7 เดือนปี 68 ต่างชาติลงทุนไทย 583 ราย นำเงินเข้า 1.59 แสนล้าน จ้างงาน 4,085 คน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผย 7 เดือน ปี 68 อนุญาตต่างชาติลงทุนไทย 583 ราย เพิ่ม 27% นำเงินเข้า 159,460 ล้านบาท เพิ่ม 75% จ้างงานคนไทย 4,085 คน เพิ่ม 90% นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามามากสุด ตามด้วยสหรัฐฯ สิงคโปร์ จีนและฮ่องกง ส่วนการลงทุนใน EEC มีจำนวน 176 ราย เพิ่ม 28% นำเงินเข้า 73,186 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนมากสุด ตามด้วยจีน ฮ่องกง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ช่วง 7 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ก.ค.) มีจำนวน 583 ราย เพิ่มขึ้น 27% โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 150 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 433 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 159,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% และมีการจ้างงานคนไทย 4,085 คน เพิ่มขึ้น 90%
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 112 ราย คิดเป็น 19% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 69,817 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ ธุรกิจบริการเป็นศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น พลาสติกคอมพาวด์และมาสเตอร์แบตช์ สิ่งพิมพ์ลามิเนทเพื่อบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์สำหรับรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร และชิ้นส่วนยานพาหนะ
2.สหรัฐฯ 85 ราย คิดเป็น 15% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 3,238 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจบริการทางวิศวกรรม ธุรกิจค้าปลีกสินค้า เช่น ชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งยานพาหนะ ธุรกิจโฆษณา และธุรกิจบริการรับจ้างผลิต เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ โลหะผสมสำหรับผลิตเครื่องประดับ และ Captive Screw for PCB
3.สิงคโปร์ 74 ราย คิดเป็น 13% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 22,872 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจบริการสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน ธุรกิจบริการสนับสนุนและบริหารจัดการการวิจัยทางคลินิก ธุรกิจบริการให้ใช้แอปพลิเคชันสำหรับเชื่อมต่อกับระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์กระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพ แม่พิมพ์/ชิ้นส่วนพลาสติก และ Printed Circuit Board
4.จีน 73 ราย คิดเป็น 13% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 20,029 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจ การจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ธุรกิจบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากการผลิต PCBA, ฟิล์มและบรรจุภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ Multilayer Printed Circuit Board
5.ฮ่องกง 64 ราย คิดเป็น 11% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 11,467 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจบริการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย ธุรกิจบริการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ธุรกิจบริการ Data Center และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรม ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนพลาสติก ชิ้นส่วนโลหะ
ทั้งนี้ การเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างชาติในไทยโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมขุดเจาะ องค์ความรู้เกี่ยวกับบำรุงรักษางานระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว องค์ความรู้เกี่ยวกับสถานีจัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติในช่วง 7 เดือนของปี 2568 มีจำนวน 176 ราย เพิ่มขึ้น 28% คิดเป็น 30% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย มูลค่าการลงทุน 73,186 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 44 ราย ลงทุน 26,937 ล้านบาท จีน 43 ราย ลงทุน 14,442 ล้านบาท ฮ่องกง 18 ราย ลงทุน 5,264 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ 71 ราย ลงทุน 26,543 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ธุรกิจบริการออกแบบ จัดหาวัสดุและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบเครื่องจักรและระบบการทำงานต่าง ๆ สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม โดยการออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจบริการเขต Data Center และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปจากแผ่นวงจรพิมพ์ ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์จากกระดาษรีไซเคิล เป็นต้น
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO