“ภูมิธรรม” ให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสาน คค. พาคนกลับบ้าน สั่งการผู้ว่าฯ ดูแล ปชช. ใช้งบอย่างเต็มที่ คุย “กฟภ.-กปภ.” เว้นค่าไฟ ค่าน้ำ
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 ส.ค. 2568 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นาย ชูชัย มุ่งเจริญพร เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาต้อนรับ
จากนั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มาด้วยความห่วงใย เราทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราสร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้นพวกเราทุกคนที่ทำการดูแลพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังพยายามดูแลพี่น้องประชาชนทุกส่วนอย่างเต็มที่ ส่วนแนวหน้าทหารกล้าของเรา ได้ทำหน้าที่พยายามปกป้องดินแดนอธิปไตยของประเทศ และพยายามที่จะพิทักษ์รักษาดูแลครอบครัว บ้านเรือนทุกอย่างของประชาชนอย่างดี
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้พี่น้องประชาชนทุกคนคิดถึงบ้านเป็นอย่างมาก และเราก็ได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ตำรวจตระเวนชายแดนและตำรวจทุกภาคส่วน หรือฝ่ายปกครอง ดูแลบ้านเรือนพี่น้องอย่างดี ทั้งนี้รัฐบาลได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ โดยในเบื้องต้นเราได้เพิ่มเงินในอำนาจผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จาก 20 ล้านเป็น 100 ล้านบาท และได้รับความสนับสนุนจากทุกส่วนราชการ ตามแผนขณะนี้ อปท.ทั้งหมดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจความเสียหายของที่พักอาศัยแล้ว ถ้าเสียหายรุนแรงรัฐบาลก็จะหาที่พักให้ก่อนและรีบจัดการซ่อมแซม ด้วยการระดมสรรพกำลังทั้งทหารช่าง ปภ. และอาชีวะ อาสาสมัคร คอยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตี (ครม.)ได้มีการปรับหลักเกณฑ์ช่วยเหลือ เพราะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภัยปกติ มีความเสียหายถึงชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ส่วนมีการลือมาเป็นสิ่งที่ไม่จริงบ้าง ผิดบ้าง ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน อยากทำให้ทุกคนทราบ รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้คืนกับสู่สภาวะปกติเร็วที่สุด
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ 1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ : เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท ประชาชนที่เสียชีวิตรายละ 8 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท กรณีบาดเจ็บมาก : เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ รายละ 5 แสนบาท ประชาชน 4 แสนบาท 2. ขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีฉุกเฉินและอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพิ่มเติมเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท จาก 20 ล้านบาท
3. อนุมัติปฏิบัตินอกเหนือหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ปรับปรุงสถานที่ เครื่องอุปโภคบริโภค และเป็นค่าตอบแทนให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกประเภทที่ได้รับมอบหมายให้ออกปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันที่ 10 ส.ค. จะให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานต่าง ๆ นำรถยานพาหนะพาท่านกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย และดำเนินการตามระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายจากงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และงบประมาณในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาดำเนินการแก้ไขเยียวยาช่วยเหลือต่อไป พร้อมกำชับให้ผู้ว่า นายอำเภอ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่โดยทันที และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนสูงสุดเป็นอันดับแรก
นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยได้ให้แนวทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พิจารณาบรรเทาผลกระทบค่าใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภคของประชาชนพื้นที่ที่ประสบภัยด้วย ซึ่งทั้งหมดคือความห่วงใยที่รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย แลพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกส่วนให้ความสำคัญและเอาใจใส่ประชาชนเป็นอย่างดี
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วคือ ความห่วงใยที่รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและให้ความใส่ใจเป็นอย่างดี และในวันที่ 10 ส.ค. รัฐมนตรีทุกคนจะเข้าพื้นที่ หลังจากได้ประกาศสั่งการแล้วดำเนินการแล้ว ยังมีอะไรที่ติดขัด บกพร่องเป็นปัญหาจะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา ฝากกำลังใจ ความรู้สึกห่วงใยให้ส่วนหลัง ตอนนี้รออีกนิดนึงรอให้แต่ละพื้นที่ดูตามความเป็นจริง ที่ไหนปลอดภัยแล้ว จะได้ส่งพี่น้องประชาชนกลับบ้าน อย่างช้าในวันที่ 10 ส.ค. จะได้กลับบ้านทุกคน พร้อมได้ประสานกับกองทัพ ทั้งแม่ทัพภาคที่สอง และแม่ทัพภาคที่หนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด ขอประชาชนอดใจรออีกนิด
จากนั้น นายภูมิธรรม ได้พาคุณยายที่จะเดินทางกลับบ้านวันนี้ พาขึ้นรถของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องเคลื่อนบ้ายด้วยรถพยาบาทด้วย