ข้าวโพดราคาดิ่ง! เกษตรกรเพชรบูรณ์ปักหลักประท้วง จี้รัฐรับซื้อ 7.5 บาท/กก.
วันนี้ 18 สิงหาคม 2568 กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในจังหวัดเพชรบูรณ์กว่า 300 คน รวมตัวกันชุมนุมบริเวณสี่แยกราหุล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อแสดงพลังเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ โดยผู้ชุมนุมต่างถือป้ายแสดงความไม่พอใจ เช่น “หยุดxทำร้าย หยุดxซ้ำเติม เกษตรสักที,ข้าวโพดอย่างสวย แต่ ราคาหัว_วยมาก, มีหนี้ มีสิน มีแต่ พวกมึxมีแดก สะท้อนความอัดอั้นและความเดือดร้อนจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นสวนทางกับราคาขายที่ตกต่ำเหลือเพียง 5-6 บาทต่อกิโลกรัม
ผู้ชุมนุมระบุว่า ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันที่มีความชื้น 30% ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาซื้ออยู่ที่เพียง 5.30-5.80 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนการปลูกต่อไร่เพิ่มสูงจากปุ๋ย ยา และค่าจ้างแรงงาน เกษตรกรจึงขาดทุนอย่างหนัก บางรายถึงขั้นต้องจำนำที่นาและเข้าโครงการแก้หนี้
ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มผู้ชุมนุมคือให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะการ รับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรในราคา 7.5 บาทต่อกิโลกรัม ที่ความชื้น 30% ซึ่งเป็นระดับราคาที่พอให้เกษตรกรพอมีรายได้และไม่ขาดทุน
ต่อมาในช่วงบ่าย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ส.ส. เขต และนักการเมืองท้องถิ่น ได้เดินทางมายังพื้นที่ชุมนุมเพื่อรับฟังข้อเรียกร้อง พร้อมหารือเบื้องต้นร่วมกับตัวแทนเกษตรกร โดยผู้ว่าฯ ระบุว่า ทางจังหวัดจะเร่งรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอจากกลุ่มเกษตรกรเพื่อเสนอต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
ในขณะเดียวกัน ตัวแทนเกษตรกรเตรียมรวบรวมรายชื่อผู้เดือดร้อนเพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาล และหากไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาภายใน 7 วัน จะยกระดับการเคลื่อนไหว โดยอาจมีการปิดถนนสายหลักในพื้นที่และเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รายใหญ่ของประเทศ โดยในปี 2568 มีพื้นที่ปลูกกว่า 400,000 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 กก./ไร่ ทำให้ปัญหาราคาตกต่ำส่งผลกระทบต่อเกษตรกรจำนวนมากในพื้นที่