มก. ผนึก กทม. เปิดประกวดนวัตกรรม “Living Better Bangkok” ครั้งที่ 5 เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

มก.จับมือกับกรุงเทพมหานคร เปิดตัวโครงการประกวดนวัตกรรมบูรณาการศาสตร์ ครั้งที่ 5 Living Better Bangkok-กรุงเทพฯ ที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

วันที่ 18 ส.ค.68 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง กรุงเทพมหานคร โดย รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วยพยานร่วมลงนาม ได้แก่ นายวิฑูรย์ อภิสิทธิ์ภูวกุล ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล นางสาวอรัญญา พรไชยะ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร นายดนัย เหลืองแก่นคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ผศ.น.ท.หญิงดร.งามลมัย ผิวเหลือง คณบดีคณะสังคมศาสตร์ ศ.ดร.วันชัย ยอดสุดใจ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.วุฒินันท์ รักษาจิตร์ คณบดีคณะเทคนิคการสัตวแพทย์ โดยทั้งสองหน่วยงานมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการพัฒนาและบูรณาการความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการประชาสัมพันธ์ การจัดการความรู้ การบริหารจัดการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนากรุงเทพมหานครและสังคมโดยรวม โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้เกียรติบรรยายพิเศษ “ปัญหาและความท้าทายของกรุงเทพมหานคร : นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิต” เพื่อให้นิสิตและผู้สนใจได้รับทราบข้อมูลและนำไปสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อไป ในการนี้ แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ในวันนี้ เป็นการลงนามความร่วมมือทางวิชาการที่ได้รับโจทย์ใหญ่จากกรุงเทพมหานคร ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ที่เราทุกคนต้องช่วยกันดูแล ที่ผ่านมาก็มีการทำงานร่วมกันในมิติต่าง ๆ มาโดยตลอด สำหรับการลงนามความร่วมมือทางวิชาการในวันนี้ เป็นการนำองค์ความรู้หลากหลายศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมาช่วยกันบริหารจัดการเมือง พัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และสร้างสรรค์นวัตกรรมเชิงพื้นที่ ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษากับภาครัฐในการผลักดันแนวคิด “เมืองแห่งนวัตกรรม” ที่เน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในการเสนอแนวทางการเปลี่ยนแปลงเมืองหลวงให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน

รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ดีมากที่มีความร่วมมือกันระหว่างกรุงเทพมหานครกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คำถามคือปัญหาคืออะไร กรุงเทพมหานครมีคนที่อยู่ในเมืองกว่า 10 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน มีปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่กรุงเทพมหานครเองก็มีองค์ความรู้ที่จํากัด เรามีข้าราชการและลูกจ้าง รวม 80,000 คน ที่ทำหน้าที่ของตนเองตามหน้าที่ประจำวัน แต่องค์ความรู้มีจํากัด ทำให้บางอย่างเราก็มีคําตอบสำหรับการบริหารเมือง มหาวิทยาลัยมีนักวิชาการ นักวิจัย มีนิสิตจำนวนมาก มีองค์ความรู้มากมาย แต่บางครั้งงานวิจัยก็เป็นงานวิจัยที่ไปอยู่บนหิ้ง คือไม่ได้ตอบโจทย์ของประชาชน ถ้าเรา 2 ฝ่ายมาร่วมมือกันแล้วก็ช่วยกันเอาปัญหาของเมือง ปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง แล้วนำองค์ความรู้ของหลาย ๆ คณะมาบูรณาการ ก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งประชาชนด้วย โดยส่วนตัวเชื่อว่าเกลียว 4 เกลียว ต้องกระชับกัน ประกอบด้วย 1. ฝ่ายราชการ หรือ กทม. 2. ฝ่ายวิชาการ ก็คือ มหาลัยเกษตรศาสตร์ 3. ฝ่ายเอกชน ก็คือ ภาคเอกชน และ 4. ฝ่ายประชาชน ดังนั้น เมื่อไรที่ 4 เกลียวนี้มาประสานกัน เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นเชือก ก็จะมีความเข้มแข็งและทำให้ได้ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

จากวัตถุประสงค์ของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว นำมาสู่โจทย์ของการประกวดนวัตกรรมบูรณาการศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568 หรือ ค่ายนักคิดพิชิตนวัตกรรมบูรณาการศาสตร์ KU Innovation ครั้งที่ 5 เวทีจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ของนิสิตและต่อยอดองค์ความรู้สู่การใช้จริง ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครนั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางความหลากหลายทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ดังนั้นนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะได้ร่วมกันคิดค้นและออกแบบการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์การบริหารจัดการเมืองอย่างยั่งยืน และรองรับอนาคตของสังคมเมืองไทยในศตวรรษที่ 21 ภายใต้หัวข้อ "Innovation for Sustainable Urban Societies: Enhancing Well-Being for All Life" หรือ นวัตกรรมเพื่อสังคมเมืองอย่างยั่งยืน : ยกระดับคุณภาพชีวิตเพื่อทุกสรรพชีวิต ซึ่งมีคณะสังคมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการโครงการประกวดนวัตกรรมบูรณาการศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 5 และมีนิสิตที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจำนวน 126 คน จาก 16 คณะ

จากนั้นได้มีพิธีเปิดโครงการ KU Innovation Contest Season 5 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Living Better Bangkok กรุงเทพที่ดีกว่า…ชีวิตที่ดีขึ้น” โดยมีเป้าหมายในการเปิดพื้นที่ให้นิสิตทุกคณะของมหาวิทยาลัยได้ร่วมกันคิด วิเคราะห์ และพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาเชิงพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การลงพื้นที่สำรวจปัญหา และการออกแบบแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

ผศ.น.ท.หญิงดร.งามลมัย ผิวเหลือง คณบดีคณะสังคมศาสตร์ กล่าวว่า เพราะเมืองที่ดี ไม่ใช่แค่เติบโต แต่ต้องเติบโตอย่างยั่งยืน ค่ายนักคิดพิชิตนวัตกรรมบูรณาการศาสตร์ KU Innovation ครั้งที่ 5 จึงได้จุดพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์นวัตกรรมเมือง เปลี่ยนอนาคตของกรุงเทพฯ ให้ดีกว่าเดิม ภายใต้หัวข้อ “Innovation for Sustainable Urban Societies: Enhancing Well-Being for All Life” ด้วยแนวคิด Living Better Bangkok – กรุงเทพฯ ที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้กรอบนโยบาย 9 ด้าน 9 ดีของกรุงเทพมหานคร

“จุดเด่นของโครงการ KU INNOVATION #5 สำหรับปีนี้ โครงการเลือกพื้นที่ ‘กรุงเทพมหานคร’ เป็นพื้นที่ปฏิบัติการของทีม KU Innovation ด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ 1) กรุงเทพมหานครมีปัญหาหลากหลายและซับซ้อน ทั้งปัญหา การจราจร มลพิษ พื้นที่สีเขียว น้ำท่วม และความมั่นคงทางอาหาร 2) เป็นโอกาสในการทำงานบูรณาการศาสตร์ นิสิตหลายคณะจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มาร่วมพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์เมือง และ 3) สามารถขยายผลไปยังเมืองอื่นได้ หากแนวคิดต้นแบบในกรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จสามารถนำไปต่อยอดเป็นโมเดลในพื้นที่ทั่วประเทศ นวัตกรรมที่พัฒนาในโครงการจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมาย 6 ด้าน 6 ดี ได้แก่ ปลอดภัยดี สิ่งแวดล้อมดี สุขภาพดี เรียนดี เศรษฐกิจดี สังคมดี ซึ่งมาจากนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี ของกรุงเทพมหานคร นั่นเอง

ศ.ดร.วันชัย ยอดสุดใจ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า สัญลักษณ์ค่าย KU Innovation season 5 เป็นรูปรูกุญแจ หมายถึง มุมมองที่ 1 : ตัว i เริ่มต้นจากตัวเรา ที่กำลังค้นหาประเด็นปัญหา Issue เพื่อจุดประกายความคิด Idea สร้างสรรค์ ต่อยอดสู่นวัตกรรม Innovation มุมมองที่ 2 : เครื่องหมายตกใจ "!" (Exclamation Mark) ความเร้าใจ แรงบันดาลใจ ความรู้สึก "ใช่เลย!" ของการค้นพบ การออกแบบที่ไม่ใช่เพียงตอบโจทย์ แต่ เปลี่ยนมุมมอง และมุมมองที่ 3 : Keyhole (รูกุญแจ) สัญลักษณ์ของการเปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่ ความคิดดี ๆ คือกุญแจสู่การ เปลี่ยนแปลง เปิดทางให้เห็นสิ่งที่มองไม่เห็นมาก่อน สีของสัญลักษณ์ hologram color สีโฮโลแกรม สื่อถึงการเปลี่ยนตามมุมมอง สะท้อนความหลากหลายของไอเดีย และความเชื่อมโยงของชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งหมดนี้คือ “กุญแจ” ที่จะไขประตูเมือง ไขโจทย์สังคม และไขอนาคตร่วมกัน

“สิ่งที่นิสิตจะได้รับจากโครงการประกวดนวัตกรรม อาทิ ได้รับเงินรางวัลรวมกว่า 160,000 บาท ได้รับหน่วยกิตในหมวดวิชาศึกษาทั่วไป รหัสวิชา 01999091: การพัฒนาตนเองผ่านการเรียนรู้ในห้องเรียน รหัสวิชา 01999092: การพัฒนาตนเองผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ นอกจากนี้ นิสิตจะได้ชั่วโมงกิจกรรม 3 ด้าน ดังนี้ คือ กิจกรรมมหาวิทยาลัย กิจกรรมเสริมสร้างสมรรถนะ กิจกรรมเพื่อสังคม ได้รับประกาศนียบัตร ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตร (หากผลงานผ่านเกณฑ์) ได้แสดงผลงานในงานเกษตรแฟร์ ตลอดจนได้รับการพัฒนาทักษะทั้งด้านการคิด การเรียนรู้ และความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคล”

รศ.ดร.วุฒินันท์ รักษาจิตร์ คณบดีคณะเทคนิคการสัตวแพทย์ กล่าวว่า กิจกรรมค่าย จะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 68 ถึงกุมภาพันธ์ 69 ดังนี้ วันที่18 ส.ค 68 พิธีเปิดค่ายและลงนามความร่วมมือ วันที่ 19–20 ส.ค. 68 กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ที่ THE KASET HUA HIN วันที่ 6 – 7 ก.ย. 68 กิจกรรม Workshop เสริมทักษะที่คณะสังคมศาสตร์ วันที่ 27–28 ก.ย.68 กิจกรรม Workshop ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ วันที่ 8 – 9 พ.ย.68 กิจกรรม Workshop ที่คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ 29 พ.ย.68 นำเสนอแนวคิด Pitching Idea เดือน ธ.ค. 68 กิจกรรม Progress–Prototype เดือน ม.ค. 69 กิจกรรม Progress–Test วันที่ 30 ม.ค. – 7 ก.พ. 69 จัดแสดงผลงานในงานเกษตรแฟร์ วันที่ 21 ก.พ.68 ตัดสินผลงานรอบสุดท้ายและส่งมอบรางวัล

ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวได้ที่

Facebook : KU Innovation contest

Instagram : kuinnovation_contest