พรรคประชาชน ยืนยันพรุ่งนี้ได้ข้อสรุป โหวตใครเป็นนายกฯ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. พรรคประชาชน กล่าวถึงการประชุมทิศทางการโหวตนายกฯ ว่าขณะนี้สมาชิกได้ให้ความเห็นมาแล้ว ส่วนเพิ่มเติมในวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานนี้มี สส. หลายคนติดงานกรรมาธิการและงานในพื้นที่ที่สำคัญไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่ สส. เห็นตรงกันคือวันนี้จะยังคงเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิกพรรคต่อ อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการบริหาร คณะผู้บริหารของพรรคเพื่อตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่าเราจะโหวตเลือกนายกฯ คนใด
พรุ่งนี้รู้แน่ๆ 100% โดยจะมีการตัดสินใจในการประชุมของผู้บริหารพรรค เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพอบอกได้ไหมว่าแนวโน้มไปในทิศทางใด? นายปกรณ์วุฒิ ตอบว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ส่วนกี่โมงนั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากต้องตรวจสอบตารางเวลาของแต่ละคนว่าว่างพร้อมกันจริงๆ แต่ก็จะพยายามให้เร็วที่สุด
ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าส้มจะจับมือกับน้ำเงิน นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าไม่เป็นข้อเท็จจริงใดๆ เพราะยังไม่ได้มติ ยังไม่ได้ตัดสินใจไปทางใดทางหนึ่ง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน ระบุว่า มติพรรคทางใดทางหนึ่งไม่ได้ยึดที่ประชุม สส. แต่เป็นองคาพยพหนึ่งในการแสดงความเห็น แต่การรับฟัง 2 วันครบถ้วนแล้ว เป็นหน้าที่กรรมการบริหารครับ นำไปพิจารณาตัดสินใจ ขอให้สมาชิก แสดงความเห็นเพิ่มเติมจาก 100,000 คนตอบมาแล้ว 20,000 คน 80,000 คนแสดงความเห็นเพิ่มเติม
“จุดยืนของพรรค เป็นเช่นเดิมเชื่อว่าทางออกที่ดีที่สุดให้กับ คือการยุบสภา เลือกตั้งใหม่และคืนเอามาให้ประชาชนเร็ว หากผู้มีอำนาจในการยุบสภาขณะนี้คือรักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่ดำเนินการยุบสภา พรรคประชาชนจำเป็นต้องต้องใช้กระบวนการในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเลือกคนที่จะเข้าไปทำภารกิจในการยุบสภา” นายพริษฐ์กล่าว
และนายพริษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้เวลาเดินไปเรื่อยๆ และพรรคประชาชนเรียกร้องมา2เดือนแล้วกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการยุบสภา ตั้งแต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรียังอยู่ในตำแหน่ง จนถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี แม้จะมีการพูดถึงการยุบ จึงขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าหากจะยุบสภาก็ไม่ต้องรอมติของภาคประชาชน เพราะอย่างไรก็ตามนาฬิกาก็เดินต่อไป หากรักษาการนายกไม่ยุบสภา ก็ต้องเข้าสู่การเลือกนายกคนต่อไป และจะใช้ 143 เสียงของเราดำเนินการให้การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นำไปสู่การยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็ว
หลังจากนี้จะไม่มีการประชุม สส. เพื่อพิจารณาในเรื่องนี้แล้ว แต่เป็นอำนาจของกรรมการบริหารพรรคในการตัดสินใจที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้ 3 กันยายนที่รัฐสภา พร้อมเปิดเผยความเห็น สส. ในพรรค ไม่ไว้วางใจบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 พรรค ดังนั้นย้ำว่าหลายคนมีความรู้สึกกันเหมือนหมดตอนพรรคเพื่อไทยฉีกMOU และหลายคนก็มีความรู้สึกต่อพรรคภูมิใจไทยที่อภิปรายตอนเลือกพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้นไม่ได้เอาความรู้สึกมาเป็นตัวตั้ง และอดีตไม่ลืมแต่ไม่ได้เอามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ พร้อมกันที่กล่าวถึงไทม์ไลน์ 120 วัน ยุบสภาของพรรคภูมิใจไทยว่า ข้อเสนอเพิ่งเกิดขึ้น สส. ยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียด ย้ำว่าให้รอการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค และพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกนายกคนใหม่ตามขั้นตอน
ซึ่งการพิจารณาของพรรคคือเงื่อนไข 3 ข้อ ของพรรคประชาชนและข้อที่3 เขียนชัดว่าพรรคประชาชนเข้าไปทำหน้าที่แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้ไปจับมือร่วมรัฐบาลกับใคร และจะต้องมั่นใจว่าจะเลือกคนที่เข้าไปยุบสภาตาม 3 เงื่อนไขเป็นหลัก ว่าแนวทางไหนจะนำไปสู่การรักษาสัญญาเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติ ของแคนดิเดตนายก เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และการรักษาสัญญาจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ผู้ที่ตอบรับเงื่อนไขทำให้ประชาชนต้องมีความชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่ว่าคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีมติการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ก็จะต้องมีคำอธิบายต่อประชาชน
ส่วนกรณีกระแสข่าวทางรัฐบาลเริ่มต้นขั้นตอนการยื่นพระราชกฤษฎีกาให้มีการยุบสภาแล้วนั้น นายพริษฐ์ ระบุว่ายังคงอยู่จุดยืนเดิม การยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่เป็น สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศแต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยตอบสนองและยังไม่เห็นการกระทำ โดยปฏิเสธจะแสดงความเห็นว่าเป็นการขู่ภาคประชาชนหรือไม่ เพียงตั้งข้อสังเกตจากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีรักษาการ ว่าเป็นการนำความต้องการของตัวเองเป็นตัวตั้ง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง
และชี้แจง 2 เหตุผลที่ไม่ร่วมรัฐบาลในเงื่อนไขครั้งนี้ คือ 1.ให้ความสำคัญกับคำพูด ว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาชุดนี้จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ต้องการให้พรรคประชาชนเป็นพรรคที่ไม่น่าเชื่อถือในสายตาประชาชน 2. ต้องการคงสถานะเป็นฝ่ายค้านทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ฝ่ายค้านจะควบคุมรัฐบาลรักษาสัญญาผ่านกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากมีการเบี้ยวสัญญา
ยอมรับถึงการรับรู้ความเสี่ยงที่หากพรรคประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่สามสองเข้าไปแล้วภายหลังอาจมีการดูด สส. ไปเติมเสียงเพื่อสกัดเกมล้มนายกจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเหตุการณ์ทางการเมืองไทยเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแต่อย่างแรกที่จะลดความเสี่ยงได้คือเอกภาพของ 143 สส. หากพรรคเดินหน้าอย่างเป็นเอกภาพ จะลดความเสี่ยงดังกล่าวได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ภูมิธรรม" เผย ยุบสภาเป็นขั้นตอนต่อไป "ประชาชน-ภูมิใจไทย" จับมือกันเมื่อไหร่ ยุบสภาทันที
เลขาฯ เพื่อไทยยอมรับ เริ่มกระบวนการยุบสภาแล้ว!
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พรรคประชาชน ยืนยันพรุ่งนี้ได้ข้อสรุป โหวตใครเป็นนายกฯ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com