โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

ชนะคดี! 20 ปีแห่งการต่อสู้ นายทุนยอมชดใช้หลังปล่อยน้ำเสียทำลายชุมชน

สยามรัฐ

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากกรณีที่มีชาวบ้านในต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลให้ดำเนินคดีกับบริษัทแวกซ์ กาเบ็จ รีไซค์เคิล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่สร้างมลพิษโดยประกอบกิจการรับรีไซค์กากขยะอุตสาหกรรม ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นจากสารเคมี รวมทั้งปล่อยน้ำเสียลงลำห้วยสาธารณะ นอกจากนี้น้ำเสียดังกล่าวยังได้ซึมลงใต้ดิน ทำให้น้ำบาดาลนั้นมีสารปนเปื้อน ซึ่งมีผลตรวจยืนยันจากสำนักงานสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบโรงงานไม่สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ เนื่องจากต้องนำน้ำในลำห้วยรวมทั้งแหล่งน้ำใต้ดินมารดพืชผัก ทำให้มีสารปนเปื้อนจำนวนมากในพืชผักไม่สามารถที่จะนำไปบริโภคได้ ชาวบ้านต้องเลิกการทำการเกษตร ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปสร้างผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านได้ร่วมกันยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนต้องรวมตัวกันร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว ยื่นฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญากับทางโรงงานเพื่อให้ชดใช้ให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งให้ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับมาสู่สภาพเดิม และต้องทำการขุดกากขยะอุตสาหกรรมที่ทำการฝังกลับอยู่ภายในโรงงานเอาออกไปกำจัดที่อื่น เพื่อไม่ให้น้ำเสียที่ปนเปื้อนสารเคมีได้ไหลซึมกระจายออกไปเป็นวงกว้างกว่านี้ซึ่งการต่อสู้เรียกร้องของชาวบ้านนั้นยาวนานมากว่า 24 ปี และเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2568 ศาลฎีกาได้พิจารณาไม่รับคำร้องของจำเลยคือบริษัทแวกซ์ กาเบ็จ รีไซค์เคิล จำกัด ที่ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างขอฎีกา พร้อมทั้งฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุธรณ์ โดย ศาลฎีกาได้ให้ยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุธรณ์ โดยให้ชดใช้กับทางผู้เสียหายทุกคน ซึ่งมีทั้งหมด 652 คน

ล่าสุดในวันนี้( 18 ส.ค. 68) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธาน ในการจ่ายเงินส่วนได้ในคดีให้แก่เจ้าหนี้คดีแบบกลุ่ม ซึ่งเป็นคดีสิ่งแวดล้อม เป็นการดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยมีนางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ผู้บริหารกรมบังคับคดี ส่วนราชการ ร่วมงาน หลังกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ในการบังคับคดีแพ่งตามคำพิพากษาของศาลได้ดำเนินการบังคับคดีในคดีนี้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลโดยได้ทำการยึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดมาแบ่งเฉลี่ยให้กับบรรดาเจ้าหนี้คดีแบบกลุ่ม ได้เป็นเงินจำนวนประมาณ 22,220,000 บาท และได้ดำเนินการจัดทำบัญชีรับ - จ่าย เงินครั้งที่ 1 ให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหนี้ได้รับเงินส่วนแบ่งเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 26 ของยอดหนี้ที่ศาลมีคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีสำนักงานบังคับคดีจังหวัดราชบุรีดำเนินการยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย โดยยึดที่ดินและที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จำนวน 29 แปลง ราคาประเมินรวม กว่า 66 ล้านบาท ซึ่งขายทอดตลาดได้แล้ว 13 แปลง เป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท คงเหลืออยู่ระหว่างประกาศขายทอดตลาดจำนวน 15 แปลง ราคาประเมิน 32,695,780 บาท และยึดสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมจำนวน 1 แปลง ราคาประเมิน1,113,300 บาท

ด้านนางประเทือง สังข์วาลย์เพชร ชาวบ้านในหมู่ 1 ที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานเจ้าปัญหา ก็บอกว่า ดีใจที่มีวันนี้ที่ต่อสู้มายาวนาน ร้องเรียนหลายหน่วยงาน แต่เรื่องก็เงียบหายจนชาวบ้านท้อ ร้องไห้หลายครั้งเพราะไม่รู้ว่าจะไปพึ่งพาใคร พอมีคนแนะนำให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันฟ้องร้องจนได้ชัยชนะมา แต่ในเรื่องนี้แม้ว่าชาวบ้านจะได้รับเงินเยียวยา แต่การแก้ปัญหาก็ยังไม่จบเพราะกองขยะภายในโรงงานยังไม่ได้มีการนำออกไปกำจัดก้เกรงว่าน้ำเสียก็จะยังคงไหลซึมลงไปใต้ดิน จึงอยากให้ทางจังหวัดราชบุรี ได้ช่วยดำเนินการเร่งขนย้ายออกเพื่อคืนสภาพน้ำใสที่ไม่ปนเปื้อนสารพิษให้กับชาวบ้านโดยเร็ว

ด้านนายธนู งามยิ่งยวด ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ได้กล่าวถึงการมอบเงินในครั้งนี้ว่า ชาวบ้านหลายคนก็ยินดีที่มีการเยียวยาในครั้งนี้ ส่วนตัวผมถือว่าได้กลับมาเพียงส่วนน้อยที่ผมต้องเสียหายไป ปัจจุบันเป็นหนี้ การเกษตรทำไม่ได้เลยเพราะน้ำเป็นพิษ และยังไม่มีการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมมากนัก รวมทั้งยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ก็อยากจะฝากหน่วยงานให้ช่วยตรวจสอบด้วย

นางสาวกาญจนา อุ่นเมือง ชาวบ้านในหมู่ 1 ต.น้ำพุ ก็บอกว่า วันนี้ตนมารับเงินแทนบิดาที่เสียชีวิตไปแล้วเพราะในช่วงที่ชาวบ้านต้องต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมจากโรงงานนั้นพ่อของตนก็เป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และเกิดความเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิต ซึ่งในช่วงแรกนั้นตนไม่คิดว่าชาวบ้านจะได้รับความยุติธรรม แต่วันนี้ชาวบ้านเห็นแล้วว่าความยุติธรรมมีจริง

ทั้งนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวหลังจากมอบเงินในครั้งนี้ว่า ประเทศไทยได้รับแผนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเข้ามา มี 4 ข้อสำคัญ คือเรื่องแรงงาน ชุมชน ที่ดิน สิ่งแวดล้อม นักต่อสู้สิทธิมนุษยชน และบริษัทข้ามชาติที่มาลงทุนที่จะไม่ละเมิดสิทธิ ทั้งหมดที่ไทยจะนำมาขับเคลื่อนเพื่อคุ้มครองประชาชนเป็นสำคัญ และอีกเรื่องกระทรวงยุติธรรมมีกองทุนยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี การประกันตัว และช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

สาวพัทลุงนักอนุรักษ์ เปลี่ยนที่รกร้างข้างทางเพาะกล้าผักสร้างรายได้ พร้อมให้ความรู้นักเรียนนักศึกษา

15 นาทีที่แล้ว

"ก.ต.” ไฟเขียวไล่ออก “อดีตอธิบดีผู้พิพากษา” ลวนลามหญิงบนรถไฟ พร้อมฟัน “ผู้พิพากษา”เรียกเงินคดี กปปส. ส่ง ป.ป.ช.พิจารณา

19 นาทีที่แล้ว

มก. ผนึก กทม. เปิดประกวดนวัตกรรม “Living Better Bangkok” ครั้งที่ 5 เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

21 นาทีที่แล้ว

กิ่งกาชาดหัวหินมอบทุนการศึกษา 310 ทุน ช่วยนักเรียนยากจน ถวายเป็นพระราชกุศล

24 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความภูมิภาคอื่น ๆ

ผู้ป่วยวัดพระบาทน้ำพุ ยัน หลวงพ่ออลงกต ไม่ได้จ่ายยาต้าน HIV ไปรับเองที่รพ.ตามสิทธิ์

MATICHON ONLINE

อย่าช้า! “ธนาคารที่ดิน” เปิดลงทะเบียนเกษตรกรรับความช่วยเหลือด้านที่ดินในงาน “สร้างสุขภาคใต้” ครั้งที่ 14

สยามรัฐ

"สมเด็จพระสังฆราช" ตรัสย้ำหน้าที่พระธรรมทูต “รักษาเกียรติคุณคณะสงฆ์–พระพุทธศาสนา–ชาติไทย”

สยามรัฐ

สาวพัทลุงนักอนุรักษ์ เปลี่ยนที่รกร้างข้างทางเพาะกล้าผักสร้างรายได้ พร้อมให้ความรู้นักเรียนนักศึกษา

สยามรัฐ

กิ่งกาชาดหัวหินมอบทุนการศึกษา 310 ทุน ช่วยนักเรียนยากจน ถวายเป็นพระราชกุศล

สยามรัฐ

"ผบ.ทร. เยี่ยมอำลาหน่วยเรือแม่น้ำโขง ชื่นชมความทุ่มเทและภารกิจช่วยเหลือประชาชน

สยามรัฐ

"กองทัพภาคที่ 2” สรุปสถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมแผนดูแลผู้อพยพและติดตามการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

สยามรัฐ

กรมอนามัย เดินหน้านโยบายส่งเสริมสุขภาพสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม เขตสุขภาพที่ 2

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...