เดือนกันยายนคือจุดเปลี่ยน? กฎหมายคริปโทฯ สหรัฐฯ สะเทือนทั้งตลาดโลก
#คริปโทเคอร์เรนซี #ทันหุ้น – ข้อมูลจาก Coinpedia ได้ระบุว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผลักดันร่างกฎหมายคริปโตฯ หลายฉบับ รวมถึง GENIUS Act, CLARITY Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act โดย ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามใน GENIUS Act ให้เป็นกฎหมายแล้ว ขณะที่อีกสองฉบับกำลังรอการอนุมัติจากวุฒิสภา
เดือนกันยายนนี้คาดว่าจะเป็นอีกเดือนสำคัญสำหรับกฎหมายคริปโตฯ โดยร่างกฎหมายที่รอการพิจารณาทั้งสองฉบับคาดว่าจะผ่านการอนุมัติก่อนสิ้นเดือน
ร่างกฎหมายที่จะมีการหารือในเดือนกันยายน 2025
- GENIUS Act: ถือเป็นกรอบกฎหมายกลางฉบับแรกสำหรับ Stablecoin โดยเฉพาะ ซึ่งผ่านการลงนามให้เป็นกฎหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม ส.ส. บางราย ยังคงต้องการที่จะเพิ่มความเข้มงวด ในส่วนของการควบคุมการฟอกเงินและข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ออกเหรียญจากต่างประเทศ
- CLARITY Act: ร่างกฎหมายนี้จะกำหนดโครงสร้างตลาดที่ครอบคลุมสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล, ชี้แจงบทบาทการกำกับดูแลระหว่างหน่วยงาน และกำหนดประเภทสินทรัพย์ใหม่ คณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาตั้งเป้าที่จะสรุปกฎหมายนี้ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายน 2025 โดยร่างกฎหมายนี้จะส่งเสริมนวัตกรรมในวงการคริปโตฯ ด้วยการลดความกำกวมทางกฎหมายและคุ้มครองผู้บริโภค
- Anti-CBDC Surveillance State Act: ร่างกฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อห้ามธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จากการออก, วิจัย หรือสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสำหรับรายย่อย (CBDC) โดยไม่ได้รับการอนุญาตอย่างชัดเจนจากรัฐสภา ร่างกฎหมายนี้จะมีการอภิปรายในวุฒิสภาในเดือนกันยายนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขกฎหมายการเงินในวงกว้าง ก่อนที่จะบังคับใช้เป็นกฎหมาย
- Senate Crypto Market Structure Bill: หรือที่เรียกว่า “Responsible Financial Innovation Act of 2025” คาดว่าจะผ่านการรับรองจากคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาภายในสิ้นเดือนกันยายน 2025 Tim Scott ประธานคณะกรรมาธิการ ได้แสดงเป้าหมาย ที่จะลงมติในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ SEC ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายน 2025
ผลกระทบจากการอภิปรายกฎหมาย GENIUS Act ต่อผู้ที่ออก Stablecoin
ผู้ใช้งานคริปโตฯ รายหนึ่งได้ เขียน บน X โดยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า “สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่ ‘เงียบ’ ในกรุงวอชิงตัน แต่สภามีกำหนดการเต็มที่เมื่อพวกเขากลับมาในเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายโครงสร้างตลาดที่ตอนนี้อยู่ในวุฒิสภา มีพลวัตมากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่ต้องจับตามอง”
หลังจากการบังคับใช้กฎที่เข้มงวดขึ้นในกฎหมายนี้ เฉพาะธนาคาร, บริษัทฟินเทคที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล และหน่วยงานที่ได้รับการกำกับดูแลโดยรัฐที่ผ่านตามมาตรฐานเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ออก Stablecoin นอกจากนี้ยังจะมีการเพิ่มความเข้มข้นในด้านความโปร่งใสและการตรวจสอบด้วยการควบคุมการฟอกเงินและการก่ออาชญากรรมทางการเงินอีกด้วย