จับแล้ว!! สภ.บ้านฝาง ภ.จว.ขอนแก่นรวบพ่อแม่ใจโหด เผาลูกทารกในเตาเผาถ่านของชาวบ้าน
สภ.บ้านฝาง ภ.จว.ขอนแก่นขอรายงานเหตุการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีเหตุน่าสนใจ คดีอาญาที่ 396/2568 อุกฉกรรจ์ที่ 3/2568 ดังนี้ 1. วันเวลาที่เกิดเหตุ วันที่ 17 มีนาคม 2568 เวลา 06.30 น. 2. สถานที่เกิดเหตุ เตาเผาถ่านทุ่งนานอกหมู่บ้านหินฮาว ม.4 ต.โนนฆ้อง อ.บ้านฝาง จว.ขอนแก่น 3.ผู้เสียชีวิต – เด็กทารกเพศชายเพิ่งคลอดอายุ 2 ถึง 5 วัน 4. ผู้ต้องหา 1.น.ส.ปนัดดา เหล่าราชสอน อายุ 33 ปี (ภรรยา) 2.นายพงศธร ฤทธิ์ลือไกล อายุ 30 ปี (สามี) 5. ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.820/2568 และ จ.821/2568 ลงวันที่ 15 ส.ค. 2568 6. พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2568 เวลา 06.30 น. พงส.เวร สภ.บ้านฝาง ได้รับแจ้งมีเหตุพบศพเด็กทารกแรกเกิด ถูกนำมาเผาไฟที่หลุมเตาถ่านนอกหมู่บ้านหินฮาว ม.4 ต.โนนฆ้อง เมื่อได้รับแจ้งได้พร้อมชุดสืบสวนร่วมกับแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่นเข้าตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุที่พบ พบศพทารกแรกเกิดมีสายรกถูกไฟเผาที่ลำตัวอยู่ภายในหลุมเตาถ่านแต่ไหม้ไม่หมด ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้ใดพบเห็นเหตุการณ์ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำจึงได้ร่วมกับแพทย์ทำการตรวจชันสูตรพลิกศพและที่เกิดเหตุจากนั้นได้ส่งศพไปให้แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ การชันสูตรพลิกศพ จากชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนและรายงานเหตุให้ ศปก.ภ.จว.ขอนแก่น , ศปก.ภ. 4 และ ศปก.ตร.ทราบ
ต่อมาชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.ปนัดดา และนายพงศธร ซึ่งเป็นสามีภรรยาเป็นผู้กระทำความผิด จึงได้รวบรวมหลักฐานส่งมอบให้กับ พงส.การขออนุมัติศาลออกหมายจับซึ่งศาลได้อนุมัติให้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองตามข้อกล่าวหา และศาลอนุมัติออกหมายจับ ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. หน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. บ้านฝาง และชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองนี้ได้ในเขตพื้นที่ อ.หนองเรือ และอำเภอชุมแพ พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาตามที่ปรากฏตามหมายจับจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางนำส่งพงส สภ.บ้านฝางดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า น.ส.ปนัดดาฯ ได้ตั้งครรภ์กับนายพงศธรฯ โดยหลังจากทราบว่าตั้งครรภ์ก็ไม่ได้เข้าทำการฝากครรภ์กับแพทย์ที่โรงพยาบาลจนกระทั่งครรภ์จะครบกำหนดคลอด น.ส.ปนัดดาฯ และนายพงศธรฯ มีความเครียดกลุ้มใจจากการที่จะต้องรับเลี้ยงดูแลบุตรที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากมีฐานะทางการเงินไม่ดีประกอบอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำ กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 เวลาประมาณ 12.00 น.ส.ปนัดดาฯ อยู่ห้องพักเพียงลำพังและสามีออกไปทำงานได้เกิดเจ็บท้องจะคลอดจึงได้ตัดสินใจคลอดเองบนเตียงภายในห้องโดยใช้มือดึงหัวเด็กออกมาจากช่องคลอดและเมื่อเด็กคลอดออกมาแล้วร้องส่งเสียงมีชีวิตปกติจึงได้นำมาอุ้มไว้บนเตียงน.ส.ปนัดดาฯ เกิความเครียดไม่อยากมีภาระที่ต้องดูแลจึงตัดสินใจใช้ผ้าห่มที่อยู่ข้างตัวมากดทับปิดที่ใบหน้าและจมูกของเด็กจะนิ่งไปและเมื่อทราบว่าเด็กเสียชีวิตแล้วจึงได้ตัดสายรกนำไปวางไว้ที่ท้ายเตียงและเมื่อและเมื่อนายพงศธรกลับมาถึงจึงได้แจ้งให้ทราบว่าเด็กที่คลอดออกมาได้ตายแล้วให้มาช่วยกันจัดการ นายพงศธรฯ จึงได้อุ้มเอาศพเด็กไปโยนวางไว้ที่กะละมังที่พื้นในห้องนอนและปรึกษากันจึงได้ตัดสินใจที่จะนำมาเผาทิ้งทำลายยังจุดบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นของคนรู้จักกระทั่งวันต่อมาจึงได้นำศพเด็กใส่กระเป๋าออกจากห้องพักและใส่ตะกร้าพลาสติกซ้อนท้ายขับขี่รถจักรยานยนต์จากห้องพักในตัวอำเภอเมืองขอนแก่นมายังอำเภอบ้านฝาง และขับขี่ไปยังหลุมเขาเตาถ่านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นของคนรู้จัก และได้ช่วยกันโยนตะกร้าใส่ศพเด็กเข้าไปในเตาเผาและนำน้ำมันจากรถจักรยานยนต์ที่เขาขี่มาเทลาดพร้อมทั้งนำท่อนไม้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงใส่ไว้ในเตาเพื่อเป็นเชื้อเพลิงจากนั้นจุดไฟเผาและร่วมกันนั่งดูจนแน่ใจว่าไฟไหม้ติด ได้ขับรถออกจากจุดดังกล่าวเข้ามาในหมู่บ้านหินฮาว ทำทีไปหาเจ้าของที่เตาเผา ที่เป็นคนรู้จัก ไปนั่งพูดคุยที่บ้านจนกระทั่งเย็นจึงได้พากันขับขี่รถกลับเข้ามาที่ห้องพักในอำเภอเมืองขอนแก่น และต่อมาในวันที่ 17 ส.ค.68 จึงตัดสินใจแยกย้ายกันหลบหนีเพราะกลัวความผิดโดย น.ส.ปนัดดาฯ ได้ขับรถจักรยานยนต์มาส่งนายพงศธรฯ ที่อำเภอชุมแพ ส่วนน.ส.ปนัดดาฯ ได้หนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในอำเภอหนองเรือ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจับกุมตัวได้