบังคับคดี อันจะช่วยให้การไกล่เกลี่ยมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และหนี้ของประชาชน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า “ที่ผ่านมาพบว่า ส่วนหนึ่งที่การไกล่เกลี่ยแก้ไขปัญหาหนี้สินติดขัด ตกลงกันไม่ได้ เพราะลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายค่าธรรมเนียมบังคับคดี การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้กระบวนการบังคับคดีมีความเป็นธรรมมากขึ้น ลดอุปสรรคการชำระหนี้ของลูกหนี้ และเพิ่มโอกาสที่เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้ ด้วย"

ทั้งนี้ การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมหลัก ๆ มีดังนี้

1. ค่าธรรมเนียมขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สิน จากเดิมร้อยละ 3 ลดเหลือ ร้อยละ 2
2. ค่าธรรมเนียมจ่ายเงินที่ยึดหรืออายัดแก่เจ้าหนี้ จากเดิมร้อยละ 2 ลดเหลือ ร้อยละ 1
3. กรณียึดทรัพย์ที่ไม่ใช่เงินและไม่มีการขายหรือจำหน่าย เดิมเก็บร้อยละ 2 ปรับเป็นไม่เรียกเก็บ
4. กรณียึดหรืออายัดเงิน หรือทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย เดิมเก็บร้อยละ 1 ปรับเป็นไม่เรียกเก็บ
5. ขายโดยการประมูลระหว่างคู่ความ จากเดิมร้อยละ 2 ลดเหลือ ร้อยละ 1”

การปรับลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวถือเป็นการลดต้นทุนในกระบวนการบังคับคดี ทำให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เจ้าหนี้ได้รับเงินชำระหนี้เต็มจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้คู่ความเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปริมาณคดีคั่งค้างในศาลและระบบยุติธรรม

รัฐบาลเชื่อว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินครัวเรือน สนับสนุนระบบเศรษฐกิจให้มีความยั่งยืน และสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประชาชนทุกภาคส่วน