ชาวสกลนครแต่งชุดไทยย้อนยุคร่วมขบวนแห่ฉลองพิธีสมโภช 187 ปี
ที่ลานรวมใจไทสกล บริเวณสถาปัตยกรรมหนองหาร ประตูเมืองสกลนคร ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร) ผู้ว่าราชการเมืองสกลนครคนแรก ขบวนแห่ฉลองสมโภชเมืองสกลนคร 187 ปี ซึ่งประกอบด้วย ขบวนแห่ท้องตราตั้งเมืองสกลนคร และเครื่องท้าวเจ้าเมืองกรมการบรรพชนเมืองสกลนคร สายเมืองกาฬสินธุ์ สายเมืองละครพนม เมืองมหาไช ขบวนแห่จากเทศบาลนครสกลนคร ขบวนแห่จากอำเภอเมืองสกลนคร ขบวนแห่จากอำเภอพรรณานิคม ขบวนแห่จากอำเภอกุสุมาลย์ ขบวนแห่จากอำเภอวานรนิวาส และขบวนแห่จากอำเภอสว่างแดนดิน ซึ่งเป็นหัวเมืองสกลนคร เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางถนนเจริญเมือง เข้าสู่ลานวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีสมโภช 187 ปี เมืองสกลนคร โดยมี นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธาน พร้อมด้วย ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ผู้แทนตระกูลสายต่าง ๆ ของเมืองสกลนคร และประชาชน ที่ต่างแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุค ชุดไทยพื้นเมือง และ ชุดชนเผ่า เข้าร่วมพิธี
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และจุดธูปเทียนสักการะบรรพชนเมืองสกลนคร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระครูกิตติธรรมนิวิฐ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์สมโภชเมืองสกลนคร ต่อด้วยพิธีทักษิณานุประทาน อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพชนผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีบายศรีสมโภชเมืองสกลนคร ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวรำลึกสดุดี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และบรรพชนเมืองสกลนคร ผู้แทนชาวเมืองสกลนคร กล่าวแสดงความภาคภูมิใจ และ การฟ้อนสมโภชเมืองสกลนคร โดย ชมชมคนรักพระธาตุเชิงชุม ชมรมแก่นศิลป์ราชพฤกษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ร่วมกับโรงเรียนบ้านนาสาวนาน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
เมืองสกลนคร เดิมชื่อบ้านเชียงชุม มีทำเลที่ตั้งติดริมฝั่งหนองหาร มีเทือกเขาภูพานอยู่ทางด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นชัยภูมิอันดกอุดม เหมาะสมกับการตั้งถิ่นฐาน กับทั้งมีพุทธเจติยะสถาน อันศักดิ์สิทธิ์สำคัญ คือ องค์พระธาตุเชิงชุม ที่ถูกสถาปนาไว้ดีแล้วท่ามกลางเมือง ทำหน้าที่เป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวเมืองสกลนครมาอย่างช้านาน ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดิน พระองค์ที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยพระบรมราชคุณูประการ แก่ประเทศและประชาชนเป็นล้นพ้นที่จะพรรณนาได้ โดยในปีพุทธศักราช 2371 ภายหลังการจัดการความสงบเรียบร้อยของหัวเมืองประเทศราช ทรงมีพระบรมราโชบายให้เกลี้ยกล่อมราษฎรบรรดาบ้านเล็กเมืองน้อย เข้ามาไว้ภายในพระราชอาณาเขต โดยเฉพาะขรัวเมืองมหาไช ที่มาตั้งบ้านเรือน ณ บ้านหนองหารเชียงชุม ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยกขึ้นเป็นเมืองสกลนคร เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พุทธศักราช 2381 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตั้งราชวงศ์เมืองมหาไช เป็นพระยาประเทศธานี เจ้าเมืองสกลนคร ตั้งราชวงษ์เมืองกาฬสินธุ์ เป็นอุปฮาด ตั้งท้าวจุลนี เมืองมหาไชเป็นราชวงศ์ และตั้งราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์ เป็นราชบุตรเมืองสกลนครให้การทำนุบำรุงรักษาบ้านเมือง ตลอดทั้งอาณาราษฎรมีความร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้ร่มพระบารมีแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ สืบมาช้านาน