"ภาคใต้" ครองแชมป์ "บุหรี่เถื่อน" วอนรัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการปราบปรามด่วน
"บุหรี่เถื่อน" ทะลักพุ่ง 28.1% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ "ภาคใต้" ครองแชมป์บุหรี่เถื่อนสูงสุด พร้อมวอนรัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการปราบปรามโดยด่วน
วันที่ 3 ก.ค. 2568 สมาคมการค้ายาสูบไทย เผยตัวเลขสุดช็อก"บุหรี่" ผิดกฎหมายในประเทศไทยพุ่งสูงถึง 28.1% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภาคใต้ 5 จังหวัดยังครองแชมป์บุหรี่เถื่อนสูงสุด เรียกร้องรัฐบาลดำเนินมาตรการแข็งกร้าว เช่นเดียวกับที่ปราบบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อช่วยเหลือร้านค้าโชห่วยภาคใต้ กรุงเทพฯ ปริมณฑล ชาวไร่ยาสูบในภาคเหนือและภาคอีสานซึ่งอยู่ต้นน้ำ และทวงคืนเงินภาษีที่หายไป
จากการสำรวจซองบุหรี่เปล่าของอุตสาหกรรมยาสูบ พบว่า อัตราการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายของไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 28.1% เพิ่มขึ้น 2.7% โดยจากการสำรวจครั้งก่อนที่ 25.4% คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท จังหวัดที่มีความชุกชุมของบุหรี่ผิดกฎหมายมากที่สุดยังอยู่ในภาคใต้ตอนล่าง โดยพบมากที่สุดในจังหวัด สตูล (94.4%) สงขลา (90.8%) พัทลุง (82.3%) ภูเก็ต (73.3%) และนครศรีธรรมราช (61.1%)
ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่ชายแดนเท่านั้น เพราะแม้แต่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของจังหวัดที่มีการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 กรมสรรพสามิตจะปราบปรามผู้กระทำผิดได้มากขึ้น
ทางด้าน น.ส.ธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลอีกคือ การสำรวจครั้งนี้พบบุหรี่เถื่อนจากประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบุหรี่เหล่านี้มีต้นทุนต่ำ เมื่อถูกลักลอบนำเข้ามาขายในราคาถูก ก็ทำให้ร้านค้าถูกกฎหมายสู้ไม่ได้ เพราะบุหรี่เถื่อนสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบ่งขาย โฆษณา ลดราคา หรือสั่งออนไลน์และส่งพัสดุตรงถึงบ้าน
ผิดกับร้านค้าที่มีต้นทุนตั้งแต่การขอใบอนุญาตขายบุหรี่อย่างถูกต้องในทุก ๆ ปี สัดส่วนการบริโภคบุหรี่เถื่อน 28.1% นี้ คิดเป็นปริมาณบุหรี่ประมาณ 8,000 ล้านมวน มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 30,000 ล้านบาท ที่สูญหายไปกับการขาดรายได้ของชาวไร่ยาสูบมากกว่า 260 ล้านบาท รายได้ภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่นๆ เกือบ 25,000 ล้านบาท และการขาดรายได้ของร้านค้ายาสูบที่ถูกกฎหมายอีกประมาณ 2,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ สมาคมการค้ายาสูบไทยตั้งข้อสังเกตว่า เราต้องจับตาดูผลกระทบของการปิดชายแดนกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบุหรี่เถื่อนเหล่านี้มักถูกขนส่งเข้ามาผ่านจุดผ่อนปรน ช่องทางธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเลตลอดแนวชายแดน จันทบุรี ตราด และสระแก้ว แล้วส่งผ่านไปรษณีย์ไทยหรือขนส่งเอกชนกระจายไปทั่วประเทศ การปิดชายแดนอาจทำให้ขบวนการลักลอบปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อลักลอบนำสินค้าเข้าสู่ประเทศ
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างเด็ดขาดและจริงจัง เพื่อช่วยปกป้องผู้ค้าที่ทำถูกกฎหมายกว่า 400,000 รายทั่วประเทศที่เป็นของไทย โดยมีผลงานที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทบต่อพี่น้องประชาชนแต่ยังไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวต่อการบังคับใช้กฎหมาย เพราะตัวเลขที่ออกมาบอกชัดเจนว่าปัญหาถึงจุดวิกฤติแล้ว และเรารอต่อไปไม่ได้.
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath