“มาริษ”เรียกร้องประเทศผู้บริจาคกดดันกัมพูชาเลิกวางทุ่นระเบิด
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง (Mekong - Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ที่มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน บรรยายสรุปแก่คณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาผ่านบันทึกวิดีทัศน์ ต่อ เอกอัครราชทูต อุปทูตรักษาการชั่วคราว ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร และองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รวม 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายมาริษ ยืนยันว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไทยได้กอบกู้ และส่งคืนพื้นที่มีการวางทุ่นระเบิดกว่าร้อยละ 99 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางกิโลเมตร กลับคืนสู่ชุมชนไทย และยังคงให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากทุ่นระเบิด เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและปกติสุข เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงสร้างความสะเทือนขวัญอย่างมาก และไม่ควรมีพื้นที่หรือเหตุผลใด ๆ ในการใช้อาวุธชนิดนี้อีกต่อไป
ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้มีการตกลงหยุดยิง แต่ไม่ถึง 5 วันหลังจากการประชุม ก็เกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดอีก 2 ครั้ง โดยหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่โดยกัมพูชา จงใจละเมิดพันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
นายมาริษ ยังกล่าวว่า ก่อนเกิดสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา นายกรัฐมนตรีไทยได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เกี่ยวกับปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ชะลอการดำเนินการ และที่สำคัญกว่านั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา พยายามขัดขวางการปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดของไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม้จะมีการเรียกร้องให้ปฏิบัติตาม และร่วมมืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่ได้ตอบสนอง
ดังนั้น ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้แน่ใจว่ากัมพูชา จะหยุดการใช้ทุ่นระเบิดอย่างไร้มนุษยธรรม และปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ซึ่งประเทศไทยได้แจ้งเรื่องนี้ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ และผ่านทางเลขาธิการฯ เพื่อขอคำชี้แจงจากกัมพูชาตามมาตรา 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาออตตาวา ที่ไทยจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป