โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

GULF โชวแผนโต เป้า EBITDA พุ่ง 40%

หุ้นวิชั่น

อัพเดต 52 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้น

หุ้นวิชั่น – GULF โชว์ศักยภาพโตไม่หยุด ครึ่งปีหลังคาดรายได้ทั้งปีพุ่ง 25% EBITDA โตแรง 40% เดินหน้า COD โซลาร์–BESS เพิ่ม 597 MW หนุนกำไร พร้อมดันธุรกิจ LNG–ดาต้าเซ็นเตอร์สู่การเป็น Hub ดิจิทัลอาเซียน ตอกย้ำผู้นำพลังงานสะอาด–ดิจิทัล บรรลุเป้า RE 40% ก่อนกำหนด โครงการทยอย COD ต่อเนื่อง มอง 8–10 ปีข้างหน้าเป็นช่วงเร่งการเติบโตสำคัญของบริษัท

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2568 ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยทั้งปีบริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 25% จากปีก่อน ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คาดว่าจะเติบโตขึ้น 40% จากปีก่อน ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 597 เมกะวัตต์ จากโครงการโซลาร์ฟาร์มจำนวน 5 โครงการ และโครงการโซลาร์ และระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) อีก 2 โครงการ ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson Generation กำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้ง BKR2 และ GULF GUNKUL ก็จะเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจลมที่จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานเพิ่มเติม

สำหรับ ธุรกิจจัดหาและขนส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่ผ่านมาได้มีการนำเข้าแล้ว 32 ลำ หรือราว 2.1 ล้านตัน โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการนำเข้าเพิ่มอีก 30 ลำ หรือราว 2 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากค่าขนส่งเพิ่มขึ้นด้าน AIS คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งจาก ARPU ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การนำเสนอแพ็กเกจใหม่ ๆ ให้ลูกค้า รวมถึงการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ราว 3,000 ล้านบาทต่อปี จากการชนะการประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz

อีกทั้งแนวโน้มต้นทุนดอกเบี้ย มีทิศทางลดลง โดยมีแผนออกหุ้นกู้วงเงินรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อนำไปเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ และประชาชนทั่วไป โดยเงินที่ได้จะใช้สำหรับชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน รวมถึงการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ หุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 3 ปี, 5 ปี, 7 ปี และ 10 ปี ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทลดลงได้เพิ่มเติม

พร้อมกันนี้บริษัท จะทยอยรับรู้รายได้จาก ดาต้าเซ็นเตอร์โครงการ GSA01 ขณะเดียวกันยังมองหาโอกาสลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าโซลาร์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการโซลาร์และแบตเตอรี่ รวมถึงการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อนหลายแห่งในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัทมีแผนขยายโครงการในเฟสถัดไป โดยตั้งเป้าให้ได้กำลังการผลิตรวม 200–300 เมกะวัตต์ ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า จากความต้องการใช้ Data ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่โลกออนไลน์ รวมถึงความต้องการจัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้น ทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ โดยบริษัทมองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้ง โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม ทั้งภายในและนอกนิคมอุตสาหกรรม มีความมั่นคงด้านน้ำ ไฟ และระบบ Network Connectivity ที่ดี ทำให้การรับ–ส่งข้อมูลมีความเสถียร ไม่สะดุด อีกทั้งยังมีระบบ Submarine Cable ที่เพียงพอ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีความเสถียรและมาจากพลังงานสะอาด ซึ่งตรงกับทิศทางการพัฒนาของไทย ขณะเดียวกันรัฐบาลยังสนับสนุนด้วย สิทธิประโยชน์ทางภาษี เสริมความได้เปรียบให้ไทยเป็นจุดหมาย (Destination) ของการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต และยังมีในส่วนของประเด็น ความมั่นคงของการจัดเก็บข้อมูล ที่จะทวีความสำคัญมากขึ้น

อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัท ได้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่าร้อยละ 40 ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมภายในปี 2578 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนา รวมมากกว่า 10,000 เมกะวัตต์ ครอบคลุม 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ลาว เยอรมนี และสหราชอาณาจักร รวมไปถึงสหรัฐที่บริษัทมีการศึกษาทั้งโครงการโรงไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ

ที่ผ่านมา บริษัทฯ เดินหน้าขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง อาทิ

  • โครงการโซลาร์ฟาร์ม 9 โครงการ กำลังการผลิตรวม 460 เมกะวัตต์ (PPA) ร่วมกับ GUNKUL ซึ่งจะทยอยเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2026–2030 โดยคาดสร้างกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นเกือบ 400 ล้านบาทต่อปี หลังโครงการเปิดครบ
  • โครงการพลังงานลม 5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 437 เมกะวัตต์ ร่วมกับ บลู สกาย วินด์ พาวเวอร์ โฮลดิ้ง โดยจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2027–2030 และคาดสร้างกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 650 ล้านบาทต่อปี หลังปี 2030
  • การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 100% ในโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 12 โครงการ (กำลังการผลิตรวม 119 เมกะวัตต์) และโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม 3 โครงการ คาดสร้างกำไรได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
  • การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจาก 40% เป็น 100% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “ปากลาย” กำลังการผลิต 770 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว ซึ่งจะเปิดดำเนินการในปี 2032 โดยคาดสร้างกำไร 3,000–4,000 ล้านบาทต่อปี หลังเปิดดำเนินการ

ส่วนโครงการมาบตาพุด MTP3 ปัจจุบันการถมทะเลแล้วเสร็จเรียบร้อย โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง LNG Terminal ได้ในไตรมาส 4/2568 และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน ไตรมาส 1/2572 (ปี 2029) กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้า LNG รวมถึงบริษัทเองที่จะมีการนำเข้า LNG มาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าในเครือ

อย่างไรก็ดีบริษัทมุ่งมั่นรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อเนื่องพร้อมเดินหน้าเปิดดำเนินการโครงการใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ หนุนการเติบโตของธุรกิจได้ต่อเนื่องในระยะ 8–10 ปีข้างหน้า

รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัญช์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก หุ้นวิชั่น

HARN ปักเป้า 5 พันล. เปิดโอกาสพาร์ตเนอร์

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

LEGO ทุบสถิติรายได้ โกยครึ่งปีแรกแตะ 1.74 แสนลบ.

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

HARN ปักเป้า 5 พันล. เปิดโอกาสพาร์ตเนอร์

หุ้นวิชั่น

LEGO ทุบสถิติรายได้ โกยครึ่งปีแรกแตะ 1.74 แสนลบ.

หุ้นวิชั่น

OpenAI ถูกฟ้อง! หลัง ChatGPT แนะวิธีลาโลก! 

หุ้นวิชั่น
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...